ความใกล้ชิด

901 คำ
เมื่อการรอคอยพ่อเลี้ยงเมืองรามคือสิ่งที่ทำให้แพทย์หญิงใบบัว รู้สึกว่ายาวนานเหลือเกิน เธอจึงตัดสินใจเดินเข้าไปในไร่องุ่น ซึ่งพ่อเลี้ยงหนุ่มได้ทำถนนคอนกรีตเล็กๆ เอาไว้ เป็นทางเดินสำรวจตรวจตราตั้งแต่ทางเข้าจนถึงท้ายไร่ เพื่อง่ายต่อการเคลื่อนย้ายผลผลิตของไร่หมื่นเมือง แน่นอนว่ามันสามารถเชื่อมไปถึงสุสาน ซึ่งเป็นที่กล่าวขานของคนงาน เพราะบรรพบุรุษของไร่หมื่นเมืองอยู่ที่นั่นกันหมด ซึ่งทางเดินได้ประดับโคมไฟโซล่าเซลล์ เป็นโคมไฟปักดินให้แสงสว่างรำไร ถึงแม้ว่ามันจะสาดแสงออกไปไม่ไกล แต่ก็ทำให้รู้สึกอุ่นใจไม่น้อยกับแสงสว่างของโคมไปเรียงรายกันยาวจนสุดลูกหูลูกตา ถ้าเธอไม่รู้สึกห่วงใยลูกสาวคงชอบบรรยากาศและวิวนี้มาก เพราะมันดูสวยสะดุดตา แต่ความงามเหล่านั้นกลับถูกความกังวลและห่วงใยของขวัญปกคลุมเอาไว้ เมื่อเห็นแสงไฟแบบนี้ อย่างน้อยหญิงสาวก็รู้สึกคลายกังวลลงไปได้บ้าง แม้เพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ก็ตามที เมื่อแพทย์หญิงใบบัวกำลังคิดว่าของขวัญคงไม่กล้าเดินเข้าไปในไร่ที่แสนจะมืดนั้นแน่ ในเวลานี้หญิงสาวเดินไปร้องไห้ไปด้วย เมื่อความห่วงหาแวบเข้ามาภายในใจของเธออีกระลอก แพทย์หญิงใบบัวพยายามมองหาของขวัญ แอบหวังว่าจะเจอหนูน้อยอยู่แถวนี้ แต่แล้วก็ไร้วี่แววของลูกสาว บรรดาคนงานยังคงส่องไฟฉายเรียงหน้ากระดาน ราวกับกำลังปูพรมค้นหาหนูน้อย พวกเขายังคงดำเนินเดินต่อไปเรื่อยๆ จนเธอนั้นรู้สึกเกรงใจทุกคน มาวันแรกก็เป็นต้นเหตุให้พวกเขาไม่ได้พักผ่อน “ของขวัญ หนูอยู่แถวนี้หรือเปล่าลูก ออกมาได้แล้ว แม่ยอมให้ลูกเรียกพ่อเลี้ยงเมืองรามว่าพ่อก็ได้ กลับมาหาแม่เถอะนะลูก” น้ำเสียงสั่นเครือของหญิงสาว ทำให้พ่อเลี้ยงหนุ่มที่เดินมาถึง รับรู้ได้ว่าเธอร้องไห้ไม่หยุด เขารู้สึกอ่อนใจกับการที่จะปลอบใครสักคน แต่สุดท้ายก็พ่ายแพ้ให้กับแพทย์หญิงใบบัว ที่เพิ่งเจออกันเพียงไม่กี่ชั่วโมง หมับ! “ว้าย! พ่อเลี้ยง” คนตัวเล็กถลาเข้าไปซบอกแกร่งของชายตัวโตอย่างไม่ทันระวังตัว แต่ทว่าพ่อเลี้ยงเมืองรามกลับจงใจโอบเธอเอาไว้แน่เมื่อเขาทนเห็นเธอร้องไห้ไม่ไหว ไม่รู้ทำไมต้องรู้สึกหวั่นไหวทั้งเพิ่งรู้จักกันแท้ๆ ซึ่งคำตอบที่ได้คือหัวใจที่เต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ ในเวลานี้อย่าว่าแต่เขาเลย แพทย์หญิงใบบัวเองก็รู้แปลกๆ กับการที่ได้อยู่ภายใต้อ้อมกอดของพ่อเลี้ยงเมืองราม เธอรู้สึกอบอุ่นเสียจนไม่อยากผละออก แต่ท้ายที่สุดแล้ว หญิงสาวก็ต้องถอยห่างจากชายตัวโต ซึ่งเธอนึกโมโหตัวเองที่หวั่นไหวไปกับสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นกับหัวใจดวงน้อย “ขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” “คุณจะขอโทษผมทำไม คุณไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย ผมต่างหากที่ตั้งใจ” เพียงแค่หันไปสบตาของพ่อเลี้ยงหนุ่มที่จ้องมองมา หัวใจของเธอก็เต้นไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง เธอช่างโง่งม เริ่มประหม่ากับสายตาคมของชายตัวโต ทั้งที่ควรจัดการกับความรู้สึกของตัวเองให้มากกว่านี้ “พ่อเลี้ยงว่าอะไรนะคะ แต่ช่างเถอะค่ะ ตอนนี้ลูกฉันเป็นยังไงบ้างของขวัญอยู่ส่วนไหนของไร่ก็ไม่รู้” “ผมไม่ชอบให้ใครขัดใจ ผมบอกคุณแล้วใช่ไหมว่าอย่าร้องไห้ น้ำตาไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาหรอกนะ ตามผมมา” พ่อเลี้ยงเมืองรามคว้าข้อมือเล็กให้เดินตามเขาไปข้างหน้า ซึ่งแพทย์หญิงไม่รู้ว่าเขาจะนำพาเธอไปเจอกับของขวัญหรือเปล่า ในเวลานี้หญิงสาวร่างอรชรยังคงยินยอมให้เขาจูงไม้จูงมือ เดินไปตามถนนคอนกรีต จวบจนกระทั่งเวลาผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ทำให้แพทย์หญิงใบบัวเริ่มร้อนรนใจขึ้นกว่าเดิม ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกหวั่นไหวเวลาที่อยู่ใกล้ๆ พ่อเลี้ยงเมืองรามแค่ไหน แต่ลูกก็คือที่สุดของหัวใจ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ไม่มีความสำคัญเท่ากับของขวัญ “พ่อเลี้ยง... ฉันไม่ไหวแล้วค่ะ” หญิงสาวเริ่มทรงตัวไม่อยู่ เมื่อเธอกำลังคิดว่าจะไม่ได้เจอหน้าหนูน้อยอีกแล้ว “เหนื่อยก็นั่งพักก่อน” พ่อเลี้ยงหนุ่มจับลงไปที่ไหล่มนของเธอ พลางรั้งหญิงสาวให้นั่งลง แต่ทว่าเธอกลับส่ายศีรษะไปมา พร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน “ฉันไม่ได้เหนื่อยกาย ใจของฉันมันกำลังตั้งรับความรู้สึกแบบนี้ไม่ไหวต่างหาก ถ้าเราไม่เจอของขวัญ ฉันคงมีชีวิตต่อไปไม่ได้ โลกที่กว้างใหญ่คงไร้ความหมาย หัวใจของฉันมันกำลังจะแตกสลาย ฮึก! ฮื้อ!” ฝ่ามือเล็กกุมไปที่ใบหน้างาม เธอพยายามที่จะไม่สบตาพ่อเลี้ยงหนุ่ม เสียงสะอึกสะอื้นดังขึ้น เมื่อเธอกำลังร้องไห้จนตัวโยน ทำให้ชายตัวโตอดที่รั้งหญิงสาวมาสวมกอด เพื่อปลอบเธอให้หายเศร้าไม่ได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม