“กูจะคอยดูไอ้ทิว คอยดูมึงเวลามีเมีย อยากรู้ว่าจะกลัวเมียหรือเมียจะกลัวมึง”
นฤทธิ์พูดอย่างหมั่นไส้ท่าทางจริงจังของเศกภพ
“กูว่าการรอคอยของมึงไม่มีทางเป็นจริง รู้ก็รู้ว่าไอ้ทิวหวงความโสดมากแค่ไหน ชาตินี้มันจะมีเมียหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ ได้ซื้อสาวกินไปตลอดชีวิตแน่” นิธินันท์รู้นิสัยเศกภพดี “แล้วกูก็คงเหมือนมัน”
นฤทธิ์ส่ายหัวช้าๆ ยื่นแก้วเหล้าไปตรงหน้า แล้วพูดว่า “กูด้วย”
เพื่อนรักอีกสองคนยื่นแก้วของตัวเองมาชน จากนั้นก็นั่งดื่ม นั่งพูดคุยกันตามประสาหนุ่มโสด จนกระทั่งถึงเวลาห้าทุ่ม ทั้งสามจึงพากันเดินทางกลับ
เช่นเคยที่ทั้งสามโทรสั่งผู้หญิงกับรุ่งอรุณ มาม่าซังตัวแม่ที่มีสาวๆ ไว้คอยบริการลูกค้าหลายเกรด แน่นอนว่าสามหนุ่มเลือกเกรดพรีเมี่ยม ที่จะไปรอหนุ่มๆ ตรงล้อบบี้ของคอนโดแต่ละคน เพื่อสร้างความสำราญให้หนุ่มขี้เหงา
...........
หลังจากลูกค้าวีไอพีออกไปจากห้อง พนักงานได้เข้ามาเก็บจานชามและแก้วเครื่องดื่ม โดยปกติแล้วจะเป็นหน้าที่ของพนักงานที่ดูแลโซนนี้ ทว่าคนที่เข้าคือจันทร์หอม ที่ดูแลในส่วนบาร์ เหตุผลที่เธอเข้าเก็บภาชนะห้องนี้เพราะ นวลต้องไปทำงานแทนเพื่อนที่เกิดไม่สบายกะทันหันในห้องวีไอพีอีกห้องหนึ่ง จันทร์หอมจึงถูกสั่งให้มาทำงานแทนนวล ซึ่งพนักงานในผับทุกคนต้องทำหน้าที่แทนกันได้
จันทร์หอมเคยเข้ามาทำงานในโซนวีไอพีเพียงสองครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม สองครั้งแรกเธอมาพร้อมกับเพื่อนร่วมงานอีกคน รีบทำและรีบออกไป ครั้งนี้เธอเข้ามาคนเดียว และได้พินิจมองความหรูหราของห้องที่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ราคาแพง รวมถึงโซฟานวมบุหนังวัวแท้ เธอรู้มาจากพนักงานคนอื่นว่า ราคาโซฟาหลักแสนบาท จันทร์หอมอยากรู้เหลือเกินว่า โซฟาแพงหูฉีกขนาดนี้จะนุ่มแค่ไหน เธอจึงลองนั่ง
“โห...นุ่มจัง เด้งด้วย” เธอไม่เคยได้นั่งที่นุ่มๆ แบบนี้มาก่อน พอได้สัมผัสก็รับรู้ถึงความสบาย มันนุ่มมากจนอยากเอนกายนอนหลับ แต่ก็รู้ดีว่าทำตามความคิดไม่ได้ “ขอนั่งแปปนึงก็แล้วกัน”
จันทร์หอมเอนศีรษะพิงพนักโซฟา หลับตาลงคล้ายกับพักสายตาสักครู่ วันนี้เธอเหนื่อยล้าทั้งกายและใจ อีกทั้งเฟอร์นิเจอร์ที่ตนนั่งอยู่ก็สบายเสียเหลือเกิน ทิ้งตัวลงนั่งก็เหมือนทิ้งตัวลงนอน ความที่คิดว่าแค่พักสายตา กลับหลับไปไม่รู้ตัว
ขณะที่จันทร์หอมกำลังจมอยู่ในนิทรา ประตูห้องที่เธอใช้ผ้าขัดไว้ถูกมือใหญ่ดันเข้ามา เท้าคนที่ก้าวเข้ามาในห้องเตะผ้าผืนนั้นอย่างไม่ตั้งใจ ทำให้ประตูห้องปิดสนิทและล็อคอัตโนมัติ
เศกภพชะงักเท้าเมื่อเห็นพนักงานเสิร์ฟสาวนั่งหลับบนโซฟา เขาควรไม่สนใจคนกำลังนอนหลับ แค่เดินไปหยิบมือถือที่ลืมไว้บนโซฟาตัวที่ตนนั่งอยู่ ซึ่งบังเอิญว่าอยู่ใกล้กับคนกำลังหลับ
‘แค่หยิบแล้วเดินออกไป’
เป็นเรื่องง่ายมาก เนื่องจากมือถือเศกภพไม่ได้ถูกเธอนั่งทับ แต่เหตุใดมิทราบได้ร่างสูงใหญ่ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟา เว้นระยะห่างเพียงหนึ่งคืบ
เป็นระยะห่างที่ใกล้กันมาก...ใกล้จนได้กลิ่นหอมจากตัวเธอ
เกิดความร้อนรุ่มขึ้นมาทันใด กลิ่นกายเธอทำให้ใจเขาวุ่นวายคล้ายไม่อยู่กับตัว เตลิดไปตามอารมณ์ปรารถนาที่ผุดขึ้นในความรู้สึก ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ยากมาก ไม่เคยมีผู้หญิงคนใดปลุกความกำหนัดเขาได้รวดเร็วเท่าเจ้าหญิงนิทราคนนี้เลย
เศกภพมองหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอาง จะมีเพียงลิปสติกสีชมพูอ่อนเคลือบบนริมฝีปากเท่านั้น ต่างกับพนักงานเสิร์ฟคนอื่นต่างแต่งแต้มใบหน้าด้วยเครื่องสำอางแบบจัดเต็ม ความเป็นธรรมชาติบนดวงหน้าหวาน สะกดสายตาเขาได้เป็นอย่างนี้
มองเธอนิ่งนาน...
“น่ารักดี” เศกภพเอ่ยโดยไม่รู้ตัว แก้มนวลเนียนถูกหลังมือใหญ่ลูบเบาๆ ดวงตาจับจ้องดวงหน้าแมวขี้เซาแล้วยิ้ม
ขณะที่กำลังเพลินกับการมองหน้าสตรีแปลกหน้า ความตกใจเกิดขึ้นเมื่อเธอเริ่มรู้สึกตัว ใบหน้าขยับเล็กน้อย เปลือกตาคล้ายกำลังเปิด เศกภพชักมือกลับแทบไม่ทัน รีบคว้ามือถือที่วางข้างแมวน้อย จากนั้นก็รีบเดินออกจากห้อง อาการคล้ายคนทำผิดและกลัวถูกจับได้
“โห เผลอหลับได้ไงเนี่ย” คนเพิ่งตื่นพูดกับตัวเอง ก้มมองดูนาฬิกาบนข้อมือ เมื่อรู้ว่าตนเองหลับไปเกือบสิบนาทีก็ตกใจ รีบเก็บจานชามและแก้วเครื่องดื่มใส่รถเข็น ก่อนเข็นรถออกจากห้อง โดยไม่รู้ว่า ตนเองตกเป็นอาหารตาของใคร
......
ณ บ้านวิริยะเดชาสกุล
ห้องรับประทานอาหารภายในบ้านหลังใหญ่ วันนี้อยู่กันครบองค์ประชุม โดยปกติแล้วในวันธรรมดาอาจขาดไปหนึ่งคนคือเศกภพที่กลับบ้านบ้างไม่กลับบ้างตามประสาหนุ่มโสด ซึ่งผู้ใหญ่ของบ้านเข้าใจวิถีชีวิต รู้ว่าทุกคนมีชีวิตเป็นของตัวเอง มีพื้นที่ส่วนตัวที่ใครก้าวล่วงไม่ได้ อีกทั้งเศกภพโตพอที่จะจัดการชีวิตตัวเอง รู้ว่าสิ่งไหนผิดสิ่งไหนถูก สำคัญที่สุดคือเขามีความรับผิดชอบสูง ดูแลกิจการของครอบครัวอย่างดีเยี่ยม บิดามารดาจึงให้อิสระเขาเต็มที่
“ปีนี้แกอายุสามสิบแปดแล้วนะ ไม่มีวี่แววว่าแกจะมีเมียเลย อย่างนี้ย่าจะได้อุ้มเหลนเมื่อไหร่ ไม่ใช่แก่ตายยังไม่มีโอกาสนั้นล่ะ” เสียงลัดดาผู้อาวุโสสุดของบ้านดังขึ้น คนถูกเอ่ยถึงมองหน้าผู้พูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย