6

843 คำ
“ไม่ได้เหนือบ่ากว่าแรงของริมาหรอกค่ะ” เสียงตอบรับบรรจงให้หวาน พูดขึ้นอย่างพอเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี “ริมาจะทำให้แม่ลูกคู่นี้กลับมาปรองดองกันให้ได้เลยค่ะ และริมาก็จะคว้าหัวใจของพี่รัชญ์มาไว้กับริมา พี่รัชญ์จะต้องหลงรักริมาจนโงหัวไม่ขึ้นแน่นอนค่ะ” พริมาบอกพร้อมยิ้มหมายมาด เมื่อนึกไปถึงชายคู่หมายที่ใคร ๆ ก็ต่างพากันอิจฉาในวาสนาของตน ปีนี้ ‘พริมา’ อายุครบยี่สิบสามปีแล้ว หญิงสาวอยู่ในวัยที่ห่างจากดลวรัชญ์เกือบรอบ และเห็นดลวรัชญ์ตั้งแต่จำความได้ เพราะ ‘จามิกา’ ญาติผู้พี่ของตน คืออดีตคนรักของดลวรัชญ์ ที่จากไปก่อนวัยอันควร ตอนนั้นพริมาเคยได้ยินข่าวมาบ้าง เรื่องของทั้งสองคน และไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย เพียงแต่คิดเหยียด ๆ กับความรักบ้า ๆ ของทั้งสอง เมื่อนึกถึงจามิกา พริมาอดนึกหยันใส่ทางนั้นไม่ได้ แม้จามิกาจะจากโลกนี้ไปแล้ว จามิกาไม่ได้เติบโตมาแบบตน จามิกาเป็นเพียงหญิงสาวที่ขายเรือนร่าง จนไปเตะตาดลวรัชญ์เข้าก็เท่านั้น ดลวรัชญ์ก็คงจะหลงไปกับรูปโฉมสวยสดงดงามของจามิกา และพริมาจะทำให้ดลวรัชญ์รู้จักคำว่ารักอย่างแท้จริง เริ่มด้วยการให้เขาได้คืนดีกันกับแม่ของเขาให้ได้เสียก่อน เมื่อบอกกับคุณพ่อและคุณแม่ไปแบบนั้นแล้ว พริมาก็จัดแจงทำตามแผนของตัวเอง หลอกล่อให้ดลวรัชญ์มายังบ้านของแม่เขาด้วยกัน คนโดนหลอกขึ้นรถมาแบบว่าง่าย จนพริมายิ้มอ่อนด้วยความเอ็นดู ระยะทางขจัดจากบ้านลูกมายังบ้านของคนเป็นแม่ไม่ไกล แต่เพราะโดนล้อมรั้วไว้เลยต้องขับพาอ้อมมายังทางเข้า ขณะรถกำลังแล่นเข้ามาในเขตพื้นที่ของสาลิณี เสียงคุยของคนบนรถก็ค่อยเบาลงเรื่อย ๆ “กูว่าน้องคนนี้แม่งตลกแบบแปลก ๆ ว่ะ” คนพูดยื่นหน้าไปมองด้านหน้าของรถ ก่อนบอกต่อจากนั้น “แต่น่ารักดี ขนาดว่าน้ำเกาะเต็มแว่น ยังไม่ยอมถอดออกเลย ตลกจริง ๆ” เสียงพูดคุยของเพื่อนหมอบนรถตู้ที่กำลังแล่นอยู่บนถนนของทางเข้าเขตพื้นที่ของสาลิณี กำลังพาทุกคนบนรถผ่านคนที่ปั่นจักรยานตากฝนอยู่ข้างทาง คนฟังอย่างเงียบ ๆ แบบดลวรัชญ์ต้องหายใจแรง ๆ ด้วยอารมณ์โมโหที่เริ่มจะเกินความควบคุม ที่เป็นบ่อยขึ้นในช่วงนี้ ก่อนจะกลายเป็นความโกรธในที่สุด เมื่อปรายตาไปมองยังร่างอวบของคนบางคนแล้ว เห็นว่าเสื้อบางจนน่าจับมาฟาดแรง ๆ สักสิบที ธีธัชยังคงถามต่อไม่เลิก “ยัยเด็กนั่นปั่นจักรยานตากฝนไปไหน แล้วใส่เสื้อเชิ้ตบาง ๆ แบบนั้นตากฝนทำไม” เสียงเข้มของดลวรัชญ์สั่งท่ามกลางเสียงคุยกันบนรถตู้ จนคนอื่น ๆ ปิดปากเงียบกันไปทั้งคัน “ลอย! มึงจอดแล้วถอยหลังกลับไปหน่อย” “อะ อะไรนะครับ” ลอยถามเสียงงุนงง “ถอยหลัง แล้วเอาเสื้อคลุมกันฝนไปให้ยัยนั่น” คนบนรถได้ยินคำสั่งของเขาทุกคน และก็เป็นภัทรพลที่ถามเสียงอ่อยขึ้น “หะ ให้น้องลดาทำไมครับคุณรัชญ์” “คงอุจาดตามั้งคะ” พริมาพูดเดาปนขำน้อย ๆ ดลวรัชญ์สั่งเสียงดัง “ลงไป!” ลอยถึงได้รีบจอดและลงจากรถไปทำตามที่เจ้านายสั่ง ขวัญลดาชะงักขาที่กำลังปั่นจักรยานกลับไปที่บ้านของสาลิณี เธอประคองตัวลงจากอานของรถ หยีตามอง แม้ฝนจะลงเม็ดบางลง แต่เพราะต้องรีบเอางานไปส่ง เลยต้องรีบกลับไปรายงานสาลิณีก่อน จึงต้องรีบปั่นเพื่อทำเวลา แต่กลับถูกรถตู้ที่เธอจำทะเบียนของรถคันนั้นได้เป็นอย่างดีขวางหน้าเอาไว้ รถจดประกอบ สีเทาคันบุหรี่ และยังเป็นรุ่นนี้ ที่แขวนทะเบียนประมูล ‘กก 999 กรุงเทพ’ มีแค่คันเดียวทั้งจังหวัด “มีอะไรหรือคะ” เธอถามลอยที่เปิดประตูลงจากรถแล้วตรงมาหาเธอ ลอยส่งเสื้อให้พร้อมกับบอก “เจ้านายให้เอาเสื้อคลุมกันฝนมาให้” “โฮพี่ ขอบคุณมากค่ะ” ขวัญลดาบอกแล้วมองเข้าไปในรถ พอสบเข้ากับสายตาของดลวรัชญ์เข้าก็ตกใจ เธอผงะหนี รีบดันแว่นเข้ากับใบหน้า สวมเสื้อคลุมทับทันที พร้อมกับปีนขึ้นอานจักรยาน ปั่นกลับอย่างเร็วไว กลัวสายตาคนในรถไม่พอ ต้องรีบกลับก่อนที่สาลิณีจะบ่นเอาได้
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม