น้ำเสียงทอดอ่อนของเขาทำให้ปานฤทัยเงยหน้าขึ้นมองคนตัวโต เห็นรอยยิ้มกรุ้มกริ่มกับสายตาหยอกเย้าที่มองมา เธอจึงเผลอปล่อยสาบเสื้อในทันที “งั้นหรือเจ้าคะ แล้วก็ไม่บอกแต่แรก” สิงห์คำยิ้ม จับมือปานฤทัยไว้ทั้งสองข้าง “จักเป็นอันใดไปเล่า มิช้ามินาน เอ็งย่อมต้องออกเรือนกับข้ามิใช่หรือแม่ฤทัย” “คุณพระขอรับ! อยู่หน้าเฮือนคำแล้วนะขอรับ” เสียงก๋องดังมาจากหน้าประตูอีกครั้ง แต่คราวนี้มิเห็นหน้าเห็นตัว “ไอ้ก๋อง! มึงอยากตายใช่หรือไม่” สิงห์คำแทบคำรามใส่บ่าวคนสนิทที่มาขัดจังหวะอีกครั้ง “หามิได้ขอรับ แต่คุณพระเร่งแต่งตัวหน่อยเถิด บ่าววิ่งแจ้งข่าวจนขาขวิดแล้วนะขอรับ” ก๋องทำเสียงอ่อยน่าสงสาร ปานฤทัยจึงรีบจัดการติดกระดุมเสื้อให้เขาโดยไม่สนใจธรรมเนียมใด ๆ แล้ว “คุณพระรีบออกไปเถอะเจ้าค่ะ” “เอ็งไปกับข้าด้วย” สิงห์คำจูงมือปานฤทัยออกมาจากห้องแล้วพาลงไปยืนรอรับอยู่หน้าบันไดพร้อมกันกับบิดา ท่านพระยามองสบตากับบุ