บ้าที่สุด

1328 คำ
                ปฐพีถึงแม้จะเมาไม่ได้สติ และเริ่มจำเรื่องราวต่าง ๆ ได้รางเลือน แล้วสิ่งหนึ่งที่เขานึกออกเขารู้สึกตัวเองมีความสุขอยู่บนเรือนร่างของหญิงสาวที่ในห้วงคะนึงของเขา เขาคิดมาตลอดเวลาว่าเป็นปภัสสร แต่ตอนนี้มันไม่น่าจะใช่เสียแล้ว                 “ม่อน...ไม่น่านะ...ฉัน...นายเนี่ยนะจะมีอะไรกับเด็กคนนั้น...ไม่จริง...เป็นไปไม่ได้” เขาสะบัดหัวตัวเองอยู่หลายครั้งก่อนจะยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองแรง ๆ เหยียดตัวนั่งหลังตรงถอนหายใจออกมาแรง ๆ                 “โธ่เอ๊ย...บ้าที่สุด” เขาสบถออกมา                 “ม่อน...” เขานึกถึงใบหน้าของม่อนเมื่อเห็นเขาเมื่อตอนเช้า เธอทำท่าทางกลัวเขาน่าดู ตอนนี้เขาชักแน่ใจว่าเขาคงทำจัญไรไปกับเด็กม่อนนั้นจริง ๆ ปฐพีขยับตัวลุกขึ้นเดินไปยังห้องของม่อน อยากรู้และอยากพิสูจน์อะไรบางอย่าง หากว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง ๆ เขาจะทำอย่างไรกับเด็กม่อนดี                 ประตูก็ถูกปิดล็อกจากข้างในเหมือนเดิม เขาใช้มือควานหากุญแจจากที่เดิมแล้วใช้มันไขประตูเข้าไป เห็นม่อนนอนคดตัวตะแคงเหมือนเช่นเดิมนายดินนั่งลงข้าง ๆ เขาแตะฝ่ามือที่หน้าผากตัวเธอเย็นลงมากแล้ว ม่อนขยับตัวนอนหงายใช้มือปัดมือนายที่แปะอยู่บนหน้าผากหันหน้าไปในทิศทางตรงกันข้ามกับที่เขานั่งอยู่                 ร่องรอยแดงปรากฏเป็นปื้น ๆ บนลำคอขาว ๆ ของม่อนอยู่หลายจุด ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าเกิดจากรอยดูดจากริมฝีปากของใครสักคนหนึ่ง เขาไล่สายตามองต่ำตรงเสื้อคอวีของชุดนอนที่เธอไม่ได้ใส่เสื้อชั้นในเห็นเนินหน้าอกขาว ๆ ที่ตอนนี้ก็ไม่ต่างกันมีรอยแดง ๆ ปรากฏให้เห็นอีกหลายร่องรอย                 ข้อมือของม่อนที่วางอยู่พาดลำตัวเห็นเป็นรอยนิ้วเขียวจนช้ำ ภาพย้อนเข้ามาในสมองของนายดินที่กดรัดข้อมือของเธอ ตอนเธอดิ้นรนหนี เขาทำเธอรุนแรงมากจนทำให้ข้อมือของม่อนเขียวช้ำขนาดนี้เลยเหรอ                 “โธ่เอ๊ย...ม่อน นายขอโทษ” เขาพูดพึมพำในลำคอ ยกมือขึ้นเขี่ยปอยผมที่ระลงมาปิดบังใบหน้า คราบน้ำตาที่เธอร้องไห้กระซิก ๆ ก่อนจะข่มตาให้หลับไปด้วยฤทธิ์ของพิษไข้ เขามองหน้าเธอแบบขอโทษ ตอนนี้หัวใจว่างเปล่าตอบตัวเองไม่ถูกเหมือนกันว่าจะเอาอย่างไรดีกับเด็กคนนี้                 กลิ่นแอลกอฮอล์ที่ส่งออกมาจากลมหายใจของนายกระทบกับจมูกของม่อน เธอเหมือนฝันกลิ่นนี้คล้ายกับกลิ่นที่มาจากนายดินในคืนนั้นเลย เธอยกมือขึ้นปัดป้องทำปากขมุบขมิบ เขารีบดึงมือออกมาให้ห่างเธอเอนหลังนั่งพิงไปกับผนังห้อง                 จะเป็นพรหมลิขิตหรืออะไรไม่รู้แต่ตอนนี้เขาเหนื่อยล้าเหลือเกิน นายดินค่อย ๆ เอนกายเหยียดยาวนอนข้าง ๆ ม่อน ก่อนจะตระกองกอดเธอเอาไว้ในอ้อมแขน ม่อนซุกหน้าเข้าหาหน้าอกแกร่ง ๆ นึกถึงอ้อมกอดของพ่อและแม่ได้ซุกหน้าไปทีไรอุ่นใจทุกที                 คนหนึ่งเมาอีกคนเหนื่อยล้าเพราะพิษไข้ที่รุมเร้า  เธอรู้สึกไม่ค่อยดีมาก่อนหน้านั้นสองสามวันมาแล้ว                 ยามเย็นแสงอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำม่อนขยับตัวไล่ความเมื่อยขบ ตัวที่ร้อนรุ่มเย็นลงไปมาก ปกติเวลาไม่ค่อยสบายกินยาก็หายเร็ว เด็กบ้านนอกเจอเชื้อโรคมาเยอะจะมัวมาป่วยไข้ก็เสียการงาน                 อ้อมกอดของนายดินที่รัดแน่นค่อย ๆ คลายออกเหมือนเขาจะรู้สึกตัวเช่นกัน ม่อนเงยหน้าขึ้นรู้สึกตัวว่าเธอกำลังอยู่ในอ้อมกอดของใครสักคนหนึ่ง ส่วนคนเป็นนายรู้ตัวก่อนหน้านั้นแล้ว แต่เห็นม่อนยังนอนหลับสบายเลยได้แต่พิศมองใบหน้าของเธอที่ไร้เครื่องสำอางติดอยู่บนใบหน้าอย่างเพลิดเพลิน                 “อุ้ย...นาย” เธออุทานด้วยความตกใจขยับตัวออกห่างและรีบลุกขึ้นเธอก้มมองสำรวจตัวเองก่อนอย่างอื่น พลอยทำให้ผู้เป็นนายยิ้มออกมาให้อย่างเอ็นดู                 “ดีขึ้นบ้างไหม” เขาถามออกมาอย่างห่วงใย                 เธอหลบสายตาคมที่จ้องมา พยักหน้าให้น้อย ก่อนจะหมุนตัวหันหลังให้นึกอายที่นอนอยู่ในอ้อมกอดของนายใหญ่อยู่เป็นนานสองนาน                 “ขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อนไป เย็นนี้ฉันสั่งสนให้ไปเอาเนื้อวัวเจ้าประจำมาให้จะทำอะไรอร่อย ๆ ให้กิน” เขาออกคำสั่ง เธอค่อย ๆ ลุกเดินตัวสั่นโงนเงนที่สั่นไม่ใช่ด้วยพิษไข้อย่างเดียวแต่ทั้งประหวั่นในใจลึก ๆ กลิ่นนายยังติดอยู่ที่ปลายจมูก                 “ม่อนเห็นผ้าปูที่นอนนายสีครีมไหม” เขาเอ่ยถามขึ้นพร้อมกับลุกนั่งหลังพิงกำแพงสายตาจ้องมองตามหลังม่อนอยากพิสูจน์อะไรอีกสักอย่าง                 “คะ?” เธอหันหน้ามาเหมือนมีคำถาม ยืนนิ่งอยู่กับที่ ในมือถือผ้าเช็ดตัวขึ้นมาแนบอก                 “อือ ผืนที่เธอเอาไปซักน่ะ” เขาตอบพร้อมจ้องเข้าไปในดวงตา                 “นายค่ะ ม่อนขอโทษค่ะ ม่อนทำมันเปื้อนมาก ๆ เลยค่ะ นายคงเอากลับไปใช้ไม่ได้อีก นายจะหักเงินเดือนม่อนก็ได้นะคะ ม่อนขอโทษ” เธอบอกและเอ่ยขอโทษเขาซ้ำ                 “ไม่รู้ล่ะ เอาขึ้นไปให้ฉันที่ห้อง เปื้อนยังไงฉันก็อยากจะเห็น เธอยังไม่ได้ทิ้งไม่ใช่หรือไง” เขาถามเหมือนรู้ ม่อนทำหน้าไม่ถูกพยักหน้ารับคำอย่างเสียไม่ได้                 นายดินกลับขึ้นไปบนห้องอาบน้ำอาบท่าโกนหนวดโกนเคราเสียเกลี้ยงเกลา เขาลงมาด้านล่างเพื่อเข้าครัวลงมือทำอาหารเอง โดยนายได้โทรสั่งสนคนรับใช้ไว้ก่อนแล้ว ให้ไปจ่ายตลาดหาซื้อเนื้อสัตว์และผักสดต่าง ๆ อีกหลายอย่างเอามาใส่ในตู้เย็นไว้ให้เรียบร้อยแล้ว                 คนในบ้านและในไร่ปฐพีต่างรู้กันว่าหากนายใช้อะไรเมื่อทำเสร็จแล้วไม่มีใครมีสิทธิ์อยู่ในบ้านหลังนี้ แต่ที่ม่อนได้รับอนุญาต เพราะนายดินกำลังปรับปรุงบ้านคนงานที่อยู่ห่างออกไป ซึ่งก็กำหนดเสร็จในอีกสี่เดือนข้างหน้า                 เขาลงมือทำสเต๊กสุดฝีมือลวกแครอทกับผัก ที่เขาชอบเปิดเพลงคลอเบา ๆ ตอนที่ทำอาหารไปด้วย ม่อนแต่งตัวที่ดูแล้วรัดกุมที่สุด เธอใส่เสื้อแขนยาวสีขาวและกางเกงวอร์มสีน้ำเงินตัวโปรด ม่อนเดินเข้ามาในครัวอย่างช้า ๆ และหยุดอยู่ห่างจากเขาไปเล็กน้อย                 “หิวหรือยัง” เขายกหน้าหันมาถามเพราะเห็นเท้าขาวซีดทางหางตา                 “ค่ะ” เธอเป็นเด็กกินเก่งแต่ไม่อ้วนเสียด้วย มองตามมือนายที่กำลังลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่ว                 ‘ไหนนายว่าทำอาหารเป็นไม่กี่อย่าง’ เธอค่อนขอดเขาอยู่ในใจ                 นายดินเคยไปเรียนอยู่ต่างประเทศหลายปี เขาต้องช่วยเหลือตัวเองทุกอย่างและด้วยความเป็นพี่เลยต้องดูแลน้องได้ตอนที่พ่อแม่จากไป                 “ยังมีไข้อีกไหม” เขาถามขึ้นอีกน้ำเสียงห่วงใย                 “ค่ะ” เธอตอบเขาน้ำเสียงดีขึ้นแต่ยังแหบอยู่นิด                 “เอ่อ...นายคะ ม่อนจะขออนุญาตนายออกไปซื้อยาหน่อยค่ะ” เธอเอ่ยขออนุญาต                 “หื้อ...” เขาละมือจากงานตรงหน้าหันมาหาเธอเต็มตัว                 “ม่อนเจ็บคอคิดว่าถ้าได้ยาแก้อักเสบก็น่าจะดีขึ้น” เธอเอ่ยเสียงค่อยค่อนข้างเกรงใจ                 “แล้วเราจะไปยังไง” เขาถามต่อ
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม