“ว่าไงมิกิ เงียบเชียว ทำเหมือนไม่ได้มาด้วยกันเลย ไม่ดีใจหรือที่พี่กลับมา” เมื่อขึ้นรถมาคุยกันกับเพื่อนมากมาย แต่รู้สึกได้ว่ามีอีกคนเงียบไป พราวตะวันจึงถามน้องสาวที่เอาแต่เงียบไม่พูดอะไรเลยตั้งแต่มาเจอกัน
“เอ่อ มิกิ ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร มัวแต่งงพี่ผู้ชายคนเมื่อกี้อยู่ค่ะ” พราวแสงศศิบอก พร้อมกับเสหันหน้าไปมองทางอื่น เธอจะบอกได้อย่างไร ว่าเธอพูดอะไรไม่ออกเมื่อเห็นว่าคนที่มากับเธอนั้นสนใจพี่สาวเธอจนออกนอกหน้า
วชิรวิชย์ คือคนที่เธอมองเขาเสมอ แต่เขาไม่เคยมองเธอเลย ไม่เคยเลยสักครั้ง เพราะว่าในสายตาของเขามีแค่พี่สาวเธอเท่านั้น
“กลุ้มเรื่องแม่หรือเปล่า พี่บอกว่าให้ใจเย็นๆ ไว้ก่อน อย่างไรก็ได้รักษาแน่” พราวตะวันบอกน้อง
นี่แหล่ะคือเหตุผลที่เธอยอมทำทุกอย่างเพื่อครอบครัว อนาคตของน้องสาวเธอยังอีกไกล พราวแสงศศิไม่ควรทุกข์ใจเรื่องนี้จนเสียการเรียน
“วิชย์ เราจะส่งแม่เราเข้ารักษาที่โรงพยาบาลวิชย์พรุ่งนี้เลยนะ วิชย์ต้องช่วยรักษาแม่เราด้วยนะ” เธอหันไปฝากฝังกับเพื่อน
“ได้เลย ว่าแต่โยโกะลำบากเรื่องเงินหรือเปล่า เราออกให้ก่อนก็ได้นะ เรื่องเงินไม่ใช่ปัญหาเลยนะ อย่ากังวลทั้งสองคนนั้นแหล่ะ มีเราอยู่ทั้งคน” วชิรวิชย์บอกอย่างจริงใจ
“ขอบคุณมากนะวิชย์ที่ไม่เคยทิ้งพวกเรา” พราวตะวันยิ้มให้เพื่อนแทนคำขอบคุณ และหมอหนุ่มก็ยิ้มรับ ทั้งสองแสดงออกต่อกันโดยไม่ทันมองคนที่เสหันหน้าหนีไปทางอื่นเพื่อปิดบังแววตาเศร้าๆ ของตัวเองเลย ไม่มีใครไล่ หากแต่พราวแสงศศิก็กันตัวเองออกจากการสนทนาด้วยการไม่พูดอะไร ได้แต่ฟังทั้งสองคุยกัน
ต่อมาพราวตะวันก็ไม่ได้สังเกตน้องสาว เธอสนใจเพื่อนมากกว่าเพราะว่าตอนนี้เธอต้องการคุยเรื่องที่จะส่งมารดาเข้ารักษา โดยให้อาจารย์ที่สนิทกับวชิรวิชย์เป็นเจ้าของไข้ เธอรู้อยู่แล้วว่าวชิรวิชย์จะต้องให้เงินเธอยืมเพื่อการรักษาแม่ เงินที่เธอคิดว่ามันน่าจะเป็นก้อนใหญ่มากเกินกำลังของเธอ เธอจึงตัดไฟเสียแต่ต้นลมด้วยการรับเงินมาจากทางอื่น
เพราะแค่การที่วชิรวิชย์มาคลุกคลีกับบ้านเธอนั้นทำให้มารดาของเขาไม่พอใจมากพออยู่แล้ว หากว่าท่านรู้ว่าหมอหนุ่มให้เงินพวกเธอแล้ว ท่านคงดูถูกและไม่อยากสมาคมกับพวกเธอมากกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้
พราวตะวันยอมได้รับการดูถูกจากคนที่เธอรับเงินมามากกว่าที่จะให้มารดาของวชิรวิชย์ดูถูกครอบครัวเธอ โดยเฉพาะน้องสาวของเธอ จะต้องไม่มีใครหยามศักดิ์ศรีหรือหมิ่นเกียรติของพราวแสงศศิ น้องสาวของเธอต้องเป็นหมอที่ดี และสร้างอนาคตอันงดงามให้ตนเองได้โดยมีเธอและมารดาเป็นแรงหนุนหลัง จะต้องไม่มีใครว่าน้องสาวของเธอและครอบครัวเธอว่าเป็นปลิงหิวเงินคอยดูดเลือดผู้ชาย ในสายตาคนอื่นน้องสาวของเธอต้องดีพร้อมเท่านั้น
พราวตะวันแหงนมองไปที่กระจกส่องหลัง มองผ่านไปเพื่อจะมองน้องสาวที่นั่งอยู่ด้านหลัง น้องสาวผู้เป็นคนเดียวที่พราวตะวันจะทำทุกอย่างให้ แม้ว่าเธอจะต้องพบเจอกับอะไรบ้างก็ตาม แต่เธอจะไม่ยอมให้น้องสาวโดนดูถูกเด็ดขาด
ไม่มีวัน
เมื่อทุกคนในรถเงียบลง พราวตะวันก็นั่งมองตรงไปข้างหน้าท้องถนนแห่งเมืองกรุงที่มีรถเต็มแน่นขนัด รถติดจนน่าอึดอัดแต่ความหวังที่จะได้พบมารดาและให้กำลังใจท่านนั้นยังเต็มเปี่ยม จากที่คุยกันกับไมเคิลเจ้านายใหม่เมื่อบ่ายนี้ เธอได้รับอนุญาติให้ลางานในกรณีพิเศษนอกเหนือจากวันลาพักร้อน จนเธอได้กลับมาเมืองไทยในทันทีพร้อมกับเงินหนึ่งล้านบาทในกระเป๋าและเงื่อนไขอันแสนประหลาดที่เธอและเขาตั้งขึ้นแก่กัน
เธอมาพาแม่เข้ารักษา และกลับไปแล้ว จะต้องไปหาเขา อยู่กับเขา โดยไม่มีการแต่งงาน ไม่มีความรัก ไม่มีเด็ก และไม่มีใครรับรู้เด็ดขาด
แค่คิดถึงหัวใจของพราวตะวันก็หนาวสั่นขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล เธอนึกถึงตอนที่เธอและเขาอยู่ใกล้กันไม่ออกเลย เธออาจจะหลอมละลายจนเป็นลมตายไปก็ได้ เพราะแค่ยืนจ้องหน้าเขาเธอก็เกือบจะหายใจไม่ออกอยู่แล้ว หากเขาเข้ามาใกล้หรือจับต้องเธอ เธอจะเป็นอย่างไรนะ พราวตะวันอยากจะหัวเราะตัวเอง ทั้งที่ไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร เธอเองก็ยังกล้ารับปากเขาอย่างบ้าบิ่น
แต่ไม่เป็นไรหรอก เธอจะเป็นอย่างไรเธอก็ไม่สนใจ ขอแค่วันนี้เธอได้ทำเพื่อแม่และน้องก็พอแล้ว ส่วนตัวของเธอเอง ถ้าไม่เหนือบ่ากว่าแรงก็ทนไปให้ได้ก็คงจบ การตกเป็นของไมเคิลอาจจะไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิดก็ได้ หากวันที่เขาทิ้งเธอเธอก็จะอยู่ด้วยตัวเอง
การที่จะต้องไปอยู่ด้วยกันเพื่อตอบแทนเงินของเขา มันก็ไม่ต่างจากการที่เขาและเธอเดินผ่านกันแล้วพบหน้ากัน แล้วไม่นานก็จะเดินผ่านกันไป ก็เท่านั้น