“เอายังงั้นเลยหรือพ่ะย่ะค่ะ”
องครักษ์ คาฟาลถามยิ้มๆ พอท่านชีคฮาริคพยักหน้ารับ ก็รีบเดินไปบอกให้วงออเคสตร้าหยุดบรรเลงเพลงครู่หนึ่ง ซึ่งทันทีที่เสียงเพลงอันไพเราะเพราะพริ้งได้หยุดลง บรรดาสาวๆ และแขกเหรื่อทุกคนต่างก็หันไปมองที่ท่านชีคฮาริคเป็นจุดเดียวกัน ต่างก็รอคอยว่าพระองค์จะประกาศเรื่องใดออกมา และเมื่อได้ยินคำประกาศของราชนิกุลหนุ่มผู้หล่อเหลา บรรดาสาวๆ ต่างก็พากันร้องกรี๊ดด้วยความตื่นเต้นดีใจ ด้วยหวังว่าตนเองจะเป็นหญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น
ชีคฮาริคผุดลุกขึ้นยืนเผยให้เห็นเรือนกายที่ล่ำสันบึกบึน เป็นที่ต้องตาของสาวๆ ทั้งหลาย ทรงกวาดสายตามองทั่วห้องจัดงานเลี้ยง ก่อนจะตรัสสั่งเสียงเข้ม
“ทุกคนเงียบๆ เสียงกันหน่อย”
ทรงยกมือห้ามทัพให้บรรดาสาวๆ ได้หยุดวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นานา พอภายในห้องจัดงานเลี้ยงตกอยู่ในความเงียบสงบอีกครั้ง ก็ได้ตรัสบอกถึงความต้องการของพระองค์ ที่เรียกเสียงฮือฮาได้จากทุกคน ณ ที่แห่งนี้ทันที
“วันนี้เราจะเล่นเกมเสี่ยงดวงกันสักหน่อย สาวๆ คนไหนที่ได้เต้นรำกับเราในเวลาเที่ยงคืนพอดี เราจะมอบจุมพิตหวานๆ ให้กับสาวผู้โชคดีผู้นั้น และที่สำคัญเธอผู้นั้นจะได้อยู่กับเราตลอดค่ำคืนนี้ พร้อมกับรางวัลตอบแทนเป็นเงินสดจำนวนห้าล้าน”
ในขณะที่บรรดาสาวๆ และแขกผู้มีเกียรติทุกคน กำลังสนุกสนานกันอย่างสุดเหวี่ยง เต้นรำอยู่เต็มฟลอร์กลางห้องจัดงานเลี้ยง และต่างก็ลุ้นระทึกว่าท่านชีคฮาริค จะเลือกหญิงสาวคนไหนให้ไปเต้นรำกับพระองค์ในยามเที่ยงคืน และต่างก็ลุ้นว่าตนเองนั้นจะเป็นซินเดอเรลล่าผู้โชคดีที่สุดในรอบปีหรือเปล่า ในอีกมุมหนึ่งของตำหนักหรูของท่านชีคฮาริค ก็ยังมีกลุ่มคนอีกหลายๆ กลุ่ม ที่วุ่นวายกับการคอยเตรียมอาหาร เตรียมเครื่องดื่มออกไปเสิร์ฟให้กับบรรดาแขกผู้มีเกียรติ ที่มาร่วมงาน ซึ่งนั่นก็รวมถึงทีมจัดทำอาหารไทย สำหรับต้อนรับแขกในค่ำคืนนี้ ที่ต่างก็พากันทำงานมือเป็นระวิงแทบไม่ได้หยุดพัก
โดยเฉพาะสาวไทยที่ได้รับจ๊อบมาทำงานนี้ เพื่อหาเงินซื้อตั๋วเครื่องบินกลับประเทศไทยถิ่นพำนักบ้านเกิดเมืองนอนที่ได้จากมาเสียนาน เพื่อมาร่ำเรียนที่ประเทศฮาริยาคว้าใบปริญญาเป็นของขวัญให้กับตนเอง
“ไข่หวาน จัดออร์เดิร์ฟเร็วๆ หน่อยสิ แขกกำลังรอกินอยู่นะ”
หญิงสาวเจ้าของชื่อเล่นสุดน่ารัก ซึ่งกำลังก้มหน้าก้มตาจัดออเดิร์ฟ ให้บรรดาดารา นางแบบ ลูกท่านหลานเธอได้รับประทานจนมือเป็นระวิง ได้เงยหน้าขึ้นจากงานที่ทำอยู่ ก่อนจะบ่นโอดครวญให้กับเพื่อนร่วมงานที่กำลังเร่งเธอไม่ได้หยุดปาก
“นี่ดารีน...ไข่หวานก็ทำจนไม่ได้พักเหนื่อยพักหายใจเลยนะ ไม่รู้คนพวกนี้พกกระเพาะช้างมาด้วยหรือยังไงกัน ถึงได้กิน ได้ดื่มไม่ได้หยุด”
ไข่หวาน หรือบัณฑิตา ทิพปภา สาวสวยนัยน์ตาดำขลับดุจสีนิล ผมยาวนุ่มเนียนสลวยถึงกลางบ่า ได้เงยใบหน้ารูปไข่งามลออขึ้นมามองเพื่อนร่วมงาน พร้อมกับบ่นอุบ ทั้งเหนื่อย ทั้งล้าจากการก้มๆ เงยๆ ทำอาหารเลี้ยงคนทั้งกองทัพมาร่วมหลายชั่วโมงแล้ว
“อย่าบ่นเลยน่าไข่หวาน ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเธอนั่นแหละ ที่ดันมีฝีมือการทำอาหารไทยรสเลิศ ทำให้แขกที่มางานเลี้ยงติดใจฝีมือเธอเป็นแถว”
หญิงสาวที่ชื่อดารีน ซึ่งยึดตำแหน่งเด็กเสิร์ฟตลอดงานนี้ ได้ทรุดกายลงนั่งใกล้ๆ กับร่างบางระหงของเพื่อนสาว พลางหันซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าปลอดผู้คนแล้ว ก็รีบหยิบออเดิร์ฟที่บัณฑิตาจัดเป็นพอดีคำน่ารับประทานส่งเข้าปากตัวเอง แล้วรีบเคี้ยวตุ้ย กลืนเข้าปากอย่างรวดเร็ว ด้วยเกรงว่าหัวหน้างานหรือคนอื่นจะมาเห็นเข้า
และพอออเดิร์ฟรสเลิศอร่อยลิ้น ได้ถูกทำลายหลักฐานไปหนึ่งชิ้นแล้ว ดารีนก็รีบยกนิ้วโป้งให้กับเพื่อนสาว ยอม
รับว่าบัณฑิตาทำอาหารได้อร่อยจริงๆ
“ไข่หวาน เราการันตีเลยว่าเธอทำอาหารได้อร่อยจริงๆ ขนาดเรายังติดใจฝีมือของไข่หวานเลยนะ”
บัณฑิตามองค้อนเพื่อนสาวที่นั่งแหมะยกยอปอปั้นเธอ หลังจากได้แอบหยิบออเดิร์ฟไปกินอีกหนึ่งชิ้น แล้วรีบทำลายหลักฐานเหมือนตอนที่หยิบชิ้นแรกส่งเข้าปาก
“ไม่ต้องมายอเราหรอกดารีน เราเหนื่อยจะแย่อยู่แล้ว คนพวกนี้ก็เหลือเกิน กินได้กินดี ไม่รู้จักหยุดปาก นี่ถ้า
หากว่างานนี้ไม่ได้เงินดี เงินหนา เราคงได้โบกมือบ๊ายบายไปนานแล้ว”
ปากก็บ่นกระปอดกระแปด ส่วนมือเล็กก็หยิบจับอาหารจัดเป็นคำๆ น่ารับประทาน ให้เพื่อนร่วมงานได้เอาไปเสิร์ฟแขกไฮโซที่อยู่ด้านนอก
ดารีนหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำบ่นของเพื่อนสาวแสนสวย พร้อมกันนั้นก็ได้ตบเบาๆ ไปบนบ่าเล็กของบัณฑิตา ก่อนจะเอ่ยปลอบให้กำลังใจซึ่งกันและกัน
“สู้ๆ นะไข่หวาน ทนอีกนิด อีกไม่กี่ชั่วโมงงานเลี้ยงก็จะเลิกราแล้ว”
“เฮ้อ...ไม่อยากทนก็ต้องทนนะดารีน เรามันพวกเงินน้อย พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวย ไม่ได้มีมรดกกองเท่าภูเขาเลากาเหมือนบรรดาพวกไฮโซที่ร่วมงานเลี้ยงของท่านชีค ไม่ว่าจะเหนื่อยแค่ไหน ก็ต้องทนเพื่อคำว่าเงิน”
บัณฑิตาปลอบใจตนเอง ตอนนี้ไม่มีอะไรดีไปกว่าการพูดให้กำลังให้ตัวเองนั้นมีแรงฮึดสู้ ทนทำงานเพื่อให้ได้ค่าแรงที่มาจากหยาดเหงื่อแรงกายของตนเอง ทันทีที่เธอและน้องสาวฝาแฝดอีกคนคือไข่ตุ๋นหรือบุญธิสาเก็บเงินได้มากเพียงพอสำหรับค่าตั๋วเครื่องบิน พวกเธอจะติดปีกโผบินกลับประเทศไทยทันที เสียแต่ว่าตอนนี้พวกเธอไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อตั๋วเครื่องบินนี่สิ ที่ทำให้ต้องพากันทำงานหนักทั้งพี่ทั้งน้อง
ดารีนรู้สึกผิดอยู่บ้างที่ได้ชวนเพื่อนสาวพูดในเรื่องที่ไม่น่าโสภา และพอเห็นบัณฑิตาตีหน้าเศร้าๆ ก็รีบชวนเพื่อนสาวคุยในเรื่องอื่นทันที
“นี่ไข่หวาน เธอไม่ออกไปดูบรรยากาศในห้องจัดเลี้ยงบ้างหรือ มีแต่หนุ่มหล่อๆ ทั้งนั้นเลยนะ”
“หล่อจริงหรือเปล่าดารีน”
บัณฑิตาเอ่ยถามยิ้มๆ ไม่นึกอยากทำตามคำเชิญชวนของเพื่อนสาวเลย เธอขออยู่เป็นนางซินหมกอยู่ในก้นครัว ดีกว่าออกไปพบเจอแต่สังคมจอมปลอม ที่ผู้คนต่างก็ปั้นหน้ากากเข้าหากัน