ภูริดาก็ไม่ได้สนใจ เธอเปิดฝาชีขึ้นมาดูว่ามีอะไรอยู่ข้างในนั้น เมื่อวานเธอใช้พลังงานหนักมาก แล้วก็ไม่ได้กินข้าว กลับมาถึงบ้านก็นอนเลย ตอนนี้ท้องไส้เริ่มปั่นป่วน รู้สึกหิวขึ้นมาแล้ว
“ช่วยตักข้าวให้ฉันด้วยก็แล้วกัน ฉันหิว”
ทอดาวถอนใจอีกที ภูริดาช่างไม่รู้สึกรู้สา ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ทอดาวเอาแต่ส่ายหน้า
“คุณออกมาทั้งชุดนอนแบบนี้ คุณได้ล้างหน้าแปรงฟันหรือยังคะ” ทอดาวก็อดเหน็บไม่ได้อีก
“เอ๊ะ! นี่เธอไม่ใช่แม่ของฉันนะ แล้วนี่... มันก็ปากของฉัน ท้องของฉัน ฉันจะแปรงฟันหรือไม่แปรงฟัน ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ พูดแล้วก็หมดอารมณ์เลย เชอะ” ภูริดานั่งกอดอก แล้วเปลี่ยนอิริยาบถเป็นยกกาแฟขึ้นดื่ม
“ระวังร้อนนะคะ”
“โอ้ะ!” กาแฟร้อน ๆ ลวกปากของภูริดา ทอดาวได้แต่แอบขำสะใจ หมุนตัวหันไปตักข้าวใส่จานมาให้กับภูริดา
“ขอบใจย่ะ” รีบหยิบช้อนขึ้นมาคนข้าว เพราะเห็นควันลอยกรุ่นน่าจะร้อนพอ ๆ กับกาแฟ
“คุณใหม่คะ คุณก็รู้อยู่ว่าที่บ้านเราไม่มีคนรับใช้นะคะ ยังไงคุณกินเสร็จแล้ว ก็ช่วยเก็บล้างด้วยค่ะ”
ภูริดาอ้าปากเหมือนกำลังจะพูดอะไรอีก
แต่ว่าทอดาวก็ไม่ฟัง เธอเดินคลี่ยิ้มละมุนออกไปจากห้องครัว สำหรับตัวทอดาว ตอนนี้ก็กำลังควันออกหูเหมือนกัน เธอไม่รู้จะระบายเรื่องนี้ให้ใครฟังได้ ทอดาวได้แต่เก็บซ่อนความขุ่นมัวเอาไว้ในใจ
เธอเดินออกไปหน้าบ้าน ตั้งใจจะไปสูดอากาศสักหน่อย แม้ว่าอากาศข้างนอกจะร้อนแทบตับแตกเพราะเวลาใกล้เที่ยง แต่ก็ดีกว่าอยู่ข้างในบ้าน ขนาดคุณปริญไม่อยู่ แต่บรรยากาศในบ้านยังตึงเครียดได้
ทันทีที่เธอออกไป ทอดาวก็ได้ยินเสียงแตร และเห็นรถคันที่คุ้นตา รถยนต์ของปกป้องจอดอยู่หน้าบ้าน
“เฮ... คุณพี่สะใภ้ครับ ก็ว่าอยู่ทำไมไม่รับสายของผม เมื่อกี้ผมโทรหาคุณพี่สะใภ้แล้วนะครับ ไม่มีใครรับสาย ที่แท้พี่สะใภ้ก็จะออกมาต้อนรับผมนี่เอง” ทอดาวก็ยังชั่งใจ
“คุณพี่สะใภ้ครับช่วยเปิดประตูให้ผมหน่อยสิครับ” แล้วเขาก็โชว์ของที่เต็มสองกำมือให้เธอดู
“อะไรหรือคะนั่นคุณป้อง”
“คุณแม่น่ะสิครับ ลุกขึ้นทำอาหารเพื่อให้ผมเอามาฝากพี่ปริญ แม่ใช้ให้ผมเอาไปให้พี่ปริญที่โรงแรม แต่ผมไม่ไปหรอกนะ ผมเอามาฝากคุณพี่สะใภ้ที่นี่ดีกว่า รีบ ๆ เปิดสิครับ หนักมาก”
ทอดาวลังเลว่าเธอจะเปิดประตูบ้านให้กับปกป้องดีหรือเปล่า เพราะตระหนักได้ว่าภูริดาอยู่ข้างในบ้าน
“พี่สะใภ้ครับ ผมหนักนะครับ”
เขาส่งเสียงออกมาอีกครั้ง ทอดาวหันไปดูในบ้าน ก่อนจะตัดสินใจ เธอไปเปิดประตูให้เขาเข้ามา
“ประเทศไทยหรือเมืองขึ้นของพระอาทิตย์กันแน่ครับ ทำไมอากาศมันร้อนอย่างนี้ โอ๊ย ๆ ร้อนจริง ๆ ไม่ไหว ๆ” เหงื่อของปกป้องตกทีเดียว แล้วเขาก็ไม่รอทอดาว ปกป้องเดินลิ่ว ๆ เข้าไปในบ้าน
ทอดาวขยับเท้าเดินตาม เธอปิดเรื่องนี้ไม่ได้อีกต่อไป
“เดี๋ยวก่อนค่ะคุณปกป้องรอทอดาวด้วยค่ะ” เธอรีบเดินตามอย่างรีบเร่ง ใบหน้าเหนื่อย
ปกป้องหยุดอยู่ที่หน้าประตู เขาหันกลับมามองหน้าของพี่สะใภ้ ทั้งแววตาและสีหน้าของทอดาวไม่ดีเท่าไร ชายหนุ่มได้กลิ่นตุ ๆ เห็นเค้าลางที่ไม่ดีบางอย่าง แล้วเมื่อวานนี้พี่สะใภ้ถามถึงภูริดา ‘เอ๊ะ! หรือว่า’
พอเขาเข้าไปในบ้าน เขาก็เจอะเข้ากับภูริดาจริง ๆ ชายหนุ่มถึงกับอ้าปากค้างกับชุดนอนที่ภูริดาใส่อยู่ มันแทบปิดอะไรไม่ได้เลย เขาเห็นโครงสร้างของร่างกายส่วนเว้าส่วนโค้งที่ซ่อนอยู่ข้างใน เขาถึงกลืนน้ำลายดังเอื๊อก
‘เนื้อ นม ไข่ ขาวจั๊วะแบบนี้แหละ’
ที่เมื่อก่อนเขากับพี่ปริญจึงได้แย่งกันจีบเธอ แต่ตอนจีบทั้งสองพี่น้องไม่ได้รู้หรอกว่าได้จีบผู้หญิงคนเดียวกัน มาโป๊ะแตกตอนที่ไปเจอกันที่ร้านอาหาร ตอนที่ปริญควงภูริดาไปกินข้าวที่ร้านเดียวกันกับที่ปกป้องไปกินกับเพื่อน
“ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่” ปกป้องถามเสียงแข็งอย่างกับตำรวจกำลังสอบปากคำผู้ร้าย และสายตาที่เขามองภูริดาก็ไม่พอใจเอามาก ๆ
ภูริดาเองในตอนนั้นที่เธอตัดสินใจเลือกปริญเป็นแฟน เพราะว่าปกป้องยังเรียนไม่จบ ปริญที่ดูเป็นผู้ใหญ่ ดูอบอุ่น และมีวุฒิภาวะมากกว่า การงานก็กำลังดี ดูมีความก้าวหน้ามากกว่าน้องชายนั่นเอง
“ก็เจ้าของบ้านเขาอนุญาต ทำไมฉันจะอยู่ที่นี่ไม่ได้ล่ะ”
“แต่ที่นี่เป็นเรือนหอของพี่ปริญกับพี่สะใภ้ของผม ทางที่ดีคุณควรออกไปหาโรงแรมอยู่ หรือไม่ ก็ไปเช่าบ้านอยู่จะไม่ดีกว่าหรือ แล้วนี่... สภาพ” ปกป้องใช้มือชี้ไล่ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า มองภูริดาอย่างสังเวชใจ
“เธอจะเดินแก้ผ้ารอบบ้านคนอื่นแบบนี้ไม่ได้ น่าเกลียดที่สุด” ปกป้องว่าเธอแรง ๆ
ภูริดาก้มมองสภาพตัวเอง เรือนร่างที่แสนภูมิใจของเธอ แต่เมื่อทบทวนคำพูดของปกป้อง ภูริดาก็ทำสีหน้าไม่พอใจ เธอมองตอบปกป้องอย่างหงุดหงิด
“คนที่จะไล่ฉันออกไปจากบ้านหลังนี้ได้ ก็มีแต่พี่ปริญเท่านั้น คนอื่นไม่มีสิทธิ์” พูดเพราะปริญถือหางเธอ
ปกป้องหันมามองหน้าพี่สะใภ้ ที่ตอนนี้กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดวงหน้ามีแต่ความเศร้าหมอง เขาก็มองเธออย่างเห็นใจ
“ในเมื่อพี่ปริญอนุญาตให้เธอมาอยู่ที่นี่ได้ ถ้าอย่างนั้นฉันขอพี่ปริญมาอยู่ที่นี่ด้วยดีกว่า จะได้เป็นไม้กันหมา”
“นายนี่มัน...” ภูริดาเต้นเร่า ๆ อย่างไม่พอใจ
ทอดาวรีบเข้ามาขวางทั้งสองคน “เดี๋ยวก่อนค่ะคุณป้อง คุณป้องมาร้อน ๆ เชิญนั่งก่อนสิคะ จะกินน้ำเย็นไหม” และใช้สายตาไล่ภูริดาให้กลับเข้าไปในห้องนอน
ทอดาวไม่อยากให้ทั้งสองคนถกเถียงกันไปมากกว่านี้
ปกป้องหันมายิ้มบาง ๆ ก่อนจะนั่งลงแบบทำหน้าตาขวางโลก เขายังส่งสายตาท้าทายมองภูริดาอีกด้วย
ภูริดาเห็นท่าไม่ดี และไม่อยากต่อกร หรือเสวนากับปกป้องอีก ภูริดาจึงเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของเธอ
ปกป้องได้มองตามพี่สะใภ้ที มองตามภูริดาที
ภูริดาต้องมีแผนอะไรอยู่ในใจแน่นอน ถึงได้มาอยู่ที่นี่ ข่าวลือที่บอกว่าภูริดาเลิกกับสามีชาวสิงคโปร์นั่นก็คงจะเป็นจริง
------------
ฝากวิจารณ์ด้วยนะคะ ดรามาเรื่องแรก ๆ