รุ่งอีกวัน ต้องเผชิญหน้า

1330 คำ
                ม่อนลุกขึ้นนั่งเอื้อมมือไปกดนาฬิกาปลุกที่เธอตั้งเอาไว้มองหาแสงสว่างที่พระอาทิตย์กำลังจะโผล่ขึ้นมาจากพื้นดิน เสียงไก่ขันดังมาแต่ไกล เธอรีบพับผ้าห่มที่คลุมตัวเองไว้ทั้งคืนให้เป็นระเบียบคว้าผ้าเช็ดตัวเดินขึ้นบันไดไปอาบน้ำยังห้องน้ำที่อยู่ใกล้ประตูห้องนี้                 เธอเดินได้อย่างลำบากกว่าจะพาร่างที่ปวดร้าวกลับลงมาจากห้องนายได้เมื่อคืนก็หยุดพักตั้งหลายที เธอน้ำตาซึมใจหายแวบรู้สึกเจ็บที่หน้าอกจนจุกสะอื้นไห้อยู่ในห้องน้ำอยู่เป็นนาน                 เธอถอนหายใจออกมาตลอดเวลาที่เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้อง นึกไปถึงคนตัวโตหน้าคมเข้มที่นอนหลับไม่รู้เรื่อง หลังจากที่เสร็จกิจของตัวเขาเองเรียบร้อย เธอได้แต่ภาวนาอยู่ในใจ ให้เขาจำเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ไม่ได้ เพราะถ้าเขาจำได้ไม่รู้ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร ม่อนเกิดความกังวลขึ้นในหัวเต็มไปหมด                 หญิงสาวพยายามทำงานบ้านเหมือนเช่นทุกวัน ตามที่ป้านาได้สั่งเอาไว้ตลอดสองอาทิตย์ที่ผ่านมาราว ๆ สักเก้าโมง ท้องเริ่มหิว เธอจึงตักข้าวสวยใส่จานและทอดไข่เจียวหนึ่งฟองนั่งลงใช้มือคลุกน้ำพริกตาแดงที่แม่ทำมาให้ด้วย ม่อนนั่งลงกินข้าวกับพื้นอยู่หลังประตูครัวที่เปิดรับลมเห็นวิวในไร่สุดลูกหูลูกตา                 “มีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง” เสียงทุ้มเรียกหาคนรับใช้เสียงดัง เสียงฝีเท้าที่เดินตรงมายังทางที่เธอนั่งอยู่ ม่อนมือไม้สั่นทำอะไรเริ่มไม่ถูกค่อย ๆ วางจานไว้ใกล้ประตูรีบลุกขึ้นยืน                 นายใหญ่ของบ้านยืนอยู่ไม่ห่างจากเธอนัก เขาใส่แค่กางเกงขาสั้นสบาย ๆ ตัวเดียวส่วนบนก็ไม่ใส่เสื้อ โชว์ไรขนหน้าอกที่มีอยู่เต็มแผง ผมเผ้าที่ดูยุ่งเหยิงเหมือนยังไม่ได้หวี หน้าที่มีหนวดเคราดูเข้มขึ้นกว่าเมื่อวาน เขาทำตาหยี ๆ ก่อนจะยกมือขึ้นขยี้ตาจ้องหน้าเธอไม่กะพริบ                 ม่อนปัดมือแล้วรีบเช็ดมือที่เปื้อนกับชายผ้ากันเปื้อนก่อนจะยกมือไหว้ เขาไม่พูดไม่จาเธอหลบสายตาที่จดจ้องมาเหมือนกลัวความผิดลมหายใจเริ่มติด ๆ ขัด ๆ                 “เธอเป็นหลานลุงอุ่นใช่ไหม” เสียงทรงอำนาจของเขาถามขึ้น ม่อนได้แต่พยักหน้ารับเอ่ยคำว่าค่ะเบา ๆ ในลำคอ ตอนนี้ขมคอจนพูดไม่ออกเหมือนมีอะไรมาติดอยู่ตรงนั้น                 “กาแฟดำร้อนนะ เอาไปให้ฉันที่ห้องทำงานด้วย” เขาออกคำสั่งก่อนจะเดินหันหลังกลับไปทางเดิมที่เขาเดินมา ม่อนแทบทรุดตัวลงไปทันที มือไม้สั่นหายใจไม่ทั่วท้องกะพริบตาปริบ ๆ มองตามหลังเจ้าของไร่ปฐพีไปแบบใจเต้นโครมคราม                 เธอเคาะประตูห้องทำงานเขาที่เปิดกว้างออกมาอยู่แล้วเขาหันหน้ามามองสาวน้อยเดินขาแทบขวิดมือไม้สั่น จนได้ยินเสียงแก้วกาแฟกระทบกับจานรองดังกิ๊ก ๆ เขายังคงทำสีหน้าทองไม่รู้ร้อน ยกหน้าที่เรียบเฉยขึ้นมามองเธอลอดแว่นสายตา                 “ขึ้นไปเก็บห้องนอนฉันด้วย แล้วก็รื้อเสื้อผ้าออกมาจากกระเป๋าเดินทางให้ด้วยนะ ขนลงมาซักใหม่ให้หมดเลย” เขาออกคำสั่งใหม่                 “ค่ะ” เธอยืนจับมือกุมถาดรองไว้ที่หน้าท้องแน่นรับคำของเขาพร้อมพยักหน้างึก ๆ                 “อ้อ...แล้วซักผ้าเป็นไหม ฮึ...ใช้เครื่องซักผ้าเป็นหรือยัง...เสื้อผ้าฉันราคาแพงนะ” เขาพูดขึ้นถามไถ่ซักถามกึ่งดูแคลนเธอกลาย ๆ                 “ซักผ้าเป็นค่ะ ป้านาสอนแล้วและก็ม่อนเคยซักรีดให้คุณดอยและคุณปลาเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ท่านสองคนมาพักที่นี่ด้วยค่ะ” คำตอบของเธอทำให้เขาขมวดคิ้วก่อนจะกัดฟันกรอด                 “ออกไปให้พ้นหน้าฉันเร็ว ๆ แล้วปิดประตูห้องให้ฉันด้วยนะ” เขาตวาดเสียงกร้าวออกคำสั่งเสียงดังกว่าเดิมอีก                 ม่อนถึงกับสะดุ้งตัวโยนก้มหน้าช้อนสายตามองเขา ไม่เข้าใจอารมณ์นายใหญ่ของบ้านเอาเสียเลย รีบหันหลังออกมาจากห้องปิดประตูตามคำสั่งเขาอย่างเบามือ เธอถอนหายใจออกมาเสียงดังยืนนิ่งกุมหน้าอกตัวเองที่ใจยังสั่น ยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น                 ‘ไหนป้ากับลุงบอกว่านายดินใจดี’ เธอคิดในใจ                 “เพล้ง... เพล้ง... เพล้ง...” เสียงของหล่นแตกกระทบพื้นเสียงดังติดกันถึงสามครั้งม่อนวิ่งออกไปจากตรงนั้นแทบทันที เข้าครัววางถาดตรงดิ่งขึ้นบันไดเข้าไปบนห้องนอนของเขาตามคำสั่ง                   พอเปิดประตูห้องนอนเข้าไปเตียงนอนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้ายับย่นไม่เป็นชิ้นดี ม่อนตรงไปเก็บที่นอนของนายดินก่อนอย่างอื่น เธอรื้อเอาผ้าปูที่นอนที่มีร่องรอยความสัมพันธ์ของเธอกับนายใหญ่ของบ้านออกทันที หาผ้าปูที่นอนผืนใหม่มาเปลี่ยน                 ม่อนทำงานอย่างรีบเร่งพยายามจะทำอะไรให้รวดเร็วที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ตาก็เหลือบมองไปทางประตูตลอดเวลาว่าเขาจะเดินเข้ามาหรือไม่ ตอนนี้สาวน้อยอยากร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ แต่ก็ทำไม่ได้ เธอได้แต่กะพริบตาไหลน้ำตาที่เริ่มเอ่ออยู่เต็มขอบตาอีกครั้ง                 เธอพาตะกร้าใบใหญ่ที่มีเสื้อผ้าที่ใส่แล้วของนายออกมาเต็มตะกร้า รวมถึงผ้าปูที่นอนชุดนั้นด้วย ม่อนแยกผ้าแล้วลงมือซักเองทุกตัวบางตัวที่ลงเครื่องได้เธอก็หย่อนลงไปในเครื่องรอให้เครื่องซักล้างไปโดยอัตโนมัติ ส่วนผืนใดที่ต้องซักมือเธอก็บรรจงทำมันอย่างเบามือ                 ผ้าปูที่นอนที่เธอแช่ไว้ม่อนพยายามขยี้ผงซักฟอกลงไปที่บนรอยเปื้อนเลือดเป็นดวง ๆ บางที่ก็เลอะเป็นปื้นใหญ่แต่ทำอย่างไรมันก็ไม่ยอมหลุด                 ‘ผ้าฝ้ายเนื้อดีราคาคงแพงน่าดูจะทำยังไงดี’ เธอครุ่นคิดอยู่ในใจ                 เธอยังคงทำงานอย่างเพลิดเพลินกำลังสะบัดผ้าผืนสุดท้ายขึ้นตากได้ยินเสียงกระแอมกระไอมาจากด้านหลัง                 “ตั้งโต๊ะหน่อยสิฉันหิว” เขาออกคำสั่งเหมือนเดิมเธอหันหน้าไปมองเขาแต่ก็ไม่กล้าสบตา                 “ค่ะ” เธอรีบพาตัวเองเดินก้มตัวผ่านตรงที่เขายืนอยู่พาตัวเองเข้าในครัว ม่อนทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้วสำหรับนายเพียงแต่รอแต่คำสั่งแล้วอุ่นขึ้นโต๊ะเท่านั้น                 เขานั่งหน้าเข้มรอเธออยู่ที่โต๊ะอาหาร เอานิ้วเคาะโต๊ะไปเรื่อย ๆ ม่อนได้ยินยิ่งเป็นกังวลพลอยทำอะไรงก ๆ เงิ่น ๆ ไปหมด ตอนที่ยกต้มจืดลงบนโต๊ะ มือที่สั่นเทิ้มจนทำน้ำแกงหกราดบนโต๊ะ เธอได้ยินเสียงเขาถอนหายใจเบา ๆ ม่อนหาผ้ามาเช็ดทำความสะอาดที่โต๊ะทันที                 “ไปเก็บเศษแก้วในห้องทำงานให้ฉันด้วย ฉันทำมันแตกไปสามใบ” เขาบอกโดยไม่เงยหน้ามามองเธอด้วยซ้ำ ม่อนรู้สึกน้อยใจมาก เธอเดินออกมาจากตรงนั้นแบบเงียบ ๆ หาอุปกรณ์เข้าไปเก็บกวาดตามที่เขาสั่ง                 ‘คนรวยทำอะไรก็ไม่ผิดใช่ไหมม่อน’ เธอถามตัวเองอยู่ในใจ                 ‘ม่อนเอ๊ย...จะเอายังไงต่อไปกับชีวิตแกดี แกจะท้องไหมเขาว่าผู้หญิงผู้ชายมีอะไรก็ต้องท้อง’ เธอยกมือขึ้นลูบหน้าท้องตัวเองอย่างลืมตัว เมื่อนึกถึงเรื่องนี้ใจลอยมืออีกข้างที่หยิบเศษแก้วอยู่โดนเศษแก้วทิ่มบาดเข้าไปอย่างแรง
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม