แอบเป็นห่วง

1336 คำ
                “อือ...ยังไงก่อนนอนเดินสำรวจปิดบ้านช่องลงกลอนให้เรียบร้อยนะลูก” ลุงยังกำชับอีกครั้งก่อนวางสาย                 ม่อนมองโทรศัพท์ในมือที่วางสายไปแล้วถอนหายใจออกมาติด ๆ กันหลายครั้ง ก่อนจะขยับตัวเดินสำรวจหน้าต่างประตูว่าลงกลอนเรียบร้อยแล้วหรือยัง                 นายเดินขึ้นห้องไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วก็เงียบไปนานแล้ว                 ‘สงสัยจะเมาแล้วมั้งดื่มไปเยอะขนาดนั้นเขาเป็นอะไรของเขานะดื่มเหล้าเหมือนดื่มน้ำเลย ไหนป้ากับลุงบอกว่านายเลิกดื่มแล้ว’ ม่อนเก็บกวาดตรงเคาน์เตอร์และที่ห้องทำงานของนายด้วย                 บนโต๊ะมีกรอบรูปที่คว่ำอยู่เธอวิสาสะเปิดกรอบรูปนั้นขึ้นมาดูเห็นเป็นรูปที่ถ่ายกันสามคนมีนายดินนั่งอยู่ตรงกลางข้างซ้ายเป็นคุณดอยและข้างขวามือของนายเป็นคุณปลา เธอสังเกตเห็นฝ่ามือหนาของนายที่โอบรอบเอวคุณปลาเเน่นและสองใบหน้าที่แนบชิดกันของทั้งคู่                 เธอจึงตั้งรูปใบนั้นไว้แบบเดิมแล้วรีบเดินเอาของทั้งหมดเข้าไปเก็บล้างที่ในครัวม่อนรีบทำงานก่อนจะเดินกลับเข้าห้องอาบน้ำและเอนตัวลงนอน เพราะรู้สึกไม่ค่อยดีแล้วก็หลับลงไปด้วยความอ่อนล้า                                 “ม่อน ม่อน ม่อน” นายดินตะโกนเรียกม่อนเสียงดังเขาลงมาจากห้องเมื่อสายมากแล้ว                 “ไปไหนกันบ้านช่องก็ไม่เปิด หน้าต่าง ประตูไม่เปิดสักบาน” เขาเดินพูดบ่นไปสำรวจโดยรอบและลงมือเปิดหน้าต่างเพื่อรับลม                 เขาเปิดประตูออกไปที่สวนหย่อมหน้าบ้านที่เขาทำขึ้นเป็นส่วนตัว เพราะปฐพีเป็นคนชอบความเงียบมากและไม่ชอบสุงสิงกับใคร อีกอย่างไม่ค่อยอยากให้ใครมารับรู้ว่าเขาทำอะไรบ้างในแต่ละวัน                 “สายจนป่านนี้ยังไม่ตื่นอีกหรือ” เขาเดินตรงไปยังห้องเก็บไวน์ที่ม่อนนอนอยู่ลองหมุนลูกบิดตรงประตูแต่มันถูกล็อกเสียสนิท เขาเอื้อมคลำมือหากุญแจที่เขาซ่อนเอาไว้บนขอบประตู ก่อนจะเจอมันแล้วหยิบมาไขประตูห้องเข้าไป แสงสว่างจากช่องทางที่เดินลงไปและช่องหน้าต่างที่เขาติดไว้ทำให้แสงส่องเข้ามาถึงข้างในห้องได้ ภาพที่เห็นม่อนนอนตะแคงตัวคุดคู้อยู่บนที่นอนยังคงหลับสนิท                 “ม่อน ม่อน” นายดินเรียกชื่อเธอแต่หญิงสาวไม่มีทีท่าว่าจะขยับตัวแต่อย่างใดเขารีบทรุดตัวลงไปนั่งลงไปใกล้ ๆ พอแค่แตะมือลงบนตัวเธอเท่านั้น                 “ตัวร้อนจี๋เลยม่อน” เขายังเรียกชื่อเธอพร้อมเขย่าเบา ๆ เธอขยับตัวปรือตาขึ้นมองเขา พอแค่เห็นหน้าของนายใหญ่ของบ้านอยู่ใกล้ ๆ ห่างไม่ถึงศอกถึงกับสะดุ้งตกใจสุดตัว รีบขยับตัวลุกขึ้นนั่งหายใจเร็วยกมือกุมที่หน้าอก                   “ไม่สบายตั้งแต่เมื่อไรกินยาลดไข้บ้างหรือยัง” เขาถามออกมาด้วยความเป็นห่วงยกมือแตะหน้าผากของเธออีกครั้ง ม่อนขยับตัวออกห่างจากเขายกมือขึ้นขยี้ตาก่อนจะกอดอกเอาไว้แน่น เพราะรู้สึกหนาวขึ้นมาจับจิต                 “ฉันถามว่ากินยาหรือยัง” เขาเน้นคำถามย้ำอีกครั้ง เธอส่ายหน้าช้า ๆ หลุบตาลงไม่กล้าสบตากับนาย                 “ในห้องนี้มียาลดไข้ไหม” เขาถามเธอออกมาเสียงก้องกังวานไปทั้งห้องใต้ดินเธอยังคงส่ายหน้าปฏิเสธแทนคำพูด                 “เฮ้อ...ฉันกำลังคุยกับคนใบ้อยู่หรือนี่ หา...” เขาดูค่อนข้างมีอารมณ์ เพราะเด็กสาวไม่ยอมคุยด้วยแต่พอหันไปเห็นหน้าที่แดงไปด้วยฤทธิ์ไข้ของเธอก็ใจอ่อนลงยวบ                 “จะให้ฉันเดินเอายาลงมาให้หรือว่าจะเดินขึ้นไปเอาเอง” เขาถามด้วยน้ำเสียงที่เบาลง ลุกขึ้นยืนก่อนจะหันตัวเดินขึ้นบันไดไปไม่รอฟังคำตอบ                 ม่อนพยายามยันกายลุกขึ้นเพื่อจะเดินตามนายดินที่เดินขึ้นไปข้างบนก่อนแล้ว เธอหน้ามืดทรุดฮวบลงไปอย่างรวดเร็วเวลาเป็นไข้ทีไรเป็นแบบนี้ทุกที ไม่มีเรี่ยวแรงเอาเสียเลย ร่างกายของเธอปวดร้าวไปหมด โดยเฉพาะส่วนกลางร่างกายเจ็บร้าวรู้สึกได้คงระบมกว่าส่วนอื่น ๆ เธอพยายามลุกขึ้นอีกครั้งกลั้นใจฝืนตัวเองสุดกำลัง กว่าจะพาตัวเองให้ขึ้นมาพ้นบันไดและเปิดประตูออกไปเห็นนายกำลังถือแก้วน้ำเดินตรงมาหาเธอ ม่อนหยุดอยู่กับที่พยายามยืนทรงตัวให้ได้ทั้ง ๆ ที่ขาสั่นไปหมด                 “กินยาซะ” เขายื่นยาใส่ในมือเธอสองเม็ดและยื่นแก้วน้ำส่งมาให้ม่อนยกมือไหว้เขา ก่อนจะรับแก้วน้ำมาจากมือของเขาเอาเม็ดยาใส่ปากตัวเองลงไปแล้วดื่มน้ำตามเธอค่อยรูดตัวหลังแนบฝาผนังลงไปนั่งอย่างหมดแรง                 นายดินตกใจรีบจับแก้วน้ำก่อนที่มันจะร่วงตกแตกรวบรั้งร่างเธอเอาไว้ก่อนจะช้อนร่างเธอเข้าสู่อ้อมแขนพาเธอเข้าไปในห้องทำงานของเขา                 “ไม่ไหวทำไมไม่บอก” เขาต่อว่าเธอนิด ๆ ม่อนมองปลายคางของเขาที่มีหนวดเครารกรังอยู่เต็มเหมือนจะยาวกว่าเมื่อวานเสียอีก ม่อนจำได้ตอนที่มีอะไรกันเขาซุกไซ้ใบหน้านี้ทั่วร่างกายของเธอคิดถึงตรงนี้เธอก็รู้สึกวาบหวิวหน้าที่ร้อนด้วยพิษไข้ยิ่งร้อนรุ่มขึ้นไปอีก                 นายดินได้ยินแต่เสียงถอนหายใจของเธอเบา ๆ ติดกันหลายครั้ง เขาพาเธอนอนลงบนโซฟาตัวใหญ่ที่หุ้มด้วยผ้าเนื้อนุ่มชั้นดี ม่อนทำตัวลีบ ๆ ไม่กล้าจะขัดขืนมองตามหลังนายที่ลุกขึ้นไปเปิดผ้าม่านที่เมื่อคืนเธอปิดเอาไว้จนหมด                 “ถ้าฉันอยู่บ้านไม่ต้องปิดม่านก็ได้นะ นอกจากฉันไปต่างจังหวัดหลาย ๆ วัน” เขาพูดขึ้นมาลอย ๆ เหมือนบอกกล่าวเธอ ม่อนยันตัวลุกขึ้นนั่งยกมือขึ้นกระชับเสื้อชุดนอนที่เพิ่งนึกได้ว่าตัวเธอเองไม่ได้ใส่เสื้อชั้นใน                 “จะรีบไปไหนนอนหรือนั่งพักก่อนคงจะรู้สึกเป็นไข้ตั้งแต่เมื่อวานล่ะสิ แล้วทำไมไม่บอก” เขาต่อว่าเธอนึกย้อนไปตอนที่เห็นเธออิงหัวหลับ ตอนที่นั่งแอบมองเขาจากในครัว ม่อนก้มหน้างุดไม่กล้าสบสายตากับนาย นึกอายที่ตัวเองใส่เสื้อผ้าไม่รัดกุมได้แต่นั่งนิ่ง ๆ                 “หิวไหมฉันชักหิวแล้ว” เขาเดินเข้าใกล้ ๆ ก่อนจะทรุดลงนั่งข้าง ๆ                 “เดี๋ยวม่อนไปทำให้นายค่ะ” เธอบอกเขาเสียงแผ่วน้ำเสียงแหบแห้งเขยิบตัวออกห่างเขาอีกนิดหนึ่ง                 “ไหวหรือสภาพนี้ ฉันทำให้เธอกินดีกว่านะ อยู่คนเดียวมาตั้งสามสิบห้าปี แล้วยังไงไข่เจียวฉันก็ทำได้ อีกอย่างที่ทำอร่อยนะคือข้าวต้มกุ้ง” เขาหันมาด้วยและพูดยิ้มให้เธอเงยหน้าขึ้นสบตากับเขายิ้มตอบกลับให้นายแบบแกน ๆ                 “เวียนหัวรึ” เขาถามออกมาด้วยความเป็นห่วง เธอพยักหน้าให้น้อย ๆ                 “รอฉันอยู่ในห้องนี่แหละ เดี๋ยวทำข้าวต้มให้กินเอง” เขาพูดพลางลุกขึ้นเดินตรงไปในครัวม่อนมองตามนายใจเต้นตึก ๆ รู้สึกแปลก ๆ                 ม่อนพยายามจะลุกขึ้นยืนหลายครั้งแต่ก็เกิดอาการวูบขึ้นมาอีก เธอจึงจำใจเอนตัวลงนอนตะแคงบนโซฟาในเมื่อนายอนุญาตแล้วเธอหลับตาลงถอนหายใจออกมาช้า
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม