บทที่ 6

1071 คำ
       งานเลี้ยงค๊อกเทลเล็กๆ สำหรับครอบครัวและเพื่อนฝูงจัดขึ้นตรงสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ของบ้าน แขกที่มาในงานล้วนแต่มีบทบาทในสังคมชั้นสูง ทั้งหนุ่มสาว และวัยผู้ใหญ่ ทุกคนล้วนแล้วสวมเสื้อผ้าด้วยชุดราคาแพงลิบ ตัดเย็บประณีตงดงามโดยฝีมือที่มักมีชื่อเสียง            เมื่อมีชุดสวยแล้วที่ขาดไม่ได้เลยก็คือเครื่องประดับ...ซึ่งสาวน้อยสาวใหญ่ต่างให้ความสนใจกับหัวข้อสนทนาในเรื่องความสวยความงาม ถามไถ่ชื่นชมกันตามมารยาท ส่วนผู้ชายก็เน้นดื่มและพูดคุยเรื่องสัพเพเหระไม่ครึกครื้นเท่าพวกผู้หญิง            “จอมน่าจะพาน้องเกล้ามาด้วยนะ ถ้าดึกนักก็ให้นอนที่บ้านนี้เสียจะเป็นไรไป บ้านออกใหญ่โต เรารึก็คนกันเองทั้งนั้น” หญิงวัยกลางคนในชุดราตรีสีดำสนิทอวดสัดส่วนขัดกับวัยเพราะเป็นคนดูแลสุขภาพดีกล่าวกับจอมเกล้าแล้วยกเครื่องดื่มขึ้นจิบเบาๆ            “นั่นสิคะคุณหญิง...ดิฉันก็อยากเห็นหลานเหมือนกัน พ่อแม่คู่นี้เขาหวงลูกอย่างกับอะไรดี ไม่ค่อยพาออกนอกบ้านกันเลยทีเดียว”            “จอมกลัวคุณเมฆจะดื่มจนเมาขับรถไม่ไหวสิคะ เอาลูกมาด้วยอันตราย ลำพังแค่เราสองคนยังถูไถไปกันได้” ผู้ถูกพาดพิงถึงกล่าว            “นั่นไงคะ...เห็นไหมคุณหญิง ดิฉันบอกแล้วว่าพ่อแม่คู่นี้เขาหวงลูกเขาอย่างกับจงอางหวงไข่ เอาเป็นว่าอีกสองเดือนวันเกิดน้องพีทลูกสาวน้า จัดงานเลี้ยงเล็กๆ ให้เด็กๆ เขาได้สนุกกัน หนูจอมต้องพาน้องเกล้ามาให้ได้นะคะ”            “นั่นสิจอม พาลูกออกสังคมบ้างเถอะเขาจะได้เรียนรู้ จะได้เก่งแล้วก็ฉลาดเหมือนเราไง” คุณหญิงศจีเสริม ด้วยคุ้นเคยกับครอบครัวของจอมเกล้ามาหลายปี จึงค่อนข้างผูกพันเหมือนญาติ แต่ด้วยภาระหน้าที่ของแต่ละคนทำให้เกิดช่องว่างและความห่างเหินต่อกันมากขึ้น เมื่อจอมเกล้าเติบโตและมีครอบครัวก็ยิ่งไม่ค่อยได้อยู่พร้อมหน้ากันเหมือนสมัยที่หล่อนยังเป็นเด็ก            “น้องเกล้าเพิ่งจะสองขวบกว่าๆ เองค่ะคุณน้า ถ้าโตกว่านี้อีกหน่อยก็คิดว่าจะพาเข้าโรงเรียนแล้วค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มมีคิวงานเข้ามาแล้วสิคะ อย่างงานวันเกิดน้องพีทหลานคุณน้าพรพรรณนี่ถ้าไม่ไปคงโดนเคืองแน่ๆ”            “แน่นอนค่ะ ไว้คราวหน้ามีงานสำคัญอีกน้าต้องรบกวนหนูจอมแล้วล่ะ ตัดชุดได้สวยจริงๆ อยากไปตัดร้านนี้กับเขาบ้างจังเลย” คุณพรพรรณภรรยาของรัฐมลตรีท่านหนึ่งในกลุ่มสนทนากล่าวด้วยท่าทีเป็นกันเอง            เครื่องดื่มสำหรับสาวๆ ไม่ค่อยสำคัญเท่าหัวข้อการพูดคุย ได้พบปะสังสรรค์ตามอัธยาศัย บางครั้งเมฆีก็เดินเข้ามาดูแลภรรยาบ้าง เพราะไม่อยากให้หล่อนคิดว่าเขาทอดทิ้ง ในขณะที่เวลาส่วนมากเขาจะจับกลุ่มอยู่กับเพื่อนฝูงและผู้ใหญ่ในวงสังคม            “ถ้าง่วงก็บอกผมนะจอม...ไม่ต้องฝืนตัวเองรู้ไหม” ร่างใหญ่เดินเข้ามาแนบชิดภรรยาแล้วรวบเอวบางเข้ามากอดเอาไว้ จอมเกล้ามองสามีเล็กน้อยก่อนจะยิ้มให้เขา            “ยังไม่ง่วงหรอกค่ะ นานๆ ทีคุณจะได้ออกมาผ่อนคลาย ทุกวันก็ทำแต่งาน ฉันอยากให้คุณได้มีเวลาตรงนี้บ้าง”            “นี่คุณ...ผมไม่ได้เป็นเด็กมีปัญหานะ” ชายหนุ่มหัวเราะร่วน            “แหม่ๆ สองคนนี่รักกันหวานชื่นจนน่าอิจฉาจริงๆ เบาๆ หน่อยนะคะคนแก่อิจฉาค่ะ”            “เมียผมทั้งสวยทั้งเก่งแบบนี้ไม่รักไม่หวานก็บ้าแล้วครับคุณน้า”            “นั่นสิคะคุณหญิง น่าดิฉันเห็นแล้วเขินแทนเลยเชียว”            เสียงเอ่ยแซวเซ็งแซ่จนเมฆีต้องกอดร่างของภรรยาเอาไว้แน่นกว่าเดิมเพราะเขารู้ว่าหล่อนกำลังเขินอายที่ต้องตกเป็นเป้าสายตาและหัวข้อการสนทนา            “เอ...นั้นคุณหญิงอรนี่คะ ลูกสาวโตเป็นสาวแล้วสวยเชียว” คุณพรพรรณหันไปทางอีกฝั่งแล้วเอ่ยขึ้นเมื่อสายตามองเห็นคนรู้จัก            “อ๋อ...ใช่ค่ะ นานๆ จะเห็นหน้าค่าตากันสักทีเหมือนกันครอบครัวนี้ เห็นว่าหนูช่อกำลังจะเรียนจบปริญญาก็เลยต้องให้เวลาเต็มที่กับลูก” คุณหญิงศจีอธิบายเสริมเพราะเป็นคนเชิญและเป็นเจ้าของงานในค่ำคืนนี้            “เอ๋...” เมฆีขมวดคิ้วมองตามบุคคลที่ถูกกล่าวถึง จนจอมเกล้าเอ่ยถาม            “คุณรู้จักเหรอคะ”            “เด็กคนนั้นเขาฝึกงานที่บริษัทผมน่ะ ทำงานได้สักอาทิตย์กว่าๆ แล้วมั้ง” เขาตอบ แต่ก็อดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมถึงไม่เคยเห็นราดาในงานสังคมเลย ทั้งที่เขาและจอมเกล้าก็ออกงานกันบ่อย            “อ้าว...ไปฝึกงานที่บริษัทของเมฆหรอกหรือ โลกกลมแท้ๆ”            “ครับคุณน้าศจี เป็นผู้ช่วยเลขาของผมอยู่ เป็นเด็กค่อนข้างเงียบขรึมแต่ก็ฉลาดแล้วก็ขยันใช้ได้เลยทีเดียว”            “บ้านนั้นเขามีลูกกันตอนอายุมากแล้ว ก็เลยเลี้ยงเสียลูกเหมือนไข่ในหิน แต่หนูช่อก็ได้ดั่งใจพ่อแม่นะ เก่งรอบด้าน นี่ได้ข่าวว่าได้เกรดสี่ทุกเทอมตั้งแต่ไหนแต่ไรมา เป็นเด็กกิจกรรมตลอดด้วย ไม่เคยทำให้พ่อแม่ผิดหวังเลยล่ะ”            “มีลูกคนเดียวแต่ได้แบบหนูช่อเนี่ย ดีกว่ามีลูกสักสิบคนนะคะคุณหญิง”            “งั้นเดี๋ยวฉันขอตัวไปทักทายหน่อยก็แล้วกัน เมื่อกี้ไม่ได้คุยกันสักเท่าไหร่เพราะมัวแต่ทักทายแขกคนอื่น ใครจะตามมาบ้างจ๊ะ หืม...ว่าไง เมฆ จอม”            “ไม่ล่ะค่ะคุณน้า ตามสบายนะครับ ผมขอพาจอมไปนั่งพักตรงโน้นสักแป๊บก็แล้วกัน” เมฆียิ้มให้กับผู้ใหญ่ที่นับถือ            “งั้นเราไปกันเถอะค่ะคุณพรพรรณ คุณลัดดาปล่อยหนุ่มสาวเขาอยู่ของเขาไป” คุณศจีวางแก้วเครื่องดื่มลงในถาดที่บริกรถืออยู่แล้วชักชวนเพื่อนเดินหายเข้าไปในกลุ่มแขกเหรื่ออื่นๆ เมฆีจึงจูงมือภรรยาพาไปนั่งคุยกันตรงมุมติดกับสระว่ายน้ำ แต่ห่างออกมาเล็กน้อยเพื่อให้หญิงสาวได้ผ่อนคลาย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม