เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นตอนตีสองครึ่ง มือเรียวควานหาโทรศัพท์มือถือที่วางไว้ข้างเตียงนอน เสียงดังนานราวกับจะบอกว่าปลายสายต้องการความช่วยเหลือด่วน
“สวัสดีค่ะ”
“ทำอะไรอยู่ รับสายช้าจริงๆ”
“รินหลับค่ะพี่มาร์กี้”
“หลับเร็วจริงนะ”
“เอ่อ...ตีสองกว่าแล้วค่ะพี่มาร์กี้”
“เออๆ มารับหน่อยซิ ฉันขับรถกลับไม่ไหว”
“พี่มาร์กี้อยู่ที่ไหนคะ”
“ผับแถวสุขุมวิท”
“ขอครึ่งชั่วโมงค่ะ พี่มาร์กี้อย่าไปกับใครนะคะ แล้วก็อย่าปิดมือถือด้วย”
“เร็วๆ ให้ไว!”
ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะพูดอะไรต่อ ปลายสายก็กดตัดสายทิ้งทันที หญิงสาวลุกขึ้นจากที่นอนแสนอุ่นสบายแล้วเปิดไฟห้องนอนของตน เสยผมยาวสลวยลวกๆ แล้วใช้ยางรัดผมรัดไว้อย่างรีบเร่ง เดินเข้าไปล้างหน้าพอให้ตาสว่างแล้วรีบเปลี่ยนชุดนอนเป็นเสื้อยืดกับกางเกงยีนคว้ากุญแจรถเก๋งคันเล็กออกจากบ้านหลังงามอย่างรวดเร็ว
รินรดา เพชรประกาย หญิงสาววัยยี่สิบสี่รีบขับรถเก๋งญี่ปุ่นไปจุดหมายอย่างรวดเร็ว ถนนที่ค่อนข้างโล่งผิดกับตอนกลางวันทำให้เธอใช้เวลาขับรถจากบ้านในหมู่บ้านหรูกลางกรุงมาถึงผับชื่อดั่งย่านสุขุมวิทในเวลาที่แจ้งพี่สาวไว้ เมื่อมาถึงเธอกวาดสายตามองที่ประตูด้านหน้าผับ นักท่องราตรีทยอยออกจากผับมายืนอยู่ด้านนอก รินรดาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรหาพี่สาวแต่ยังไม่ทันทีอีกฝ่ายจะรับสาย เธอก็สังเกตเห็นหญิงสาวในชุดเดรสรัดรูปสีดำหัวเราะคิกคักอยู่ใกล้รถสปอร์ตสีแดง รินรดารีบก้าวลงจากรถแล้วเข้าไปประคองพี่สาวที่อยู่ท่ามกลางหนุ่มๆ
“อ้าว! มาเสียทีนะยะ”
“พี่มาร์กี้เรากลับบ้านกันเถอะค่ะ”
“ผมขับรถไปส่งให้ก็ได้นะครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งเอ่ยขึ้นท่าทางเมาไม่น้อย
รินรดาฉีกยิ้มที่มุมปากแล้วส่ายหน้าเร็วๆ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันจะพาพี่สาวกลับบ้านเอง”
“น่า...ให้พวกเราไปส่งเถอะ”
“ไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ”
รินรดาดึงกุญแจรถจากมือพี่สาวแล้วประคองเธอไว้แต่ผู้ชายตัวโตหลายคนเดินล้อมไม่ให้เธอกับพี่สาวได้ก้าวออกไป
“มาน่า...ไปสนุกกันต่อดีกว่านะ”
“ไม่ค่ะ ช่วยหลบด้วย” รินรดาปฏิเสธเสียงแข็งพยายามจะหาทางแทรกตัวออกมา แต่ผู้ชายเหล่านี้ก็ไม่มีท่าทีจะหลบทางให้
“ถ้าพวกคุณไม่หลบฉันจะร้องให้คนช่วยนะ!”
“โธ่! จะร้องแบบไหนหรือจ๊ะคนสวย” อีกฝ่ายทำท่าจะลวนลามหญิงสาว
รินรดาทำหน้ารังเกียจ แต่เธอประคองพี่สาวที่เกือบจะหมดสติทำให้เธอขยับเคลื่อนไหวตัวไม่ถนัด สายตามองหาใครสักคนที่จะมาช่วย สายตาของเธอก็มองเห็นชายหนุ่มร่างใหญ่ที่กำลังเดินเข้ามา
“เฮ้ๆ ผู้หญิงเขาไม่ยอมก็อย่าไปฝืนใจดีกว่านะ”
ชายหนุ่มแปลกหน้าเอ่ยขึ้น แสงสลัวที่บริเวณลานจอดรถทำให้เห็นหน้าไม่ชัดแต่เขาดูกำยำและใบหน้ามีเคราขึ้นหนา เขาเดินมาใกล้ทำให้เธอรู้ว่าเขาตัวสูงใหญ่ผิดกับหนุ่มนักเที่ยวคนอื่น
“เออ! แล้วมึงมายุ่งอะไรด้วยวะ!”
“ก็ไม่มีอะไรแค่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน”
อีกฝ่ายตอบด้วยการเหวี่ยงหมัดใส่แต่ชายหนุ่มกำยำหลบได้อย่างว่องไว ทำให้อีกฝ่ายเสียหลังล้มคะมำอย่างน่าอายเรียกเสียงหัวเราะให้คนที่มองอยู่ รินรดาเกือบจะหวีดร้องออกมาเมื่อเห็นอีกคงพุ่งเข้าใส่แต่เขาก็หลบได้รวดเร็วราวกับมีตาหลัง ชายหนุ่มไม่ได้โต้ตอบอะไรเลยสักนิดแต่ก็ทำให้อีกฝ่ายยอมถอยไปง่ายดาย
“ให้ไปส่งที่รถไหม?”
“ไม่เป็นไรค่ะ” รินรดาส่ายหน้าไปมา “ขอบคุณที่ช่วยเหลือค่ะ ขอตัวนะคะ” หญิงสาวก้มศีรษะลงเล็กน้อยอยากจะยกมือไหว้ขอบคุณแต่ไม่ถนัดเพราะประคองร่างพี่สาวอยู่ มาติกาเงยหน้าขึ้นแล้วส่งจูบให้ชายหนุ่มแต่รินรดารีบพามานั่งที่รถของตน
“พี่มาร์กี้รอรินเดี๋ยวนะคะ”
รินรดาคาดเข็มขัดนิรภัยให้มาติกาแล้วรีบไปเช็ครถของพี่สาวที่ล็อกเรียบร้อยดี เธอหันไปคุยกับรปภ. ที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่แล้วยื่นธนบัตรสีม่วงส่งให้
“รบกวนหน่อยนะคะ ตอนเช้าจะให้คนมารับรถค่ะ”
“ได้ครับคุณหนู ลูกค้าประจำเจ้านายบอกให้ผมดูแลให้อย่างดีอยู่แล้วครับ”
รินรดายกมือไหว้ขอบคุณแล้วรีบกลับมาที่รถเพื่อพาพี่สาวกลับบ้าน เธอเหลียวมองหาคนที่เข้ามาช่วยแต่ก็ไม่เห็นร่างสูงใหญ่ เธอกลัวคนกลุ่มเดิมจะกลับมาหาเรื่องจึงรีบเดินกลับมาที่รถและสตาร์ทรถออกไป กลิ่นเหล้าจากพี่สาวทำให้รินรดาต้องเปิดกระจกรถลงครึ่งหนึ่ง มาร์กี้เมามากแต่ยังร้องเพลงฮึมฮัมในลำคอและหลับไปในไม่กี่นาที รินรดาได้แต่เหลือบมองไม่อยากละสายตาจากถนนแม้ว่าจะโล่งแต่รถก็มักแล่นเร็วเสมอ ครึ่งชั่วโมงต่อมาเธอก็มาถึงบ้านหลังงามเธอต้องลงมาเปิดประตูรั้ว ขับรถเข้าบ้านแล้ววิ่งมาปิดประตูก่อนจะประคองมาติกาที่เมาจนแทบไม่ได้สติเข้าบ้าน
บ้านสวยกลางกรุงพื้นที่ ใช้สอย 288 ตร.ม. 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ห้องรับแขก ห้องพระ ห้องรับประทานอาหาร ครัวไทย ส่วนซักรีด ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ที่จอดรถในร่ม 2 คัน ส่วนรถเก่าๆ ของเธอจอดตากแดดตากฝนด้านนอกห้องพักผ่อนส่วนตัวพร้อมระเบียงกว้างชั้นบน มันแสนจะกวางขวางและลำบากในการทำความสะอาดบ้านทั้งหลังและคนในบ้านที่อยู่กับเพียงสี่คน หญิงสาวจัดแจงให้พี่สาวเธอนอนสบายบนที่นอนหนานุ่ม ห้องนอนของมาติกาต่างจากห้องนอนของเธอลิบลับนอกจากฟอร์นิเจอร์ที่มีครบครันทันสมัยแล้วยังมีขนาดใหญ่กว่าด้วย แต่รินรดาก็ไม่รู้สึกน้อยใจอะไรเธอพอใจกับห้องนอนขนาดเล็กของตัวเองมากกว่า หลายปีแล้วที่บ้านหลังนี้ไม่มีแม่บ้านอยู่ประจำด้วยฐานะการเงินที่เริ่มถดถอยค่าใช้จ่ายมากกว่ารายรับจึงเป็นการจ้างรายวัน สามหรือสี่วันจะมีแม่บ้านมาช่วยทำความสะอาด ส่วนสวนสวยนักเดือนละครั้ง ที่เหลือเธอต้องเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดตั้งแต่ทำอาหารเช้าไปถึงซักเสื้อผ้าและดูแลความเรียบร้อยของบ้าน
หลายครั้งที่เธอตั้งคำถาม นี่ใช่ชีวิตที่เธอต้องการจริงหรือ? เธอเคยได้เรียนพยาบาลอยู่ปีเดียวก็จำเป็นต้องลาออกมาเรียนด้านบัญชีเพื่อช่วยทำงานในบริษัทของพ่อ ส่วนมาติกาเป็นลูกรักของแม่ที่วันๆ เอาแต่เที่ยวเตร่โดยไม่ต้องรับผิดชอบอะไรแม้ว่าอายุจะยี่สิบห้าแล้วก็ตาม รินรดาตรวจดูความเรียบร้อยของบ้านอีกครั้ง นาฬิกาบอกเวลาเกือบตีสี่แล้ว เธอจะมีเวลานอนอีกแค่ไม่กี่ชั่วโมงก็จะต้องตื่นมาทำอาหารเช้า และเผื่อมื้อกลางวันให้คุณแม่และมาติกาด้วย เธอเดินกลับมาทิ้งตัวลงบนที่นอนแล้วปิดไฟที่หัวเตียง น้ำตารื้นขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ทำไมเธอต้องทนอยู่ในสภาพนี้นะ หรือเพราะเธอเป็นแค่ลูกบุญธรรมของตระกูลเพชรประกาย!.