เล่น.ล้ำ.เกียร์
[Cross The Gear]
EPISODE3 แลกเบอร์กันไหม
ณ ร้านสะดวกซื้อ เวลา 21.55 น.
ฉันมองดูเวลาบนหน้าจอโทรศัพท์สลับกับบรรยากาศด้านนอกของร้านที่ดูเหมือนว่าวันนี้จะมีฝนตกลงมาเลยแฮะ และยิ่งอุณหภูมิภายนอกสูงขึ้น เครื่องปรับอากาศภายในร้านก็ยิ่งเย็นฉ่ำทีเดียว
“พี่นาบีจะเลิกงานแล้วค่ะ ห้านาทีเอง เราควรเตรียมตัวกลับกันได้แล้ว เพราะพี่แววกับพี่อ้วนมากันแล้วค่ะ” ส้มโอเดินมากระซิบบอกฉัน ทำให้ฉันขยับยิ้ม แล้วถอดผ้ากันเปื้อนออก เพื่อเตรียมตัวกลับบ้าน
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะส้ม” ฉันบอกลาส้มโอที่กำลังจะเดินออกไป เพราะแฟนหนุ่มของเธอมารอรับที่หน้าร้านแล้ว คงเพราะฝนจะตกสินะวันนี้แฟนของส้มโอเลยเอารถยนต์มารับ
“เจอกันค่ะพี่ รีบกลับนะเหมือนฝนจะตกเลย” ส้มโอส่งเสียงมา ทำให้ฉันพยักหน้าให้ ก่อนจะเดินไปยังห้องของพนักงานเพื่อเอากระเป๋า
ทว่าพอออกมาอีกทีคำเตือนของส้มโอมันก็เป็นจริงเสียอย่างนั้น สายฝนโปรยปรายลงมาแล้วล่ะ และที่สำคัญคือฉันไม่ได้เอาร่มมาด้วย เฮ้อ! เจอฝนตกตอนสี่ทุ่มเนี่ยนะ ซวยสุด ๆ เลยฉัน
“เอาไงดี เดินฝ่าไปเลยดีไหมนะ” ฉันพึมพำกับตัวเอง ร้านสะดวกซื้ออยู่ห่างจากที่พักของฉันไม่ไกลมากนัก จากความแรงของสายฝนต่อให้วิ่งไปก็คงเปียกซกแน่นอน หรือฉันควรจะรอให้ฝนซาลงก่อนแล้วค่อยเรียกวินมอเตอร์ไซค์ดีล่ะ ไม่รู้ว่าป่านนี้พวกลุงแดงยังอยู่ที่วินไหม
“ไปไหมครับ” ทว่าขณะที่ฉันกำลังชั่งใจอยู่นั้น ร่มคันใหญ่ก็ถูกกางขึ้น พร้อมกับน้ำเสียงลุ่มลึกคุ้นหู
“คุณลูกค้า? ยังไม่กลับเหรอคะ” ฉันได้แต่หันมาถามเขาอย่างแปลกใจ ทำไมเขาถึงยังอยู่อีกล่ะ นี่มันสี่ทุ่มแล้วนะ
“ผมเพิ่งอ่านหนังสือจบ ฝนก็ดันตกพอดี” เขาบอกมา ทำให้ฉันมองดูหนังสือที่เขาถือ และเพิ่งได้รู้ว่ามันเป็นหนังสือนิยายแนวแฟนตาซีเรื่องหนึ่งที่ฉันเคยอ่านเมื่อตอนเด็ก ๆ ‘พรของดาน่า’
“คงอ่านเพลินเลยสินะคะ แต่ฉันคงไม่กล้ารบกวนหรอกค่ะ เชิญคุณลูกค้าตามสบาย” ฉันปฏิเสธ เพราะไม่รู้ว่าเขาจะไปทางไหน
“ผมจะไปทางนั้นครับ” เขาบอกแล้วชี้นิ้วไปทางเดียวกับฉัน นี่เขาพักอยู่แถว ๆ นี้หรอกเหรอ
“เอ๊ะ...ฉันก็ไปทางนั้นเหมือนกันค่ะ”
“งั้นไปไหมครับ ถ้ารออยู่ตรงนี้ คงต้องรอถึงเช้า” เขาถามมา ทำให้ฉันได้แต่มองสบตาคนพูด เขารู้ได้ยังไงน่ะ
“คุณ...รู้ได้ยังไงคะ ถึงเช้าเลยเหรอคะ”
“พยากรณ์อากาศมันบอกแบบนั้นครับ” เขาว่ามา
“อ้อ! อย่างนี้นี่เอง ฉันไม่รู้เลยค่ะ งั้น...ถ้าถึงบ้านคุณ คุณแวะก่อนเลยนะคะ ส่วนฉันจะเดินไปเอง บ้านฉันไม่ไกลจากร้านเท่าไหร่”
“ได้ครับ” เขารับคำ ก่อนที่เราสองคนจะออกเดินไปบนทางเท้า สายฝนที่โปรยปรายลงมาและมีสายลมเย็นพัดลู่เป็นระยะทำให้ฉันได้แต่เดินกอดอก เพราะรู้สึกหนาว ๆ ขึ้นมา
“ฝนมาตกเอาตอนดึก แย่จังนะคะ” ฉันเอ่ยทำลายบรรยากาศ
“ครับ พรุ่งนี้ก็อย่าลืมเอาเสื้อแขนยาวมานะครับ ฝนน่าจะตกเวลานี้อีก” เขาว่า ทำให้ฉันชะงักฝีเท้า แล้วเงยหน้าขึ้นมองคนพูด
“คุณ...”
“เสื้อคุณมันกันหนาวไม่ได้” เจ้าของร่างสูงใหญ่ที่กางร่มให้ โดยเดินอยู่ข้างหลังของฉัน มือของเขาที่ยื่นร่มมาข้างตัวไม่ต่างกับเขากำลังโอบกอดฉันอยู่กลาย ๆ เลย แม้ไม่ได้สัมผัสตัว แต่ท่ามันใช่เลยล่ะ
“เอ่อ...โอ๊ะ! จะถึงทางเข้าที่พักฉันแล้วค่ะ คุณส่งฉันตรงนี้ก็พอ” ฉันบอกเขา เมื่อมองเห็นวินของลุงแดงอยู่ไม่ไกลแล้ว
“เอาไปสิครับ ผมไม่ต้องใช้แล้ว เดี๋ยวเพื่อนผมมารับครับ”
“แต่ว่า...”
“เดี๋ยวผมวิ่งไปรอเพื่อนตรงเพิงวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ครับ” เขาบอกย้ำ แต่ฉันเกรงใจเขาจังแฮะ
“เอ่อ...”
“อยากคืนร่มเหรอครับ” ยังไม่ทันได้พูดเขาก็ถามมาเสียก่อน
“อ่า...ก็ประมาณนั้นค่ะ” เพราะไม่รู้ว่าตัวเองคิดจะพูดอะไร ฉันเลยต้องเออออตามเขาไปเสียอย่างนั้น
“งั้นแลกเบอร์กันไหมครับ” เขาถามมา ทำให้ฉันได้แต่ลังเล
“แต่เดี๋ยวคุณก็มาที่ร้านหรือเปล่าคะ คุณมาทุกวันนี่นา”
“แต่นมไม่มีนี่ครับ ผมอาจจะไม่ได้มา เอาแบบนี้ไหมครับ แลกเบอร์กันไว้ ถ้านมมาส่งวันไหน คุณก็ส่งข้อความบอกผม แล้วผมจะมาเอาร่มครับ” เขาว่า ทำให้ฉันชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง แลกเบอร์กับลูกค้าเนี่ยนะ
“ก็...แบบนั้นก็ได้มั้งคะ” สุดท้ายฉันก็รับปากแลกเบอร์โทรกับเขาจนได้ มันคงไม่แปลกใช่ไหมนะ ถึงจะไม่รู้จักแต่เขาก็มาที่ร้านทุกวันนี่นา
อ๊าก! ยุนนาบีเธอคิดดีแล้วรึยังเนี่ย แลกเบอร์โทรเนี่ยนะ
“คุณชื่ออะไรครับ” คนที่เมมเบอร์ฉันไว้เอ่ยถามมา
“ฉันยุน...เอ่อ...นาบีค่ะ” ฉันตอบเขา แล้วมองดูตัวเลขสิบหลักบนหน้าจอโทรศัพท์ เมื่อเขากดโทรเข้ามา
“นั่นเบอร์ผมครับ ผมชื่อพันวา”
“โห...ชื่อเพราะจังค่ะ โอ๊ะ! เสียงดังไปหน่อย ขอโทษค่ะ แต่ฉันพูดจริง ๆ นะคะ”
“ผม...เมมชื่อคุณว่า ‘พี่นาบี’ ได้ไหมครับ” เขาย้อนถามมา ทำให้ฉันได้แต่ยิ้มแห้ง นั่นไงล่ะ! ฉันคงแก่กว่าเขาจริง ๆ สินะ
“แล้วแต่เลยค่ะ เหอ ๆ พี่ได้เลย” ฉันได้แต่หัวเราะแห้งแก้เก้อ
“งั้นผมไปนะครับพี่นาบี” เขาบอก แล้วยื่นร่มใส่มือฉัน ก่อนจะวิ่งตรงไปยังเพิงวินมอเตอร์ไซค์ทันที ซึ่งฉันยังไม่ทันได้ก้าวเดินต่อ รถยนต์สีดำคันหนึ่งก็ตีไฟเลี้ยวจอดเทียบข้างทางเพื่อแวะรับเขาไป รถคันหรูนั่นคงเป็นรถเพื่อนของเขาสินะ จริง ๆ ท่าทางของเขามันก็เหมือนพวกลูกคนรวยอยู่แล้วนี่นา ไม่เข้าใจเลยว่าเขามานั่งอ่านหนังสือที่หน้าร้านทำไมทุกวี่ทุกวัน อารมณ์ไม่มีอะไรทำ เลยมานั่งเล่นเรื่อยเปื่อยสินะ
[คุณมี 1 ข้อความใหม่]
[พันวา: ผมเองนะครับพี่นาบี] ข้อความและสติกเกอร์รูปน้องหมาสีขาวมีอักษร ‘Hi!’ กำกับ ถูกเขาส่งเข้ามาหลังจากนั้น
[จบบันทึกพิเศษ: ยุนนาบี]