ตอนที่1 มนต์เสน่ห์
ตอนที่1 มนต์เสน่ห์
…โอมโองการผ่านฟ้า กูจะร่ายมนตราอันศักดิ์สิทธิ์ ขอจงสำแดงฤทธิ์ครูโลกีย์ประสิทธิ์ให้แก่กู จงรักกู หลงกูมิไปไหน พิศวาสหลงใหลเพียงแต่กู อยากเสพสังวาสกายกูมิเสื่อมคลาย ด้วยอำนาจมนตราที่กูร่ายในบัดดล!
เสียงโองการอ่านอาคมดังแผ่วแว่วมาตามสายลมอ่อนๆ ราตรีอันมืดมิดไร้ดวงดารากระจ่างฟ้า มีเพียงเดือนเสี้ยวสีแดงดั่งโลหิตลอยเด่นตระการอยู่เหนือคฤหาสน์หลังใหญ่ ก่อนหน้าชายหนุ่มจะร่ายมนต์ดลคาถา บรรยากาศโดยรอบเงียบสงัดวังเวงแต่มิเนิ่นนานเท่านักก็บังเกิดเสียงโหยหวนหวีดหวิวดังระงมไปทั่ว สุนัขน้อยใหญ่ในละแวกใกล้เคียงพากันชูคอหอนประสานเสียงราวกับพวกมันพบเจอกับเรื่องเหนือธรรมชาติ ที่มนุษย์ปุถุชนสามัญไม่อาจพบพานได้โดยง่าย
ควันธูปหน้าโต๊ะบูชาที่เต็มไปด้วยเทวรูปหน้าตาน่ากลัวมากมายลอยละเลียดม้วนตัวเป็นเกลียวขึ้นไปจับตัวอยู่บนเพดานห้อง ปรากฏเป็นกลุ่มก้อนเลือนลางคล้ายหน้าภูติมารกำลังจ้องมองชายชุดขาวผู้อัญเชิญ ในนิมิตแห่งจิตนั้นดวงตาสีแดงเพลิงอันวาวโรจน์กำลังอำนวยอวยชัย บันดาลดลเพิ่มกระแสแห่งมนตราที่ผู้เคารพศรัทธาให้บังเกิดความขลังดั่งใจนึก ก่อนจะสลายหายไปเป็นอากาศธาตุดุจดังเดิม
“แกเห็นใช่มั้ยไอ้ดิว”
ชายวัยกลางคนแต่งตัวภูมิฐานท่าท่ากระตุ้งกระติ้งกระซิบเพื่อนที่นั่งปากอ้าตาค้างอยู่ด้านหลังชายชุดขาวผู้ทำพิธี
“ผมเชื่อแล้วพี่แนน ว่าอาจารย์เทพ สาลิกานี่ของจริง”
ดิวยกมือลูบแขนตัวเองที่กำลังขนลุกชูชัน ดารานักแสดงหนุ่มตกอับมีสีหน้ามั่นอกมั่นใจมากขึ้น ตั้งแต่พบกับเจ้าของบ้านกระทั่งมานั่งทำพิธีกรรมเหนือธรรมชาติดังกล่าวในใจเขาคิดปรามาสอาจารย์เทพ สาริกา มาโดยตลอด นั่นอาจเป็นเพราะคนรุ่นใหม่อย่างเขาไม่เคยเชื่อว่าสิ่งลี้ลับพวกนี้มีอยู่จริง จนแนนซี่ผู้จัดการสาวประเภทสองแนะนำแถมบังคับให้เขามาเพื่อทำพิธี
“ยังไม่ต้องเชื่อหรือเคารพนับถือกัน ถ้าไม่ได้เห็นกับตาตัวเองไมได้ศรัทธาด้วยใจตนเอง”
ผู้ที่ถูกเรียกขานว่าอาจารย์เทพ พ่วงท้ายด้วยสาลิกา หันมาหาแขกผู้มาเยือนหลังเสร็จพิธีกรรม มือที่ถือพานทองอยู่วางลงตรงหน้า ในพานสีทองมีดอกไม้ธูปเทียนแพจัดเป็นเครื่องบูชาที่เรียกว่าขันธ์ห้า นอกเหนือจากนั้นยังมีหุ่นปั้นด้วยขี้ผึ้งมัดด้วยด้ายสายสินธุ ซึ่งได้มาจากด้ายอาถรรพ์ผ่านการจูงศพ
“มันจะได้ผลชัวร์ใช่มั้ยฮะอาจารย์” แนนซี่กรีดสายตามองไปยังอาจารย์หนุ่ม
“ของที่อาจารย์ทำทุกชิ้นรับประกันว่าขลัง ถ้าเส้นผมรวมทั้งชื่อสกุล วันเดือนปีเกิดที่ไอ้หนุ่มนี้หามาไม่ผิดล่ะก็ไม่เกินสามวัน ผู้หญิงคนนั้นจะวิ่งมาให้ไอ้หนุ่มนี้ถึงที่” ชายชุดขาวจุดบุหรี่ขึ้นสูบ
“ถ้าของอาจารย์ใช้ได้ผลจริง น้องมุกจะต้องซมซานกลับมาผมซบอกผมอีกครั้ง” ดิวสีหน้าเปี่ยมไปด้วยความหวัง
“คราวนี้แกก็จะเกาะกระแสแม่นั่นกลับมาดังมีงานมีเงินเหมือนเดิม”
ผู้จัดการสาวเทียมหันไปจ้องหน้าดาราในสังกัดตาเป็นประกาย
“อะแฮ่ม…อึมม” อาจารย์เทพกระแอมเสียงดัง
“อ๋อ เกือบลืมไป นี่ค่ะอาจารย์เงินค่าครูห้าหมื่นบาทถ้วนไม่ขาดไม่เกิน แล้วถ้าสำเร็จนะคะมีสมหน้าคุณอีกแน่นอนค่ะจารย์แนนซี่รับรอง” แนนซี่จีบปากจีบคอพูด
“คนที่ไม่ลืมบุญคุณคนจะพบแต่ความเจริญ”
“สาธุ…งั้นแนนซี่กับดิวกราบลาอาจารย์เลยนะคะ อาจารย์จะพักผ่อน”
“โชคดี โชคดี อย่าลืมเอาหุ่นนี้ไปด้วยเอาซ่อนไว้ใต้เตียงที่พวกเอ็งนอนร่วมรักกันยิ่งนานวันมันจะยิ่งขลังขึ้นเป็นเท่าตัว เอ้า รับไป” อาจารย์เทพยื่นหุ่นปั้นให้ดาราหนุ่ม
“เฮ้ยยย…” ทันทีที่ดิวรับไปก็ร้องลั่นมือสั่นหน้าซีด “อาจารย์”
“ทำจิตใจให้เข้มแข็งเอาไว้ ไม่มีอะไรหรอกสิ่งนี้จะทำให้เอ็งสมหวัง ฮ่ะฮ่ะฮ่ะ”
“แกเห็นอะไรเหรอว่ะดิว?”
“ปะ เปล่าพี่แนนไม่มีอะไร ผมกราบลาเลยนะครับอาจารย์”
“อืม โชคดี”
อาจารย์เทพหัวเราะออกมาเบาๆ อย่างอารมณ์ดีขณมองแขกทั้งสองคนเดินออกจากห้องพิธีไป