“ผมยังไม่เจอคนถูกใจนี่ครับ คุณย่ารออุ้มลูกอรไปก่อนล่ะกัน อีกสามเดือนก็จะแต่งงานแล้ว อย่ารอผมเลยครับ เพราะผมให้คำตอบเรื่องนี้กับคุณย่าไม่ได้” เศกภพพูดตรง เขาไม่อยากให้ลัดดารอคอยในเรื่องที่ไม่มีทางเป็นจริงได้ในเร็ววันนี้ หรือไม่แน่อาจไม่มีวันนั้นเลยก็ได้
ชั่ววินาทีที่พูด จิตใจเศกภพนึกถึงแมวขี้เซาขึ้นมาทันใด ดวงหน้างามยังคงตรึงในความทรงจำ พยายามปัดออกไปแต่ก็ยากยิ่ง ราวกับว่าภาพนั้นถูกตอกด้วยตะปูยึดติดกับความรู้สึกแน่นหนา แถมใจสั่งว่า อยากเจอเธออีกครั้ง
“เหลนที่เกิดจากอร ย่าได้อุ้มอยู่แล้ว ที่ย่าพูดย่าถามเพราะอยากให้แกลงหลักปักฐานกับผู้หญิงสักคน ชีวิตจะได้สมบูรณ์ แต่ถ้าแกยังไม่เจอผู้หญิงคนนั้น ย่าก็ไม่เร่งนะ ย่ารู้ดีว่า เรื่องแบบนี้เร่งกันไม่ได้”
ลัดดาเป็นผู้ใหญ่เข้าใจโลก เข้าใจลูกหลาน นางไม่เคยเร่งรัดหลานชายสุดที่รัก อาจมีถามบ้างก็แค่นั้น เศกภพวางช้อนลงบนจานข้าว ลุกเดินมาหาลัดดา เขาสวมกอดนางทางด้านหลัง หอมแก้มคนเป็นย่าทั้งสองข้าง ลัดดายิ้มกับการกระทำของหลานรัก
“ผมรักคุณย่าที่สุดในโลก ขอบคุณนะครับที่เข้าใจผม”
“ย่าเข้าใจทิวนะลูก ย่ารอได้หรือถ้าทิวอยากอยู่เป็นโสดไปตลอดชีวิตย่าก็ไม่ว่า ชีวิตเป็นของทิว ทิวเต็มที่ได้เลยลูก อย่าฝืนทำอะไรเพื่อใครถ้าทิวไม่เต็มใจ เพราะทิวจะไม่มีความสุข ย่าอยากเห็นทิวมีความสุข” ลัดดารักเศกภพมาก เป็นหลานรักที่ใครแตะต้องไม่ได้ นางยอมรับว่าอยากอุ้มเหลนที่เกิดจากเศกภพมากกว่า แต่ก็ไม่ขัดหากได้อุ้มลูกอรวิภาก่อน เพราะถึงอย่างไรก็ขึ้นชื่อว่าเหลนนางเหมือนกัน
“เอาเป็นว่า ผมจะเปิดใจให้ผู้หญิงสักคนนะครับ แต่ไม่รับปากว่าเมื่อไหร่” เศกภพไม่อยากให้ความหวังแต่ก็ไม่ตัดความหวังคนเป็นย่า
“จ้ะ ย่าจะรอนะ” แค่นี้ลัดดาก็ดีใจแล้ว เศกภพหอมแก้มลัดดาอีกหนึ่งฟอด ก่อนเดินกลับมานั่งที่เดิม
“คุณแม่แต่งตัวแบบนี้จะออกไปข้างนอกหรือคะ” อรอุมาลูกสะใภ้เอ่ยถาม
“ใช่ แม่จะไปเยี่ยมปู่ชาติน่ะ ไม่ได้ไปเป็นเดือนแล้ว”
ปู่ชาติคือเพื่อนรักของลัดดา ที่เวลานี้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งท่อนล่าง เดินไม่ได้มานานกว่าหนึ่งปี ช่วงนี้อยู่ระหว่างรักษาตัวและทำกายภาพบำบัด อาการดีขึ้นตามลำดับ
“ให้ผมไปส่งคุณย่าดีไหมครับ ทางผ่านผมพอดี วันนี้ผมนัดกับไอ้สามตัวไปดูที่กันที่ชลบุรีครับ กะว่าจะไปรถคันเดียวกัน นัดเจอกันที่บ้านตั้มจะได้ออกไปทางมอเตอร์เวย์เลย แล้วขากลับคุณย่าก็โทรให้ลุงมันไปรับ” เศกภพอาสา อยากเอาใจลัดดาบ้าง ชดเชยที่ตนยังหาแม่ของลูกไม่ได้
“ได้สิ” ลัดดาไม่ปฎิเสธ หลังจากคุยกันเสร็จทุกคนลงมือกินมื้อเช้าต่อไป เมื่ออิ่มท้องต่างแยกย้ายกันไปทำกิจวัตรของแต่ละคน เศกภพเดินโอบเอวย่าสุดที่รักไปยังรปอร์เช่ คาเยนน์ราคายี่สิบล้านของตน ก่อนขับรถมุ่งตรงไปยังบ้านของปานวาด ลูกสาวปู่ชาติ
เศกภพนำรถยนต์สุดหรูมาจอดหน้าประตูมุขบ้านปานวาด เขาลงจากรถเป็นคนแรกเพื่อไปเปิดประตูให้คนเป็นย่า ก่อนประคองนางเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ โดยมีปานวาดออกมาต้อนรับ
“สวัสดีค่ะคุณแม่” ปานวาดพนมมือไหว้ลัดดา ในขณะที่เศกภพยกมือไหว้เจ้าของบ้าน “วันนี้โชคดีจังได้เจอทิวด้วย ไม่ได้เจอกันนานเป็นปีเลยนะ ยังหล่อเหมือนเดิม”
“หล่อมากและยังโสดสนิท” ลัดดาอวยหลานชายที่ยืนยิ้มยอมรับในคำชม “ไม่ได้มานาน วาดสบายดีนะลูก”
“สบายดีค่ะ คุณแม่ดูแข็งแรงเหมือนเดิมเลยนะคะ”
“ก็เรื่อยๆ น่ะ ดีที่ไม่มีโรครุมเร้า” ลัดดาตอบ “แม่ซื้อของมาเยี่ยมชาติ และมีของฝากให้วาดด้วยนะ เดี๋ยวให้หน่อยไปเอาที่รถนะ”
“ขอบคุณค่ะคุณแม่” ลัดดายกมือไหว้พร้อมกล่าวคำขอบคุณ
“ทิวไปเถอะลูก ขอบใจมากนะที่มาส่งย่า”
“ครับคุณย่า” เศกภพหอมแก้มลัดดา “ผมไปก่อนนะครับคุณย่า สวัสดีครับน้าวาด”
“จ้ะ เดี๋ยวน้าให้หน่อยไปเอาของที่รถนะ” ปานวาดเรียกสร้อย ที่เดินตามร่างสูงใหญ่แสนสมาร์ทไปหน้าบ้าน หยิบของฝากออกจากรถ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเศกภพขับรถออกไปทันที
ขณะที่เจ้าของรถคันหรูกำลังเลี้ยวออกจากบ้านปานวาด เขาหันไปมองรถทางด้านขวา เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีรถมา เป็นจังหวะเดียวกันกับที่จันทร์หอมเดินเลี้ยวเข้าบ้านผ่านประตูบานเล็ก พอเขาหันกลับมามองทางด้านซ้ายเพื่อเลี้ยวรถออกไปบนถนนในซอย จันทร์หอมก็พ้นระยะสายตาเขา เศกภพจึงไม่ทันเห็นเจ้าหญิงนิทรา แมวตัวน้อยที่แวบเข้ามาในหัวใจเนืองๆ
ทว่าความรู้สึกดังกล่าวถูกปัดออกไปทันทีทันใด เศกภพไม่พร้อมมีความรัก หยุดที่ผู้หญิงคนเดียวไม่ได้ อีกทั้งคนที่ก่อกวนใจเขาอยู่นั้น ไม่คู่ควรกับเศกภพ วิริยะเดชาสกุล หากเธอจะเข้ามาในชีวิตเขาก็เป็นได้เพียงนางบำเรอหรือผู้หญิงชั่วคราวของเขาเท่านั้น
หลังจากดูที่ดินผืนใหญ่เสร็จ สี่หนุ่มเพื่อนรักแวะทานอาหารร้านดังในจังหวัดชลบุรี อิ่มท้องจึงพากันเดินทางกลับกรุงเทพ ทว่าไม่ได้กลับบ้านใครบ้านมัน พวกเขามานั่งหาความสำราญในผับมารูแอล โดยวันนี้มีสาวสวยเกรดพรีเมี่ยมคอยเอาใจแบบตัวต่อตัว
ขณะนั่งคลอเคลียสาวๆ พนักงานเสิร์ฟสองหนุ่มสาวนำเครื่องดื่มและอาหารเข้ามาในห้อง เศกภพที่ไม่เคยสนใจการเข้ามาของพนักงานบริการ ทว่าครั้งนี้เขากลับมองใบหน้าบริกรหญิงราวกับว่า อยากให้ใบหน้าหญิงสาวคนนี้เป็นอีกคน เศกภพดูผิดหวังหน่อยๆ แต่ก็ทำนิ่งเฉย ไม่ให้เพื่อนสงสัย เพียงแค่พนักงานทั้งสองหมุนตัวกำลังเดินออกจากห้อง ร่างสูงใหญ่ของเศกภพดีดตัวลุกขึ้นยืน
“ฉันขอตัวเข้าห้องน้ำก่อนนะ” จากนั้นก็เดินออกจากห้องวีไอพี ตามพนักงานทั้งสองไปติดๆ “เดี๋ยวครับ ผมขอถามอะไรหน่อย”
พนักงานบริกรหยุดเดิน หันมองต้นเสียง
“ค่ะคุณทิว ถามว่าอะไรคะ” ไม่แปลกที่นวลจะรู้จักเศกภพ เพราะเขาคือลูกค้าประจำของผับนี้ และให้ทิปครั้งละเป็นพัน
“ครั้งก่อนที่ผมมาที่นี่ ผมลืมมือถือไว้แล้วกลับเข้ามาเอา ผมเห็นพนักงานอีกคนกำลังเก็บของอยู่ เธอเก็บมือถือไว้ให้ผม ผมเลยอยากรู้ชื่อเธอน่ะครับ คือผมจะให้สินน้ำใจเธอสักหน่อย พอดีวันนั้นรีบเลยลืมให้ครับ” ใจบอกว่าไม่สนใจ แต่เหตุใดมิทราบได้ เศกภพถึงได้โกหกเพื่อน ลุกเดินตามพนักงานเสิร์ฟออกมาด้านนอก และถามถึงแมวขี้เซานางนั้น
“อ๋อ จันทร์หอมค่ะ พอดีวันนั้นนวลไปทำงานแทนเพื่อนที่ไม่สบาย เลยให้จันไปเก็บของแทนค่ะ” นวลตอบ
จันทร์หอมชื่อเพราะดี...แปลกด้วย
“แล้ววันนี้จันทร์หอมอยู่ไหนครับ ผมอยากเจอเธอ”
“วันนี้จันหยุดค่ะ มาพรุ่งนี้ค่ะ” เศกภพผิดหวังทันทีที่ไม่ได้เจอจันทร์หอม แต่ก็ฝืนยิ้ม
“ขอบคุณครับ” คนพูดก้าวเดินไปห้องน้ำด้วยอารมณ์หงุดหงิดหน่อยๆ แปลกใจตัวเองไม่น้อยที่เกิดความรู้สึกนี้ เพราะมันไม่เคยเกิดขึ้นเลย ไม่ว่ากับผู้หญิงคนใด
แค่ไม่ได้เจอหน้า ก็ไม่เห็นต้องแคร์...