บทที่5. ลูกค้าVIP

1104 คำ
ชายหนุ่มเดินออกมาพร้อมเสียงหัวเราะในลำคอ เขาเดินออกมาไม่กี่นาทีก็ถึงรถกระบะโฟล์วิวสีดำของตนเอง ขณะสตาร์ทรถเตรียมกลับบ้านไร่ เขาก็นึกถึงเรื่องเมื่อสองสามคืนก่อนในผับแห่งหนึ่ง เขาชอบดื่ม ชอบฟังเพลงแต่เขามักจะเป็นแนวเพื่อชีวิต แต่คืนนั้นเป็นวันเกิดรุ่นน้องที่สนิทกันเขาจึงไปร่วมงานปาร์ตี้ หญิงสาวสุดเปรี้ยวในชุดดำเต้นยั่วยวนในกลุ่มเพื่อนของเธอ มีชายหนุ่มล้อมหน้าล้อมหลังอยู่หลายคน ดูเธอเมามายแทบไม่ได้สติและมีผู้ชายพยายามจะลวนลามเธอ เขาเห็นแล้วก็อดไม่ได้เข้าไปขวางตั้งใจจะช่วยเหลือแต่หญิงสาวกลับพูดกับเขาว่า “อย่ามายุ่งกับฉัน กุ้ยข้างถนนอย่างนายไม่ได้แอ๋มฉันหรอก” พิชญะหัวเสียที่ถูกมองอย่างนั้น เขาเดินกลับมานั่งดื่มที่โต๊ะ เพื่อนรุ่นน้องหัวเราะชอบใจ “พี่เพลิงต้องปรับปรุงการแต่งตัวเสียหน่อย มีเงินอย่างเดียวจีบสาวไม่ติดนะเนี้ย” “ไม่ได้จะจีบ แต่เห็นท่าไม่ดีก็เลยจะช่วย แต่โดนตอกซะหน้าชาเลย” “เขาถือว่าสวยเลือกได้ก็ปล่อยเขาเถอะ” “แล้วรู้ไหมว่าเป็นใคร” “คนนั้นนะเหรอ น่าจะลูกสาวตระกูลเพชรประกายมั้ง”  คนตอบไม่ค่อยแน่ใจนัก เขาเรียกพนักงานเสิร์ฟมาถามเพื่อความแน่ใจ “คุณมาร์กี้ครับ เป็นลูกค้า VIP ของผับเรา” พิชญะขมวดคิ้ว “เป็นคนดังเหรอ” “พวกเนทไอดอลหน่ะ” รุ่นน้องหัวเราะกับคำถามของรุ่นพี่ “รู้จักไหมครับพี่เพลิง” “ไม่ล่ะ ของแบบนั้นน่ะ” พิชญะยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม เขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้หรอก แต่รู้สึกอยากเอาชนะมากกว่า เขาดื่มฉลองวันเกิดให้รุ่นน้องจนผับปิด พอเดินออกมาก็เจอหญิงสาวอีกครั้ง และเธอก็ปฏิเสธความช่วยเหลือจากเขา จนเมื่อมีคนมารับและจะถูกลวนลามเขาจึงเข้าช่วยอย่างทนไม่ได้ “ไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวผมยาวส่ายหน้าไปมา “ขอบคุณที่ช่วยเหลือค่ะ ขอตัวนะคะ” เธอก้มศีรษะลงเล็กน้อยอยากจะยกมือไหว้ขอบคุณแต่ไม่ถนัดเพราะประคองร่างหญิงสาวอีกคนอยู่ แต่มาติกาเงยหน้าขึ้นแล้วส่งจูบให้เขา พิชญะขับรถตามไปส่งเธอทั้งสองอย่างเงียบๆ พอดูชื่อบ้านก็จำได้ว่าครอบครัวนี้ติดหนี้เขาอยู่หลายล้าน และบังเอิญว่าคุณวิทยาติดต่อขอกู้เงินเพิ่ม เขาจึงอยากลองเล่นอะไรสนุกๆ เพลินๆ ตามประสาคนมีเงินก็เท่านั้น ใช่! เขาจะทำให้รู้ว่าคนมีเงินอย่างเขาจะทำอะไรก็ได้ แม้ว่าจะซื้อผู้หญิงมาเป็นนางบำเรอก็ตาม!.  ........... รินรดาขมวดคิ้วอยู่กับกองเอกสาร กาแฟร้อนที่ชงไว้เย็นชืดไปหมดแล้วแต่เธอก็ยังจดจ้องกับตัวเลขตรงหน้า เธอกดเครื่องคิดเลขสลับกับพลิกเอกสารในแฟ้มหลายครั้งแต่ตัวเลขก็ไม่เป็นแบบที่เธอต้องการ คล้ายกับมีการแก้ไขอะไรบางอย่างที่เธอไม่รู้    เธอเงยหน้าขึ้นเมื่อคุณวิทยาเดินผ่านโต๊ะทำงานของเธอไปที่ห้องทำงานของผู้บริหาร หญิงสาวรีบหอบเอกสารก้าวเร็วๆ ไปทันที มีอะไรด่วนนักหรือไง เข้ามาก็ไม่เคาะประตูก่อน” วิทยาดุอย่างไม่ใส่ใจนัก “ขอโทษค่ะ” รินรดาเห็นสีหน้าเหนื่อยอ่อนของผู้ชายตรงหน้าก็อ้ำอึ้ง หลายวันมานี้คุณวิทยามีสีหน้าเคร่งเครียดตลอดเวลา “คือตัวเลขในบัญชีมันดูผิดปกติค่ะ” “ถ้าเป็นเรื่องนี้ไม่ต้องเอามาพูดกับฉัน!”  รินรดาผวาเฮือก ถึงเธอจะเจออารมณ์ร้ายของคุณวิทยาบ่อย แต่ก็ท่านก็ไม่ค่อยตวาดเธอในที่ทำงานนักและแน่นอนว่าอย่าหวังว่าคุณวิทยาจะเรียกตัวเองว่าพ่อด้วย  “แต่ว่า...”  “ไม่มีแต่อะไรทั้งนั้น” มือใหญ่เอื้อมมือมาหยิบแฟ้มเอกสารจากมือของลูกบุญธรรม“ไปๆ มีอะไรก็ออกไปทำก่อนไป”  “ค่ะ”  รินรดารับคำแล้วก้มหน้าเดินออกมาอย่างเงียบๆ เธอเห็นความผิดปกติเกี่ยวกับรายรับรายจ่ายของบริษัทมาสักระยะ และรู้ดีว่าฐานะการเงินค่อนข้างมีปัญหาแต่ปัญหาบางอย่างเธอก็ไม่อาจก้าวก่ายการตัดสินใจของคุณวิทยาได้  หญิงสาวเดินกลับมานั่งที่โต๊ะทำงานแต่จิตใจเหม่อลอย เธอเข้าใจคุณวิทยาดีไม่ว่าจะกี่ปีท่านก็ไม่เคยมองเห็นเธอเป็นลูกได้ แน่นอน เธอดูออกจากสายตาและท่าทางระหว่างเธอกับมาติการวมถึงคุณแพรวาด้วย หญิงสาวเผลอกัดปลายดินสอด้วยความเคยชิน ทำสมาธิให้นิ่งแน่วแน่กับงานตรงหน้า  ตัวเลขในบัญชีติดลบ คุณวิทยาเอาเงินไปทำอะไรมากขนาดนั้นนะ “นั่งกัดหัวดินสออีกแล้วนะรินรดา”  “คะ” หญิงสาวตื่นจากภวังค์แล้วเงยหน้าขึ้นมองคุณแพรวาที่ยืนค้ำโต๊ะทำงานเธออยู่ “คุณวิทยาเข้ามารึยัง” “มาถึงสักครู่แล้วค่ะ” “ดีแล้ว” คุณแพรวาพยักหน้ารับ แล้วหมุนตัวเดินไปแต่เดินห่างไปได้แค่สองสามก้าวก็หันกลับมาอีกครั้ง “ขอน้ำส้มเย็นเจี๊ยบให้ฉันด้วยนะ อ้อ! คุ้กกี้รองท้องสักสี่ห้าชิ้นด้วยล่ะ” “ค่ะ”   รินรดามองร่างคุณแพรวาเดินเข้าห้องท่านประธานไปแล้ว เธอจึงลุกขึ้นเดินไปที่ห้องครัวเล็กๆ ของออฟฟิศ เปิดตู้เย็นหยิบน้ำส้มที่เธอคั้นใส่ขวดไว้ให้พนักงานคนอื่นดื่มด้วยออกมารินใส่แก้ว ร่างบางหมุนตัวไปหยิบคุ้กกี้ออกจากโหลใบใสจัดเรียงใส่จานอย่างสวยงาม “โธ่! หนูริน! ไม่เห็นต้องทำเองเลย ใช้ใครก็ได้” ปานชีวาส่ายหน้าไปมา แล้วหยิบคุ้กกี้ในโหลเข้าปาก “ทำอร่อยแบบนี้ไม่ลองทำขายดูละหนูริน” “กลัวขายไม่ออกค่ะ” หญิงสาวยิ้มเขินอายในคำชม “รินทำใส่กล่องมาให้พี่ปานเอาไปให้ลูกชายพี่ปานด้วยนะคะ” “หนูรินก็นะ” ปานชีวาส่ายหน้าอีกครั้ง “ฝีมือระดับนี้แล้วทำขายได้สบาย เปิดร้านได้ก็ไม่น่าเกลียด เราเองก็มีความรู้เรื่องการตลาด ทำแพ็คเก็ตสวยๆ ก็ขายได้อยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องมาฝืนอยู่อย่างนี้”
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม