บทที่ 9

1706 คำ
@ มหาวิทยาลัยเอกชน R ฉันใช้เวลาอาบน้ำแต่งตัวราวๆ หนึ่งชั่วโมง ก่อนพาตัวเองนั่งรถแท็กซี่ตรงไปยังมหาวิทยาลัย ซึ่งคาดว่าทั้งเมย์และเจ๊ตาลไปรอกันอยู่ก่อนแล้ว ที่คิดแบบนั้นก็เพราะตอนที่ฉันกลับไปที่หอ เจ๊ตาลก็ไม่ได้อยู่ในห้องแล้ว “แหม… เสด็จมาแล้วเหรอยะ?” น้ำเสียงกระแหนะกระแหนดังทักขึ้นทันทีที่ฉันโผล่หน้าเข้าไปที่โต๊ะม้าหินจุดประจำสำหรับนัดพบ ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดจริงๆ เมื่อที่ตรงนั้นมีทั้งเมย์และเจ๊ตาลกำลังนั่งรออยู่ “ไงล่ะ ไปนอนกับแฟนมาทั้งคืน ได้อะไรกลับมาบ้าง” “จะได้อะไรล่ะ ไม่ได้ทำอะไรกันสักหน่อย” ฉันตอบเสียงอุบอิบอย่างรู้สึกผิด ทิ้งตัวนั่งข้างเจ๊ตาลด้วยอาการเซ็งๆ “แค่นอนกอดกันเฉยๆ ไม่ได้จิ๊กกิ้วกันสักหน่อย” “จะเจ็ดปีแล้วนะ ยังไม่จิ๊กกิ้วกันอีกเหรอ?” และเหมือนทุกที พอตอบคำถามกึ่งแซวของเมย์ออกไป เธอจะย้อนกลับมาแบบนี้ทุกครั้ง ส่วนฉันก็ทำได้แค่พยักหน้าเก้อๆ ตอบกลับไปแค่นั้น “หูยไรอ่ะ ทิ้งเจ๊ตาลไปทั้งคืน ไอ้เราก็นึกว่าจะมีข่าวดี” เมย์บ่น “กานต์มันไม่ได้ไวไฟแบบแกนะเมย์” เจ๊ตาลที่นั่งฟังอยู่นานออกตัวปกป้องฉัน แม้ว่าน้ำเสียงของเธอจะพูดติดตลก “โอ๊ยเจ๊! ก็เพราะมันมัวแต่อืดอาด ยืดยาดแบบนี้ไง มันถึงได้เอาแต่กังวลว่าพี่นัทของมันนอกใจ” พอเมย์เปิดประเด็นขึ้นมา ฉันก็อดนึกถึงท่าทางแปลกๆ ของพี่นัทเมื่อคืนไม่ได้ พอคิด...ปากก็เลยขยับพูดออกไปเองแบบไม่ตั้งใจ “ฉันไม่ได้ระแวงนะ แต่จับผิดเขาได้แล้วต่างหาก” คำพูดดังกล่าวทำบทสนทนาระหว่างเมย์กับเจ๊ตาลเงียบลง รู้ตัวอีกทีก็พบว่าคนทั้งคู่กำลังมองหน้าฉัน บนใบหน้าเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม “พูดอะไรกานต์ จับผิดอะไรกัน?” เจ๊ตาลคือคนที่เอ่ยถามออกมาก่อน เธอดูประหลาดใจสุดๆ ที่ได้ฟังฉันพูดออกไปอย่างนั้น “เมื่อวานพี่นัทหลอกฉันว่าเขาจะไปหาพี่เกมส์ที่ร้านเกม ฉันก็เลยแอบไปที่ห้องพี่เขา แล้วรู้ไหมฉันเจออะไร?” “เจออะไรอ่ะ?” เมย์ย้อน ยิ่งพูด ยิ่งนึกถึง อาการก็คล้ายกับองค์จะลง เผลอพาลตะคอกเสียงออกไปอย่างเจ็บใจ “ก็เจอพี่เกมส์ไงล่ะ!” “ทำไมคะชะนี เจอพี่ในห้องไอ้นัท แล้วมันทำไมคะ?!” เสียงเข้มแอ๊บดัดจริตดังขึ้น ไม่ต้องหันไปมองก็พอรู้ว่าใคร ให้ตายสิ! คนบ้าอะไรตายยากตายเย็นซะจริง! “สวัสดีค่ะพี่เกมส์” ไม่รู้ว่าเมย์กับเจ๊ตาลจะคิดเหมือนกันหรือเปล่า แต่พวกเธอก็ยังแสดงมารยาทที่ดีด้วยการยกมือไหว้ พี่เกมส์ที่ไม่รู้ว่ามาตั้งแต่เมื่อไหร่พยักหน้ารับคำทักทายของพวกเธอ แต่ไม่ใช่กับฉัน... เขาเลื่อนสายตามองฉันจิกๆ ยืนเท้าเอวมองอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเดินพ้อยท์เท้า บิดสะโพกเสมือนนางแบบบนรันเวย์ตรงเข้ามาใกล้ และหย่อนก้นบนโต๊ะม้าหินอย่างมีจริต กรีดนิ้วก้อยชี้หน้าฉันแล้วกล่าวขึ้น “นินทาเมียหลวงแบบนี้ไม่ดีเลยนะคะเมียน้อย” “ใครชวนพี่มานั่งร่วมโต๊ะคะ คนอะไร... ไร้มารยาทจริงๆ เลย” ฉันต่อว่าแบบไม่สนใจ พลางสะบัดหน้าหันหลบไปทางอื่นอย่างนึกรำคาญ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สะทกสะท้านกับคำต่อว่า แถมยังย้อนกลับมาอย่างหน้าไม่อาย “อย่าทำมาเชิดใส่แบบนี้สิคะ ทั้งที่เมื่อคืนเรานอนด้วยกันแล้วนะ…จำไม่ได้เหรอ?” ตึง! ฉันตบโต๊ะเสียงดังแบบไม่เกรงใจเพื่อนอีกสองคนที่นั่งอยู่ด้วย ตวัดหางตามองพี่เกมส์อย่างไม่ค่อยพอใจสักเท่าไหร่ ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะในหัวมันคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในห้องพี่นัทเมื่อช่วงสายที่ผ่านมาอีกแล้วน่ะสิ “หยุดมโนได้ไหมคะ! เราไม่ได้นอนด้วยกันสองคนสักหน่อย!” “อย่างน้อยก็นอนด้วยกันป่ะล่ะเออออ” เขาเถียง ผัวะ! เสียงตบหัวดังเปรี๊ยะ ก่อนตามด้วยแรงกระชากทำให้ผู้ชายน่ารำคาญเซออกจากโต๊ะม้าหิน ทำทั้งฉัน เมย์ และเจ๊ตาลอึ้งไปตามๆ กัน “แกล้งแฟนกูอีกแล้วนะไอ้เกมส์ มึงนี่เผลอไม่ได้จริงๆ” พี่นัทบ่นยิ้มๆ และทิ้งตัวลงนั่งข้างฉันทันที โดยมีเสียงบ่นแกมอ้อนของพี่เกมส์ดังแทรกขึ้น “โอ๊ยยย สามีแกล้งเมีย~” เสียงบ่นดังกล่าวไม่ได้ทำให้พี่นัทสนใจมากนัก เพราะเขากำลังยิ้มเล็กยิ้มน้อย ขณะโน้มหน้าเอาหน้าผากชนหน้าผากฉันด้วยความรักใคร่ จนหนึ่งในเพื่อนรักต้องกระแอมเสียงขัด “แหม มาถึงก็หวานเลยนะคะพี่นัท…” “ก็นิดหนึ่งอ่ะครับ ฮ่าๆ” พี่นัทหัวเราะแบบไม่สนใจ พลางยื่นสมาร์ทโฟนของตัวเองส่งมาให้ฉัน แล้วถามขึ้น “พี่จะไปซื้อน้ำ กานต์จะเอาอะไรไหม?” “ถามแต่กานต์เหรอคะ แหม” ส่วนขาแซะประจำกลุ่มอย่างเมย์ก็ยังไม่หยุดถามแขวะ “น้องเมย์กับน้องตาลด้วยครับ จะเอาอะไรไหม พี่จะไปแคนทีน” พี่นัทถามติดขำ “ไม่เอาหรอกค่ะ ช่วงนี้กินอะไรกับกานต์ก็รู้สึกหวานไปหมด” ฉันรีบเอื้อมมือไปตีแขนเพื่อนสนิททันควันเพื่อให้เธอหยุดพูด แต่ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นดูเหมือนจะเป็นกิจวัตรซึ่งทั้งฉันและพี่นัทคุ้นชินไปแล้ว พี่นัทก็เลยไม่ได้เก็บคำพูดของเมย์มาคิด “งั้นพี่ฝากของแป๊บนะกานต์ เดี๋ยวซื้อขนมมาฝาก” ว่าแล้วพี่นัทก็หอมแก้มฉันฟอดใหญ่ แบบไม่สนใจสายตาขี้อิจฉาของเพื่อนรักฉันเลยสักนิด กลับกันเขาจงใจจะยั่วอารมณ์ให้เมย์อิจฉาหนักขึ้นกว่าเก่า พี่เกมส์ที่ยืนมองใกล้ๆ ถูกพี่นัทลากตัวไปซื้อน้ำเป็นเพื่อนอย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อพี่นัทเดินออกไป เจ๊ตาลก็หวีดเสียงขึ้นทันที “โอ๊ยยย กานต์ หวานกันขนาดนี้ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าพี่นัทจะนอกใจเธอน่ะ” น้ำเสียงของเจ๊ตาลตอนนี้เต็มไปด้วยความเพ้อฝัน เธอยกมือขึ้นปิดหน้าเหมือนเขินแทน ต่างจากเมย์ซึ่งเท้าแขนเหล่มองฉันด้วยแววตาลุกเป็นไฟ “นั่นสิ ถ้าวันไหนได้ยินว่าเธอพูดเรื่องพี่นัทนอกใจอีกนะ ฉันจะตบให้หัวทิ่มเลย” เมย์เสริมแกมขู่ สิ่งที่เพื่อนทั้งสองคนพูดทำให้ฉันต้องมานั่งคิดทบทวนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นใหม่ทั้งหมด เมื่อวานฉันไม่ได้คิดไปเองเรื่องกลิ่นน้ำหอม แถมตอนที่พี่นัทพูดขึ้น พี่เกมส์เองก็พูดเหมือนจะรู้อะไร เมื่อกี้ตอนที่พี่นัทเอาหน้าผากมาชนฉัน กลิ่นกายเขาก็ดูเป็นปกติดี ยังคงเป็นกลิ่นน้ำหอมกลิ่นเดิมที่ฉันเคยเลือกให้ ท่าทีที่ดูเหมือนปกติของเขาทำให้ฉันสับสน ไหนจะคำพูดของเมย์และเจ๊ตาลที่ดูจะเชื่อมั่นในตัวพี่นัทเป็นอย่างมาก อ่า… ฉันควรจะทำยังไงดี ฉันควรจะเชื่อตัวเองหรือเชื่อคำพูดคนรอบข้างดีนะ? แต่แล้วจู่ๆ ความคิดฉันก็หยุดลง เมื่อสายตาบังเอิญหลุบมองสมาร์ทโฟนที่พี่นัทฝากไว้ในมือ หูได้ยินเสียงเมย์กับเจ๊ตาลกำลังคุยกันซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับฉัน แต่อีกนัยหนึ่งฉันก็ได้ยินเสียงของจิตใต้สำนึกซึ่งกำลังสั่งให้ทำเรื่องที่ไม่ควรไปด้วย ปกติแล้วฉันสามารถเล่นโทรศัพท์ของพี่นัทได้ตามอย่างที่ใจนึก แต่ถึงแบบนั้นฉันก็ตั้งกฎกับตัวเองไว้เหมือนกัน ว่าต่อให้ฉันจะมีอภิสิทธิ์กับโทรศัพท์ของพี่นัทมากแค่ไหนก็ตาม แต่สิ่งเดียวที่ฉันจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยก็คือ การที่มีคนในครอบครัวของพี่เขาโทรเข้ามา หรือแม้แต่ข้อความต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในมือถือ เหตุผลสั้นๆ เพราะฉันอยากให้มันเป็นเรื่องส่วนตัวของเขาบ้าง แต่ไม่ใช่กับในตอนนี้ ตอนที่ฉันกดเข้ามาดูในข้อความแชทของเขา แล้วพบว่าเขาเมมเบอร์ ‘แม่’ เอาไว้ถึงสองรายชื่อ ยิ่งได้เห็น ฉันก็อดที่จะเลื่อนเปิดดูข้อความด้านในไม่ได้ แม่ :: ดูแลน้องดีๆ ล่ะ จะครบ 7 ปีแล้วนะ นัท :: ผมดูแลกานต์ดีอยู่แล้ว แม่ไม่ต้องห่วง แม่ : ดีแล้ว แม่อยากได้ลูกสะใภ้น่ารักๆ แบบหนูกานต์ นัท :: ผมก็อยากได้ภรรยาน่ารักๆ แบบกานต์เหมือนกัน รายชื่อแม่อันแรกเป็นคุณป้า แม่ของพี่นัทจริงๆ ฉันจำได้ดี เพราะคุ้นเคยกับการพูดคุยผ่านข้อความแชทกับท่านมาบ้าง แต่กับชื่อที่พี่นัทเมมไว้ว่าแม่แต่มีเครื่องหมายดอกจันทร์ติดกำกับเอาไว้นี่สิ ที่สำคัญ...ข้อความที่ปรากฏต่อสายตาฉันตอนนี้ เพิ่งจะผ่านไปไม่ถึงชั่วโมงด้วยซ้ำ แม่* :: พี่นัทออกมามหา’ลัยยังคะ? นัท :: กำลังครับ ใกล้จะถึงแล้ว แม่* : ดีจัง อยากเจอหน้าพี่นัทเร็วๆ จังเลย แม่* :: เมื่อคืนโทรไปก็ไม่ยอมรับสาย คิดถึงนะคะ นัท :: โทษที เมื่อคืนกานต์มานอนที่ห้อง แม่* :: แบบนี้ต้องโดนลงโทษ แม่* :: งั้นวันนี้หนูไปหาพี่นัทที่ร้านเกมแบบเมื่อวานนะ เคยเป็นไหม อยู่ๆ ก็หน้าชา ร่างกายภายนอกไม่มีบาดแผล แต่ภายในกลับรู้สึกเจ็บได้อย่างไม่มีเหตุผล... แม่* :: งั้นวันนี้หนูไปหาพี่นัทที่ร้านเกมแบบเมื่อวานนะ และสิ่งที่ชัดเจนที่สุดสำหรับฉันตอนนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องที่พี่นัทนอกใจ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม