“นายเป็นอะไรเลอัน ไหนบอกฉันสามคนมาสิว่า นายมีเหตุลอะไรที่ไม่ให้ไอรีณเข้าไปในงาน” โอมานผสมโรงถาม
“ไม่มีเหตุผล แค่ไม่อยากให้เข้าไปก็แค่นั้น” กระแสเสียงเลอันโดรฟังแล้วยังเย็นชาเช่นเดิม
“ไสหัวเธอกลับไปห้องได้แล้ว ฉันไม่อยากให้งานนี้หมดสนุกเพราะเธอ” ไอรีณน้ำตาแทบร่วง ปิดความเสียใจในแววตาตนเองไม่มิด เอ็นริโก นฤเบศร์และโอมานเห็นสีหน้าของไอรีณแล้วสงสารจับใจ มีความคิดตรงกันว่า อยากจะตะปันหน้าเลอันโดรสักหมัดสองหมัดหรือไม่ก็เลาะฟันออกจากปาก จะได้หายปากไม่ดี
“ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ไอรีณยอมรับสภาพตัวเอง เธอเอ่ยเสียงสั่น ทำตามคำสั่งอันทรงพลังแต่โดยดี โดยมีสายตาของสามหนุ่มมองตามไปด้วยความรู้สึกเดิมคือ สงสาร แต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้
“นายสามคนอยากเดินตามไอรีณไป หรือจะไปเลือกไวน์กับฉัน” เลอันโดรเสียงแข็งใส่เพื่อน นัยน์ตาขุ่น ก้าวเดินไปยังห้องเก็บไวน์อย่างคนอารมณ์เสีย เขายอมรับว่าตนเองรู้สึกหงุดหงิดที่เห็นโอมานเดินมากับไอรีณ ยิ่งเห็นรอยยิ้มของเธอที่ส่งให้โอมานด้วยแล้วก็ยิ่งหงุดหงิด จึงเอ่ยปากขับไล่ไอรีณอย่างไม่ใยดี และไม่สนใจความรู้สึกของเธอ
ไอรีณเดินกลับไปห้องพักของตนทั้งน้ำตา ก้าวแต่ละก้าวที่เดินเต็มไปด้วยความเจ็บปวดทางจิตใจ คนเป็นลูกทําร้ายจิตใจเธอไม่พอ คนเป็นพ่อยังตอกย้ำความรู้สึกซ้ำไปอีก เธอไม่รู้ว่าจะหนีเส้นทางร้าวรานนี้ได้อย่างไรและเมื่อไหร่ หรืออาจจะไม่มีวันนั้น เป็นเพราะเธอไม่เลือกที่จะเดินออกจากเส้นทางนี้ ยอมทนเจ็บปวด ทุกข์ทรมานใจอย่างที่หาวันสิ้นสุดไม่ได้
หลังจากงานปาร์ตี้วันเกิดสิ้นสุดลงเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน เจ้าของวันเกิดเดินฮัมเพลงโปรดออกจากห้องนอนของตัวเอง เดินไปยังอีกห้องหนึ่งที่อยู่ทางปีกซ้ายของคฤหาสน์ ห้องที่ว่านี้คือห้องของบิดา พอมาถึงจุดหมาย แองเจลิน่าไม่รีรอ ยกมือเคาะประตูห้องนั้นทันที
“คุณพ่อคะ ลิน่ามีเรื่องอยากจะคุยกับคุณพ่อค่ะ” แองเจลิน่าบอกจุดประสงค์ของตน
“ได้สิลูก เข้ามาสิ” เลอันโดรเปิดประตูต้อนรับสตรีที่รักหมดใจ “มีเรื่องอะไรจะพูดกับพ่อ”
“คุณพ่อขา ลิน่าอยากได้ของขวัญจากคุณพ่อค่ะ” เธอกอดบิดา อ้อนเป็นเด็กๆ
“ลิน่าอยากได้อะไรลูก”
“ลิน่าอยากให้คุณแม่กลับมาอยู่ที่บ้านกับเราค่ะ” เลอันโดรดูจะไม่ตกใจกับคำขอของบุตรสาว เขากลับยิ้มให้อีกฝ่ายด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “ลิน่าอยากรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ลิน่าหมายถึงอยู่ร่วมบ้านเดียวกันน่ะคะ อยากรู้ว่ามันจะมีความสุขมากแค่ไหน คุณพ่อให้ลิน่าเป็นของขวัญวันเกิดได้ไหมคะ”
ถึงแม้ว่าแองเจลิน่าจะมั่นใจว่า เลอันโดรไม่มีวันปฏิเสธคำขอของเธอ ทว่าเธอก็อดที่จะลุ้นไปกับคำตอบของบิดาไม่ได้ คนเป็นพ่อยกมือลูบศีรษะบุตรสาว หอมขมับอีกฝ่ายด้วยความรัก
“ได้สิลูก ถ้าเรื่องนั้นเป็นเรื่องที่ลิน่าต้องการ” เลอันโดรตอบตกลงโดยไม่คิดถึงความผิดในอดีตของณิชาภา เขาไม่ได้นึกถึงมันด้วยซ้ำไป ประหนึ่งมันไม่เคยเกิดขึ้น หรืออยู่ในสมองของเขา ชายหนุ่มรู้เพียงว่า อะไรที่เป็นความสุขของลูก ตนพร้อมที่จะให้
“เย้ๆ ลิน่ารักคุณพ่อที่สุดเลยค่ะ” แองเจลิน่ากระโดดตัวดีใจ กอดบิดาและหอมแก้ม “ลิน่าไปบอกคุณแม่ก่อนนะคะว่า คุณพ่ออนุญาตแล้ว” แองเจลิน่ารีบเดินแกมวิ่งออกจากห้องบิดาทันทีที่พูดจบ ราวกับว่ากลัวเลอันโดรจะเปลี่ยนใจ ซึ่งเธอรู้เต็มอกว่า เรื่องเปลี่ยนใจไม่มีวันเกิดขึ้นแน่นอน
หลังจากใช้ลูกกุญแจคลายล็อคประตูห้องเสร็จ เจ้าของมือใหญ่เปิดประตูบานนั้น แล้วก้าวเข้าไปภายในห้องอย่างคุ้นเคย เขามองสตรีที่กำลังนอนตะแคงบนเตียงชั่วครู่ ก่อนจะถอดชุดนอนของตนออกจากกาย ก้าวเดินล่อนจ้อนไปล้มตัวลงนอนข้างหญิงสาวเจ้าของห้อง ฝ่ามือใหญ่ลูบท่อนแขนเธอเบาๆ ริมฝีปากประทับลงบนต้นคอระหง จูบคลอเคลียก่อนจะไต่ปากขึ้นไปถึงใบหู เขาขบเม้มติ่งหูคล้ายจะปลุกเธอให้ตื่นจากการหลับใหล แล้วมันก็ได้ผล
ไอรีณสะดุ้งแต่ก็ไม่ได้ตกใจที่ตนถูกรบกวน เธอกลับหันหน้ามาหาเขา มองชายที่ตนรักผ่านความมืดสลัวภายในห้อง ไม่มีคำพูดใดลอดผ่านกลีบปากนุ่ม มีแต่ความเจ็บช้ำที่ไหววนเวียนในจิตใจ เขาคงไม่รู้หรืออาจรู้แต่ไม่สนใจ สิ่งที่เขาสนใจคือ ร่างกายของเธอเท่านั้น
ไฟเสน่หาในกายสาวเริ่มคุกรุ่น เมื่อมือแข็งแรงทว่าอ่อนนุ่มของฝ่ายชาย ขยับมากอบกุมทรวงอกนุ่มหยุ่นที่หลบซ่อนตัวภายใต้ชุดนอนสีหวาน ที่อึดใจต่อมามันก็ถูกถอดออกร่างกายไอรีณด้วยน้ำมือของเขา
ดอกบัวดอกสวยตกอยู่ในมือแกร่งอีกครั้ง เขานวดเฟ้นแผ่วเบาก่อนจะลงน้ำหนักมากขึ้น นิ้วมือถูไถยอดถันสีชมพูระเรื่อ สาวเจ้าถึงกับตัวสั่น ขนลุกชัน ซาบซ่านไปทุกอณูเนื้อ ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็แนบปากทับเรียวปากนุ่มที่แย้มเปิดรอรับลิ้นสากระคายอันแสนนุ่มที่กำลังสอดเข้าในโพรงปากของตน ลิ้นร้อนชื้นกระหวัดเกี่ยวลิ้นบาง ซอกซอนหาความหวานละมุนที่เขารู้ดีว่า มีอยู่อย่างมากมายไปทั่วช่องปากสาว กระดกปลายลิ้นสะบัดแผ่วเบาตรงเพดานปากเธอ สร้างความกระสันซ่านให้เธอได้ดีทีเดียว