บทที่ 7

1327 คำ
“ทำหน้าให้มันดีๆ หน่อยสิช่อ” เสียงเล็กรอดไรฟันกระซิบบอก คนฟังที่ก้มงุดเงยหน้าขึ้นมองเล็กน้อยแล้วปรายตาไปยังคู่สนทนาของบิดาและมารดาค่อนจะคลี่ยิ้ม            “หนูช่อดูเหนื่อยๆ หรือเปล่าครับเนี่ย” รัฐมนตรีสมานเอ่ยขึ้น ปรายตามองเด็กสาวพลางยกวิสกี้ในมือขึ้นดื่ม            “ก็คงมีบ้างค่ะท่าน ปีนี้ก็จะเรียนจบปริญญาตรีแล้ว อาจจะเครียดสักหน่อย” ผู้เป็นแม่กล่าวบอกอย่างนอบน้อม เพราะอีกฝ่ายมียศถาบรรดาศักดิ์ระดับแถวหน้าเลยทีเดียว            “คุณอรกับคุณภพโชคดีจริงๆ นะครับมีลูกสาวทั้งเก่ง ทั่วสวย ยิ่งโตก็ยิ่งสวยเสียด้วย”            “ก็ได้แม่เขาล่ะครับท่าน”            “คุยอะไรกันอยู่คะ ขอพวกเราร่วมวงด้วยได้ไหมเอ่ย” คุณหญิงศรี คุณพรพรรณและคุณลัดดาเดินยิ้มเข้ามาในขณะที่ทุกคนกำลังสนทนากันอยู่            “เชิญเลยค่ะคุณหญิง กำลังคิดถึงอยู่พอดี”            “นานๆ จะได้พบกันนะคะคุณอร หนูช่อเป็นสาวขึ้นเยอะเลย นี่น้าได้ข่าวว่าจะจบปริญญาแล้วเหรอลูก”            “ค่ะคุณน้า...”            “เก่งจริงๆ เด็กคนนี้ ดิฉันก็คุยอยู่กับเพื่อนๆ นะคะว่าอิจฉาคุณอรกับท่านภพเหลือเกิน มีหนูช่อคนเดียวก็เหมือนมีลูกทั้งดีทั้งเก่งสักสิบคน” คุณหญิงศจีกล่าวพลางหยิบเครื่องดื่มจากบริกรอีกครั้ง            “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกค่ะคุณหญิง ชมกันเกินไปแล้ว” คุณหญิงอรอรหัวร่อพลางตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม บ่งบอกถึงความภาคภูมิใจอยู่ในทีแม้จะพูดจาถ่อมตัวก็ตาม            “ว่าแต่เรียนจบ ป.ตรีแล้วอยากเรียนต่อหรือเปล่าจ๊ะหนูช่อ หรือจะทำงานเลย”            “อยากให้ไปเรียนต่อโทที่ต่างประเทศค่ะคุณหญิง อยากให้เขามีความรู้ติดตัวไว้ ออกมาทำงานวุฒิแต่ ป.ตรี มันเกลื่อนไปหมดค่ะ กลัวจะสู้คนอื่นเขาไม่ได้”            “แหม...เกรดเฉลี่ยสี่จุดศูนย์ทุกเทอมทุกวิชาแบบนี้ แถมความรู้ความสามารถรอบตัว ยังจะมีใครกล้าเป็นคู่แข่งกันคะ” คุณพรพรรณเสริม            “ก็เข็ญกันพอสมควรค่ะ ดีที่ยัยหนูของเราใฝ่ดี ดิฉันกับคุณพี่ภพก็เลยไม่เคยทุกข์ใจเลย” มือของหญิงวัยกลางคนจับมือเล็กของลูกสาวขึ้นมาลูบด้วยความเอ็นดู ทำให้ทุกคนอดยิ้มไม่ได้กับภาพความอบอุ่นในครอบครัว            “แบบนั้นก็ดีนะคะพี่ว่า...แล้วหนูช่อดูไว้หรือยังว่าอยากไปเรียนต่อที่ไหน”            “จะให้ไปอยู่สหรัฐฯ ค่ะคุณหญิง ไหนๆ ก็จะไปเรียนเมืองนอกทั้งทีก็อยากเลือกมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดนะคะ เราก็มีลูกสาวแค่คนเดียว” คุณอรอรกล่าว            “หนูช่ออยากลองดื่มนี่ดูสักนิดนะ เผื่อจะได้สดชื่นขึ้น” ในระหว่างที่สนทนากันอยู่นั้น รัฐมนตรีสมานหยิบเครื่องดื่มจากบริกรแล้วส่งให้เด็กสาว หล่อนมองหน้าบิดาและมารดาเพื่อขอคำปรึกษา แต่ก็ถูกแววตาเขม่นเข่นเขี้ยวจ้องตอบกลับมาในแวบ หนึ่ง แล้วก็ปรับกลับกลายเป็นยิ้มแย้มปกติ            “คือ...ช่อไม่ดื่มเหล้านะคะ”            “เหล้าที่ไหนกัน นี่เครื่องดื่มของผู้หญิงนะหนู ดูสิ...สีสวย กลิ่นหอม รสชาติก็ออกหวานๆ”            “คุณแม่คะ...เหนื่อย อยากกลับแล้วค่ะ วันนี้ฝึกงานทั้งวัน รายงานอีกหลายวิชาก็ยังไม่เสร็จเลย พรุ่งนี้ช่อก็ต้องตื่นแต่เช้า” หล่อนมองผ่านชายสูงอายุที่ส่งเครื่องดื่มให้ เด็กสาวรู้สึกถึงความไม่ปกติในดวงตาที่มองหล่อนอยู่นั้น แม้จะพยายามส่งสัญญาณของความช่วยเหลือจากบิดาและมารดาก็ดูจะไม่เป็นผลสักเท่าไหร่            พวกท่านอาจไม่ได้คิดและเห็นเหมือนอย่างที่หล่อนกำลังสงสัยอยู่...            “อะไรกัน...นี่เพิ่งมาถึง อย่าเสียมารยาทได้ไหม” คุณอรอรกระซิบได้ยินกันเพียงสองคน            “หนูช่อคงเหนื่อยมั้งคะ เอาอย่างนี้ ไปนอนพักในบ้านน้าก่อนก็ได้นะลูก ทางนี้ก็ให้ผู้ใหญ่เขาคุยกัน หรือหนูอยากกลับบ้านก่อนไหม เดี๋ยวน้าจะให้คนไปส่ง” คุณหญิงศจียื่นข้อเสนอด้วยความเห็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าซีดเซียวของเด็กสาว            “เดี๋ยวให้อาไปส่งก็ได้...ดื่มนี่ก่อนสักแก้วจะได้สดชื่นนะจ๊ะ มาๆ ทำหน้าเครียดทำไม”            “ไม่ค่ะช่อไม่ดื่ม...ช่อไม่ชอบ!!” เด็กสาวถอยเท้าเมื่อร่างใหญ่ของรัฐมนตรีสมานถือแก้วเครื่องดื่มสีสวยเดินเข้ามาหา พร้อมกับคะยั้นคะยอส่งให้หล่อนรับไว้ให้ได้ เด็กสาวปัดป่ายด้วยความฉุนเฉียวเพราะวันนี้หล่อนทั้งเหนื่อยและอ่อนล้ามาทั้งวัน พอกลับถึงบ้านก็ถูกลากมาร่วมงานสังสรรค์ ซึ่งหล่อนไม่ได้ชื่นชอบเลยสักนิด            “ว้าย! ตายแล้ว!!!”            “ว้ายยัยช่อ ทำอะไรของแกเนี่ย!!!”            เหตุชุลมุนเกิดขึ้นกะทันหันทำให้ทุกคนในกลุ่มรีบก้าวถอยออกห่างแก้วเครื่องดื่มที่ตกลงพื้นแตกกระจาย น้ำหวานเมาสีฟ้าเปื้อนเต็มเสื้อผ้าของรัฐมนตรีสมานจนคุณหญิงศจีต้องเอามือปิดปากกลั้นเสียงอุทาน เนื่องด้วยเป็นแขกคนสำคัญ            “ช่อขอโทษนะคะ ขอโทษค่ะ” เด็กสาวยกมือไหว้ สีหน้าของหล่อนตกใจอยู่ไม่น้อยเนื่องจากเป็นเหตุไม่ตั้งใจ เพราะหล่อนอยากปกป้องตัวเองจากการคุกคามเท่านั้น            “ท่านสมาน...ผมต้องขอโทษแทนลูกสาวด้วยครับ ยังไงผมจะขอรับผิดชอบเรื่องนี้เอง”            “คุณหญิงศจี ท่านสมานดิฉันก็ต้องขอโทษที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นนะคะ เสียบรรยากาศหมดเลย” คุณอรอรกุลีกุจอเอ่ยขึ้นบ้าง            “ไปถอดเสื้อให้เด็กในบ้านทำความสะอาดก่อนดีกว่าค่ะท่าน หนูช่อก็คงไม่ได้ตั้งใจหรอก เอาอย่างนี้นะคะ ในฐานะที่เป็นเจ้าของงานดิฉันขอรับผิดชอบเรื่องทั้งหมดแต่เพียงผู้เดียว อย่าไปดุเด็กเลย”            “อะไรกันครับทุกคน เห็นผมเป็นคนใจแคบไปได้ ไม่เป็นไรๆ ครับ เดี๋ยวขอตัวไปทำความสะอาดสักเล็กน้อยก็พอแล้ว” ผู้ถูกกระทำยังคงกล่าวกับทุกคนอย่างอารมณ์ดีทำให้เหตุการณ์คลายความตึงเครียดไปได้บ้าง            แต่คุณอรอรและคุณพวาภพก็ยังคงมองบุตรสาวด้วยสายตาเข่นเขี้ยว จนเด็กสาวตัวหงอสั่นงก            “ขอบคุณมากค่ะท่าน มาค่ะดิฉันจะพาไปจัดการให้เอง คุณลัดดา คุณพรพรรณแล้วก็คุณอรกับทุกคนรอดิฉันสักครู่นะคะ” ร่างระหงในชุดราตรีของคุณหญิงศจีรีบลากแขนรัฐมนตรีสมานเข้าไปด้านในตัวบ้าน ปล่อยให้ด้านนอกเข้าสู่สภาวะปกติ ทุกคนหันมาดื่มและพูดคุยกันเคล้าเสียงเพลงไพเราะเหมือนเดิม คนอื่นๆ ในกลุ่มก็แยกย้ายกันไป เหลือเพียงสามคนพ่อแม่ลูกที่กำลังอยู่ในอาการมึนตึง            “เรากลับกันดีกว่าคุณ”            “ไม่ได้หรอกค่ะ เกรงใจคุณหญิงท่าน...แต่เห็นทีฉันต้องสั่งสอนกันสักหน่อยแล้ว ทำให้ทุกคนวุ่นวายไปหมดแบบนี้ มันน่าขายหน้าจริงๆ”            “ช่อก็แค่ไม่อยากดื่ม ช่อไม่ได้ตั้งใจนะคะคุณพ่อ คุณแม่”            “ไม่ชอบก็บอกก็กล่าวกันดีๆ ไปปัดใส่หน้าเขาแบบนั้นได้ยังไง ไร้มารยาทสิ้นดี นี่มันงานสังคมระดับไหนรู้บ้างไหม ทำตัวสถุนเหมือนพวกไม่ได้รับการสั่งสอน พาพ่อพาแม่อายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหน! หึ” พูดจบอดีตนายตำรวจยศใหญ่ก็สาวเท้าเดินเข้าไปอีกด้านของงานเลี้ยงอีกคน            “แกมานี่เลยนังลูกไม่รักดี”            ราดาถูกผู้เป็นแม่กระชากมือพาเดินไปยังมุมมืดของตัวบ้าน เด็กสาวรู้ตัวทันทีว่าตนเองต้องพบเจออะไรบ้าง แม้จะเป็นเช่นนั้นมาชั่วชีวิต แต่มันก็ไม่เคยชินเสียที
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม