“บอสคะ ยังมีเรื่องที่ริตาต้องบอกบอสค่ะ” ริตาเอ่ยขึ้นอย่างกล้าๆ กลัวๆ หลังจากที่เปิดคลิปเสียงสัมภาษณ์ของเจค็อบให้เขาฟัง
“ว่ามาสิ”
“เจค็อบขอร้องว่า ถ้าเราจะลงข่าวของเขาจริงๆ เค้าอยากให้ลงข่าวว่าเขาไม่ได้ทำร้ายร่างการคู่กรณี และไม่ได้ใช้เส้นสายจัดการเรื่องกล้องวงจรปิด ส่วนเรื่องที่เขาทำไปเพื่อปกป้องโค้ช เจค็อบไม่อยากให้ลงค่ะ”
“แปลก ปกติคนดังก็ชอบที่จะให้ลงเรื่องอะไรที่ตัวเองจะได้ชื่อเสียงมากขึ้น”
“บอสจะทำตามที่เจค็อบขอไว้ใช่ไหมคะ”
“แน่นอนครับ ในเมื่อเจ้าตัวขอมาขนาดนี้ ผมก็จัดการให้ได้ ถ้าไม่มีเจค็อบ พวกเราก็อาจจะตกงาน แค่เป็นเจ้าแรกที่ได้ข่าวนี้ ผมก็ขอบคุณเขามากแล้ว”
“ขอบคุณมากนะคะ”
“มันเป็นจรรยาบรรณของเราอยู่แล้ว คุณก็รู้ดีนิริตา ว่าแต่... คุณไปทำยังไง เจค็อบถึงยอมให้สัมภาษณ์ถึงบ้าน มีอะไรที่คุณไม่ยอมบอกผมหรือเปล่า” หัวหน้าของริตาถามพร้อมกับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ แม้เขาดูแลงานในด้านกีฬา แต่เขาก็ไม่ได้มาดแมนเท่าไหร่นัก สายตาของเขายิ้มกริ่มจับผิดลูกน้อง
“เขาบอกว่าริตาปากดีค่ะ” เธอบอกเขาแค่บางส่วนและเก็บอาการน่าสงสัยได้เป็นอย่างดี
“โอเค ขอบคุณสำหรับข่าวนะ เชิญคุณไปทำงานต่อได้”
“ค่ะ”
“เอ้อ ต่อไปผมให้คุณทำหน้าที่ไปเก็บข้อมูลความเคลื่อนไหวของทีมลอสแองเจลลิส วอร์ริเออร์ ตลอดฤดูการแข่งขันที่เหลือนะ”
“ริตาเหรอคะ”
“ใช่ มีใครอยู่ในห้องนี้กับผมไหมล่ะ เริ่มบ่ายนี้เลย คุณต้องไปสัมภาษณ์ความพร้อมของทีม ก่อนลงแข่งวันเสาร์นี้พร้อมกับรูปสวย หวังว่าคุณได้อะไรเด็ดๆ กว่าสำนักข่าวอื่นนะ”
“ค่ะ” ริตารับสั่งและเริ่มรู้สึกอึดอัดอีกครั้ง ตลอดทั้งคืนหลังจากแยกกับเจค็อบ เธอต้องใช้สมาธิในการทำงานอย่างมาก เพราะเรื่องของเจค็อบวนเวียนเข้ามาในหัวเธอตลอด แม้กระทั้งตอนฝันและตื่น
“พี่จอห์นเก็บภาพบรรยากาศรอบๆ สนามกับตอนซ้อมก่อนนะคะ เดี๋ยวได้เวลาสัมภาษณ์นักกีฬาแล้วริตาจะมาตามค่ะ” ริตากำชับช่างภาพที่ทำงานทีมเดียวกับเธอ ก่อนจะไปนั่งทวนคำถามต่างๆ เธอนั่งอยู่ในโซนของผู้สื่อข่าวข้างสนามอยู่ไม่นาน นักบาสของทีมก็ออกมาซ้อมตามกำหนดเวลา และเมื่อเธอเงยหน้าจากกระดาษคำถาม เธอก็ละสายตาจากเจค็อบไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว ริตาเลือกทำงานในสำนักข่าวกีฬา ไม่ใช่เพราะชื่นชอบมันมากนัก แต่เธอแค่ไม่อยากทำงานในด้านอื่น เช่น ข่าวอาชญากรรม หรือข่าวบันเทิง และเธอก็ชื่นชมการทำงานของสำนักข่าวนี้ และคิดว่าพวกนักกีฬานั้นมีชีวิตที่น่าสนใจกว่าบรรดานักร้องหรือนักแสดงดังๆ เพราะพวกเขาเหล่านี้ มีความสามารถและยังมีความเป็นมนุษย์อยู่ ซึ่งมนุษย์ที่เธอหมายถึง ก็คือ พอออกจากสนามไป พวกเขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตอย่างปกติ ไม่ต้องสร้างภาพให้ดูดี เพื่อให้อยู่ในหัวใจของแฟนคลับ เธอจึงตัดสินใจเข้าทำงานที่นี่ และเธอก็สามารถทำงานได้อย่างมีความสุข ริตาไม่ได้ชื่นชอบกีฬาชนิดไหนเป็นพิเศษ แต่เธอมีความรู้ในเรื่องของกฏกติกาของกีฬาประเภทต่างๆ เป็นอย่างดี และเธอก็มีเพิ่งจะมีโอกาสได้พิจารณาวันนี้เองว่า เจค็อบ ทอมป์สัน นักบาสชื่อดังที่เธอได้ยินชื่อเสียงเรียงนามและเห็นหน้าเขาไม่ว่าเธอจะอยู่ที่ไหนเขาบนโลกใบนี้นั้น มีความสามารถที่ใครๆ ยอมรับอยู่จริง แม้เธอจะเห็นแค่ตอนซ้อม แต่สายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและตั้งใจของเขาก็เปล่งประกายออกมา และเวลาที่เขาอยู่ในชุดแข่งบาสเก็ตบอล เจค็อบก็ดูเท่ยิ่งกว่าตอนใส่สูทราคาแพงมากเหลือเกิน
“เหมือนเดิมนะครับ ถามได้คนละหนึ่งคำถาม ห้ามถามเรื่องส่วนตัว หรืออะไรไม่เกี่ยวข้องกับการซ้อม และการแข่งวันเสาร์นี้ ส่วนวันนี้มีเจค็อบกับจอร์แดน นั่งรอตอบคำถามนะครับ เชิญทางนี้ครับ” เจ้าหน้าที่ของทีมกำชับผู้สื่อข่าวอีกครั้ง และเมื่อเธอสำรวจไปรอบๆ ก็คงมีแค่เธอที่ยังใหม่กับงานนี้ ส่วนนักข่าวคนอื่นๆ ก็ดูพอใจที่วันนี้พวกเขาจะได้สัมภาษณ์ดาวเด่นทั้งสองคนของทีมไปพร้อมๆ กัน เธอเดินตามนักข่าวคนอื่นๆ ไป พร้อมกับตากล้องที่เตรียมพร้อมรออยู่แล้ว ไม่ถึงห้านาที เจค็อบและจอร์แดนก็เดินออกมาให้สัมภาษณ์ แต่วันนี้สำหรับเจค็อบมันต่างออกไปจากทุกวัน เพราะสายตาของเขาหยุดอยู่ที่ริตา ผู้หญิงที่เขาคิดว่าตัวเองน่าจะตกหลุมรัก เพราะเธอทำให้เขาแทบไม่ได้นอนเลยตลอดทั้งคืน เขาตอบคำถามไปเรื่อยๆ โดยพยายามละสายตาและเก็บรอยยิ้มให้ได้มากที่สุด ส่วนริตาก็พยายามอย่างหนักเช่นกัน จนกระทั่งเหลือเพียงเธอยังไม่ได้ถามคำถามอะไร เพราะคำถามสำคัญต่างๆ ได้ถูกถามไปหมดแล้ว แต่หากเธอไม่ถามอะไรเขาเลย นั่นก็แปลว่าเธอมาที่นี่แบบเปล่าประโยชน์
“เชิญครับ” จอร์แดน นักบาสเก็ตบอลมีส่วนสูงกว่าสองเมตรสิบเซนติเมตร พยักหน้าอนุญาตให้ริตาถาม
“ขอบคุณค่ะ นอกจากกำลังใจจากกองเชียร์ คุณสองคนมีอะไรเป็นแรงขับเคลื่อนที่จะคว้าชัยชนะมาให้ได้อีกไหมคะ”
“สำหรับผมคงเป็นกำลังใจจากครอบครัวครับ ลูกสาวผม เธอเป็นพลังที่ดีเยี่ยมในการคว้าชัยชนะ หากผมกลับบ้านไปแล้วบอกเธอ วันนี้พ่อชนะนะลูก ผมก็ได้เห็นรอยยิ้มที่ฟันน้ำนมยังขึ้นไม่ครบของเธอ”
“ขอบคุณค่ะ แล้วเจค็อบล่ะคะ”
“สำหรับผมคงเป็นการได้ดื่มชาสักแก้ว หรือเครื่องดื่มอะไรก็ได้ที่เธออนุญาตให้ผมดื่ม และจูบหวานๆ จากผู้หญิงที่ผมตกหลุมรักก่อนลงสนามครับ” คำตอบของเขาเรียกเสียงโห่ร้องจากคนอื่นได้เป็นอย่างดี เจค็อบก้มหน้าอย่างเขินอาย จนหน้าผากของเขาชนเข้ากับไมโครโฟน
“ขอบคุณค่ะ” ริตายิ้มจากมุมปากแทบจะฉีกถึงหู
“พูดแบบนี้แปลว่าเจอผู้หญิงคนนั้นแล้วหรือเปล่าครับ” นักข่าวคนหนึ่งถามขึ้น
“ห้ามถามเรื่องส่วนตัวนะครับ ถ้าถามกันครบแล้ว จบการให้สัมภาษณ์เท่านี้นะครับ ขอบคุณครับ” เจ้าหน้าที่ของทีมรีบทักท้วง ก่อนจะพาสองนักบาสเดินออกไป
“คุณครับ คุณริตาหรือเปล่าครับ” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งของทีมทักริตา
“ใช่ค่ะ”
“เจค็อบฝากนี่มาให้ครับ”
“ขอบคุณค่ะ” เธอรับกระดาษใบเล็กที่ถูกพับไว้ และเปิดอ่านมัน