แต่ ยังมีคนที่ไม่ชินกับภาพที่เห็น ร่างสูงของผู้จัดการคนใหม่ที่ก้าวเข้ามาในร้านหยุดยืนกอดอกมองพราวตะวันหัวเราะต่อกระซิกกับแพทริกอย่างสนิทสนม ไม่มีกฎข้อไหนหรอกที่ห้ามไม่ให้พนักงานสนิทสนมกับลูกค้า แต่ว่านี่มันเกินความจำเป็นหรือเปล่า มันเหมือนว่าพนักงานของเขาให้ท่าลูกค้าจนเกินเหตุเสียมากกว่า
เมื่อเหตุการณ์ภายในร้านดูสงบจนผิดปรกติ พราวตะวันจึงยุติการสนทนามองหาความผิดปรกติ เมื่อหันไปสบตาคู่คมสีเขียวมรกตที่จ้องเธอเขม็งอยู่ พราวตะวันก็หนาวเยือกขึ้นมาทันที แล้วหัวใจของเธอก็ชาวาบแล้วกระตุกเต้นรัวแรงราวกับถูกไฟช็อต เธอหายใจไม่ออกเอาเสียดื้อๆ นั่นเป็นเพราะสายตาเขาอย่างเดียวเท่านั้น
อย่างที่ไม่ต้องให้ใครกระซิบบอก พราวตะวันถอยออกมาจากแพทริกหนึ่งก้าวโดยอัติโนมัติ อาหมิงเคยบอกว่าความสนุกสนานในร้าน เสียงพูดคุยหยอกล้อของพนักงานจะยุติทันทีที่ไมเคิลมา และเมื่อวันก่อนไมเคิลเพิ่งไล่ลูกค้าออกจากร้านโดยไม่แคร์ว่าหมอนั่นเป็นใครมาจากไหนเพราะว่าหมอนั่นจับก้นพนักงานแบบจงใจลวนลาม เขายังสอนพนักงานอีกว่าหากถูกลวนลามให้ร้องโวยวายอย่ายอมเด็ดขาด ลูกค้าเป็นพระเจ้าก็จริง แต่ว่าถ้ามีคนที่เข้ามาแล้วไม่ทำตัวเป็นลูกค้าก็อย่านับว่าเป็นพระเจ้า จากทุกอย่างที่เกิดขึ้นทำให้พราวตะวันรู้ว่าเขาต้องไม่พอใจแน่ที่เห็นเธอสนิทสนมกับหนุ่มอเมริกันคนนี้ ไม่ว่าจะมองเหตุผลเรื่องที่เธอเป็นพนักงานในร้าน หรือมองว่าเธอจะเป็นนางบำเรอคนต่อไปของเขา มันก็ไม่เหมาะสมสักอย่าง
“ถึงเวลาที่คุณต้องกลับแล้วล่ะแพทริก เจ้านายฉันมาแล้ว” เธอกระซิบบอกเขา
แพทริกยักไหล่ชายหนุ่มไล่กวาดยิ้มให้กับพนักงานในร้านที่รู้จักเขาทุกคนรวมทั้งหมิงลี่เฟย แล้วเขาก็เดินออกไปอย่างอารมณ์ดี
แล้วพราวตะวันก็ก้มหน้าก้มตาเก็บกล่องเครื่องประดับเข้าที่เพื่อให้ดูเหมือนมีอะไรทำเพื่อให้สายตาอันมีออร่าของเขานั้นละไปจากเธอเสียที
ไมเคิลเดินเข้ามาที่พราวตะวันยืนอยู่ พนักงานทุกคนแทบลืมหายใจเมื่อเห็นเขามีท่าทางคุกคามแบบนั้น ไม่มีใครกล้าพนันหรอกว่าเขาจะไม่ด่าเธอ เพราะเขาจะต้องด่าแน่นอน
แต่พราวตะวันกลับกลัวอีกเรื่อง เธอกลัวว่าเขาจะพูดเรื่องที่เธอและเขาตกลงกันอย่างลับๆ หวังว่าเขาคงไม่ได้แสดงท่าทีอะไรว่าเขาและเธอเป็นอะไรกัน ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่มีหน้าทำงานที่นี่อีกต่อไปแน่
“เธอรู้ไหมว่าที่นี่คือที่ทำงาน ไม่ใช่ที่ที่จะพลอดรักกัน” เขาบอกเสียงเรียบ แต่นั่นก็ทำให้พนักงานทุกคนหลับตาไว้อาลัยให้พราวตะวันในใจ เพราะเธอได้เจอของแข็งเข้าให้แล้ว
เพื่อนหวาดหวั่นหากแต่พราวตะวันกลับโล่งใจที่เขาไม่ได้พูดเรื่องนั้น อันที่จริงเธอไม่น่าจะกังวลอะไรเลยเพราะเขาเคยบอกแล้วว่าเรื่องระหว่างเขาและเธอจะต้องเป็นความลับ ดังนั้นการที่เขาด่าเธอเธอจึงไม่ได้สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อยเพราะว่าเธอไม่ได้จีบกับแพทริกอย่างที่ไมเคิลว่าเสียหน่อย
“ฉันรู้ค่ะ แต่คุณรู้ไหมคะว่านั่นมันเป็นการที่พูดคุยกันธรรมดาไม่ใช่เป็นการพลอดรักกันอย่างที่คุณกล่าวหา” เธอตอบกลับไป กองเชียร์ที่ลุ้นอยู่อยากจะกลั้นใจตายกันคนละสามรอบโดยเฉพาะหมิงลี่เฟย เธออยากกัดลิ้นตัวเองตายมากที่เธอลืมบอกเรื่องที่สำคัญที่สุดไป
เธอลืมบอกไปว่า
ข้อห้ามอีกอย่างหนึ่งของการเป็นลูกน้องของไมเคิลคือ อย่าเถียงในยามที่เขาโมโห
“แล้วนั่นอะไร” เขามองดอกไม้ที่มือของเธอ
“เขาฝากฉันให้เพื่อนค่ะ” พราวตะวันยื่นดอกไม้ให้หมิงลี่เฟย ฝ่ายนั้นรับมาไว้อย่างงุนงง พราวตะวันได้แต่ขอโทษแพทริกอยู่ในใจที่เธอหาทางออกเอาง่ายๆ อย่างนี้
“สิ่งที่เดอ ลา ครูเซด์ไม่ต้องการให้พนักงานเป็นคือการโกหก”
“แต่ฉันไม่ได้โกหกนะคะ ฉันพูดเรื่องจริง” เธอเถียงเขาคอเป็นเอ็นก็ที่เธอพูดมันเรื่องจริงนี่นา
“เธอกล้ายืนยันอีกรอบไหม”
“กล้าค่ะ ฉันกับเขาไม่ได้ชอบกัน แพทริกเขาชอบเพื่อนฉัน แต่ไม่กล้า เขาให้ดอกไม้ฉันเพื่อส่งผ่านไปให้เพื่อนฉันทุกวัน”
“ในโลกนี้มันมีผู้ชายหน้าโง่ที่ขี้ขลาดอย่างนี้อยู่อีกหรือ” เขาพูดอย่างไม่เชื่อเต็มที่ แต่นั่นแหล่ะ พราวตะวันก็ยังเถียงเขาในใจทั้งที่ยังไม่กล้ามองหน้าเขาว่า
อย่างน้อยก็มีหนึ่งคนคือนายแพทริกนั่นแหล่ะ
“เดือนนี้ฉันจะลดโบนัสเธอ” เขาสั่งก่อนจะหันหลังให้แล้วเดินออกไป คนที่ยืนเชียร์อยู่ฮือฮาทันที เขาเชือดพนักงานที่กล้าเถียงเขาได้อย่างนิ่มนวลจริง แล้วไอ้โบนัสที่ว่านี่ก็ไม่ใช่น้อยๆ บางคนได้สามเท่าถึงห้าเท่าของเงินเดือน แล้วที่สำคัญเขาตัดสินใจโดยไม่ยุติธรรมเลย
“คุณนี่มันไม่มีเหตุผลที่สุดเลย” พราวตะวันร้องตามหลังเขาไป
“โยโกะ อย่าเถียงเจ้านายเลย พอแล้ว” หมิงลี่เฟยร้องเตือน
“คุณไม่มีสิทธิมาทำกับพนักงานอย่างนี้ เห็นว่าเป็นเจ้านายแล้วทำไมต้องข่มขู่ทุกคนอย่างนั้นด้วยล่ะคะ”
“เดือนถัดไป ฉันจะหักโบนัสของเธออีก ถ้าไม่พอใจ ไปเซ็นใบลาออกที่ห้องฉัน” เขาพูดทั้งๆ ที่ยังไม่หันหน้ามามองพราวตะวัน แล้วจังหวะที่เธออึ้งอ้าปากค้างอยู่นั่น เขาก็เดินเข้าห้องไป พร้อมกับชุนเหลียงเลขาของเขา ชุนเหลียงมองพราวตะวันอย่างปลดปลง
พราวตะวันรู้จักไมเคิลน้อยเกินไปจริงๆ
พอลับร่างเจ้านายเท่านั้น ทุกคนก็กรูเข้ามาตบบ่าลูบหลังปลอบใจพราวตะวันกันยกใหญ่ แต่หญิงสาวกลับยืนนิ่งงันไม่นำพาคำพูดปลอบใจของใครเพราะเธอยังอึ้งอยู่
ไมเคิลบ้าและไม่มีเหตุผลเป็นที่สุด เขารู้ทั้งรู้ว่าเธอต้องการเงินแค่ไหน เขาก็ยังทำกับเธอได้ลงคอ
“โยโกะ อย่าโกรธอย่าเถียงนะ ใครที่ขัดใจเขา เขาจะไล่ออก” เพื่อนอีกคนบอก
“ถ้าโยโกะไม่มีเงินใช้บอกเรานะ เดือนหน้าเราไม่ได้ส่งเงินกลับที่บ้าน เราจะให้เธอยืมก่อนก็ได้” เพื่อนอีกคนบอกอย่างห่วงใยเช่นกัน ทุกคนล้วนแล้วแต่เสนอให้ความช่วยเหลือเธอ แต่ไม่มีใครชักชวนให้เธอทักท้วงกับสิ่งที่ไม่ยุติธรรมที่เขาทำเลย
บ้าที่สุด
“เขาสามารถไล่เราออกง่ายๆ อดทนเอาไว้นะโยโกะ” หมิงลี่เฟยบอก เธอไม่อยากให้เพื่อนตกงานเลย และเพื่อนทุกคนก็ไม่อยากให้เธอตกงานเช่นกัน
พราวตะวันพยักหน้าให้เพื่อนทุกคน เธอเดินเข้าไปในออฟฟิศที่เป็นห้องของผู้จัดการ และไม่ทันต้องรอคำทักท้วงของชุนเหลียง เธอก็เปิดประตูห้องเข้าไปหาเขาทันที
“ชุนเหลียง เธอปล่อยให้คนเข้ามา เธอบกพร่องต่อหน้าที่ ฉันควรทำยังไงดี หักเงินเดือนดีไหม” เขาว่าชุนเหลียงกระทบพราวตะวัน
“พี่ชุนเหลียงไม่เกี่ยวค่ะ ฉันเข้ามาเอง แต่ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ”
ไมเคิลมองดวงหน้าหวานสวยที่ตรึงตาเขาแต่แรกเห็นแล้วก็ถอนใจ เขาพอจะมองออกว่าเธอเป็นคนอ่อนแอยอมคนง่ายๆ แต่บางครั้งเธอก็สู้หัวชนฝา อย่างเช่นครั้งนี้เป็นต้น
“จะเขียนใบลาออกใช่ไหม” เขาถาม ไมเคิลโมโหมากที่เธอถียงเขา ไม่เคยมีใครกล้าหือกับเขามาก่อน ทุกคนล้วนรักตัวกลัวตาย เธอทำให้เขาโมโหจนทำเรื่องไม่เป็นเรื่องไป
“ชุนเหลียงออกไปก่อน” เลขาเขาอันตรธานหายไปในชั่วพริบตา พราวตะวันเห็นว่า ใครๆ ต่างก็กลัวเขาจนหัวหดไปหมด นั่นคงเป็นสิ่งที่ทำให้เขาเป็นคนเอาแต่ใจหนักขึ้นกว่าเดิมแน่ๆ
“ฉันไม่ได้มาลาออก ฉันแค่อยากรู้ว่าการที่ฉันเถียงคุณเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันต้องโดนหักเงินเดือนหรือเปล่า ถ้าใช่ คุณทำไม่ถูกนะคะ”
“ใช่ ฉันรู้ว่าฉันทำไม่ถูก แต่การที่เธอเถียงฉันทำให้ฉันต้องทำอย่างนั้น ถ้าฉันปล่อยเธอไป ใครจะเคารพฉัน ที่นี่ก็ทำงานกันไม่เป็นระบบอยู่แล้ว อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่าตอนที่ฉันไม่อยู่กับตอนที่ฉันอยู่พวกเธอใช้ชีวิตต่างกันแค่ไหน บอกเพื่อนเธอด้วยว่าทั้งต่อหน้าและหลับหลังเจ้านายให้ทำตัวให้เหมือนกัน ไม่อย่างนั้นฉันอาจจะพิจารณารายได้ของพวกเธอทั้งหมด”
พราวตะวันหน้ายุ่ง เธอรู้สึกว่าเรื่องของเธอคนเดียวจะทำให้คนอื่นเดือดร้อนไปหมด นี่เธอต้องยอมเขาใช่ไหมเรื่องถึงจะจบ
“ออกไปทำงานได้แล้ว ถ้ารักจะทำงานที่นี่ก็อย่ากินแรงเพื่อน”
“แต่ว่า” พราวตะวันจะถียง แต่เขาไม่สนใจ ไมเคิลเดินไปที่ผนังมุมห้องหยิบแฟ้มงานมาเปิดๆ ไม่สนใจเธอเอาเสียเลย
“แล้วเรื่องเงินหนึ่งล้านนั่นล่ะคะ”
“อย่าเอาเรื่องไร้สาระมารบกวนฉันเวลาทำงาน ลืมเรื่องนี้แล้วไปทำหน้าที่ของเธอ” เขาไล่เอาเสียดื้อๆ พราวตะวันได้แต่เดินออกมางงๆ เธอไม่เข้าใจเขาเลย
เพื่อนๆ เข้ามาถามเธอว่าเป็นอย่างไร บางคนเข้าใจว่าเธอถูกไล่ออกเสียด้วยซ้ำที่เดินออกมาหน้างงๆ แบบนั้น เพราะเมื่อก่อนตอนที่ไมเคิลอยู่สำนักงานใหญ่เคยมีคนที่เป็นเหมือนเธอและถูกไล่ออกไปหลายคนแล้ว
“ฉันไม่โดนไล่ออกหรอก แต่สิ่งที่เขาบอกว่าจะทำเขาก็คงทำ” พราวตะวันพูดอย่างแสนเสียดายเงินโบนัสที่เธอควรจะได้ ท่าทางของเขาบอกว่าเขาจะหักเงินแน่นอน วันเดียวที่ได้ปะฉะดะกับเขาทำให้รู้ว่าเขานั้นเอาจริงแค่ไหน มิน่าเล่าถึงไม่มีใครกล้าแหยมกับเขาเลย
แล้วเรื่องของเธอกับเขาเขาก็ไม่ยอมคุยด้วย แล้วเขาจะให้เธอทำอย่างไร ไม่ใช่ว่าเธออยากนอนกับเขาหนักหนาถึงได้ถามไป แต่พราวตะวันไม่ใช่คนที่จะเอาของใครมาฟรีๆ เธอตกลงกับเขาไว้แล้วถึงเรื่องการชดใช้ แต่ยังไม่ได้คุยเลยว่าเขาจะเอาอย่างไร เขาไม่ยอมคุยด้วย หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจ พราวตะวันครุ่นคิดในใจ
เธอนึกไปถึงวันที่เธอตกลงกับเขา เธอขอเงินกับเขาแค่หนึ่งล้านบาท โดยมีข้อแม้ว่าเธอจะต้องใช้หนี้เขาเดือนละห้าหมื่นบาทโดยหักจากเงินเดือน เขางงมากที่เธอเสนออย่างนั้น แต่เธอคิดว่าเธอไม่อยากได้เงินเขามาเลย เธออยากใช้คืนให้หมดทุกบาทจะได้ไม่ต้องติดค้างกัน ส่วนเรื่องการที่เขาอยากได้ตัวเธอก็อีกเรื่องหนึ่ง เธอไม่ได้คิดว่าเธอสูงส่งมีราคาค่างวดอะไร เขาจะคิดว่าการได้ตัวเธอไปเป็นค่าดอกเบี้ยหรืออะไรก็แล้วแต่ เธอยินดีทั้งนั้นเพราะการที่เขาให้เงินเธอยืมก็เป็นพระคุณอย่างสูงแล้ว วันนั้นเธอและเขาตกลงกันอย่างนี้แล้วเขาก็เซ็นเช็คให้เธอกลับเมืองไทยไปตั้งสามวัน
แต่มาวันนั้นนี้เขากลับบอกว่าไม่อยากพูดถึงเรื่องนั้น ให้เธอลืมไปเสีย หรือว่าเขาจะเปลี่ยนใจไม่ต้องการเธอแล้ว เขาอาจจะให้เธอยืมเงินแล้วใช้คืนเท่านั้นโดยไม่ได้คิดอะไร เขาอาจจะใจดีให้เธอยืม และเขาอาจจะไม่ต้องการตัวเธอก็ได้ เพราะมีผู้หญิงมากมายที่พร้อมจะเข้าหาเขา และแต่ละคน คงสวย คงดีกว่าเธอมากมาย แล้วเขาก็คงไม่ต้องการยุ่งเกี่ยวกับเธอแล้วถึงมีท่าทีไม่สนใจเธออย่างนี้ พราวตะวันยิ้มออกได้เป็นครั้งแรกเมื่อคิดว่าอีกฝ่ายละความสนใจจากตัวเองแล้ว เขาเป็นคนที่เบื่อง่ายกอปรกับที่เขามีตัวเลือกเยอะเขาถึงไม่ได้อยากได้ตัวเธอเหมือนวันนั้น อย่างนี้ก็ดีเหมือนกันแฮะ
ถ้าอย่างนั้นนับจากนี้ไปเธอจะตั้งใจทำงานเก็บเงินมากๆ แล้วใช้คืนเขาให้หมดภายในไม่เกินสองปี เงินที่เหลือจากใช้หนี้เขาก็พอเหลือให้ใช้อยู่บ้าง มันก็คงไม่ลำบากมากมายนัก
ใครว่าไมเคิลใจร้ายอย่างไรก็ตามแต่ แต่พราวตะวันเชื่อว่า อย่างน้อยเขาก็มีมุมดีๆ ของเขาอยู่เหมือนกัน