09.30 น. รถอเนกประสงค์ซึ่งจอดฝากไว้แถวสนามบินสองวันสองคืนแล่นเข้ามาจอดในบ้าน ถอยเข้าช่องจอดเคียงข้างรถของฉลามคันเก่า รถของแอนนาไม่อยู่แล้ว ตอนนี้เจ้าตัวน่าจะวุ่นวายอยู่ที่ร้านกาแฟคอนช์เพิร์ลสาขาโรงแรม ในบ้านจึงเหลือแค่ปรางค์ทิพย์ ทูน่า และซาร์ดีน
หยกเดินเข้าไปในบ้าน เสียงเพลงจากวิทยุดังคลอเบาๆ แม่ของเขานอนอยู่บนโซฟา มือข้างหนึ่งจับเปลแกว่งเบาๆ ตาหลับปี๋ เสียงโคล้งเคล้งดังมาจากในครัว คาดว่าทูน่าคงกำลังหยิบจานชามเพื่อคดข้าวกินอยู่ในนั้น
หยกถือของฝากสุดโปรดของลูกเมียเดินเข้าไปในครัว วางถุงลงบนโต๊ะกินข้าว
“พ่อกินข้าวมายัง น่าคดข้าวให้นะ” ทูน่าลุกจากเก้าอี้เพื่อไปคดข้าวให้พ่อ
“เยอะๆ นะ หิวมาก แต่เดี๋ยวไปดูเจ้าไข่ครอบก่อน”
“เปลี่ยนชื่ออีกละ” ทูน่าวางจานข้าวลงบนโต๊ะฝั่งตรงข้ามให้พ่อ คว้าถุงของฝากมาดู “คราวก่อนก็เต่าญี่ปุ่น เจ้าวุ้นเส้นท่าเรือ เจ้าสากกะเบือยักษ์ เจ้าปลาส้ม”
“แสดงว่าแม่มันรักลูกไม่เท่าที่ตารัก ถึงไม่เข้าใจว่าทำไมปลากระป๋องถึงมีชื่อเยอะ” หยกสรุป “อะไรน่ารัก อะไรใกล้มือก็เอามาเรียกได้หมดแหละ”
ทูน่าหยิบไข่ครอบซึ่งกลายเป็นชื่อใหม่ของลูกชายออกมา ไข่สีแดงจัดเค็มๆ มันๆ ดูยั่วยวนดีจริงๆ
“ลุงทะเลไม่เห็นจะเรียกทีเร็กซ์ว่าลูกหอย ลูกครก ลูกมังกรทองอะไรเลย แล้วก็มีแต่พ่อนั่นแหละไปจัดการสอนให้หลานเรียกเฮีย เรียกหนู ทั้งที่ทีเร็กซ์ก็หน้าฝรั้งฝรั่ง” ทูน่าตอกกลับพ่อขณะกัดไข่ครอบ ทำหน้าเคลิบเคลิ้ม
“ลืมอะไรไปหรือเปล่า” หยกยิ้มอย่างได้เปรียบ
“ลืมอะไรเหรอ” ทูน่ายกสายตาจากไข่ครอบขึ้นมองหน้าหยก
“ลุงทะเลเรียกป้าเพชรว่าเป็ดน้อยไง อาการหนักยิ่งกว่าพ่ออีก” พูดจบก็เดินออกจากครัว ได้ยินเสียงลูกสาวเถียงแทนเอเดรียน
“แต่พ่อเรียกแม่ว่าปลาตะเพียนนะ”
เขาไม่สนใจจะต่อปากต่อคำ รีบสาวเท้าไปหาหลานชายสุดที่รักวัยสี่เดือนเศษ เจ้าหนูนอนเขย่าแขนเขย่าขาอยู่ในเปล โดยที่ปรางค์ทิพย์ใช้ความสามารถพิเศษ หลับตาอ้าปากหวอแต่มือไกวเปลไปด้วย
หยกตลบผ้าตาข่ายบางๆ ที่ใช้คลุมกันยุงออกจากเปล
“อ้อๆ แอ้ๆ” เด็กตัวอ้วนจ้ำม่ำมองเขาตาแป๋ว ส่งเสียงทักทายประสาทารก
“ใคร!!! ใครมันมือบอนแบบนี้” หยกช้อนตัวหลานตาขึ้นมาอุ้ม ปล่อยให้ปรางค์ทิพย์ไกวเปลต่อไป ส่วนตัวเขาก้าวดุ่มๆ ไปหาทูน่าในห้องครัว
“พ่อจะเอาลูกลิงเข้ามาทำไม ในนี้เหม็นพริกแกง เดี๋ยวแสบตา” ทูน่าไม่รู้ตัวว่าได้เชื้อพ่อไปเต็มๆ ที่เรียกลูกด้วยชื่ออื่น
“บอกแล้วไงว่าไม่ให้เรียกลูกลิง ไอ้หมอใช่ไหมที่อุตริเอาดอกอัญชันมาเขียนคิ้ว พ่อกำชับแล้วไงว่าห้ามทำๆ คิ้วต่อกันแค่นี้ก็แปลกพอแล้ว ดันมาฝนอัญชันอีก จะให้มันดกดำไปถึงไหน”
“น่ารักดีออก น่าชอบ”
หยกหันไปมองลูกสาวที่เข้าข้างผัว จากที่ลดหุ่นหลังคลอดจนเข้าที่ ตอนนี้เริ่มมีน้ำมีนวลขึ้นอีกแล้ว “กินให้มันน้อยๆ หน่อย อ้างว่าท้องไม่ได้แล้วนะ”
“อึ๋มๆ แบบนี้แหละผัวหลง คึกทั้งคืน” ทูน่าพูดหน้าตายเหมือนเป็นเรื่องปกติ ปากก็ยังกินไม่เลิก
หยกเลิกสนใจลูกจอมทะลึ่ง หันมองคิ้วของหลานที่เป็นปื้นเหมือนเด็กอนุบาลมาวาดรูปอีกาไว้บนหน้า ทำเสียงจึ๊ๆ ไม่หยุด เดินหงุดหงิดงุ่นง่าน จะหาอะไรมาเช็ดออก
“ทำไมคิดว่าลุงเป็นคนทำล่ะพ่อ”
“ไม่ใช่มันแล้วจะใคร มันขู่พ่ออยู่ทุกวันว่าเผลอเมื่อไรจะเอาอัญชันมาทา พ่อจะได้เห็นว่ามันตอนเด็กน่ารักขนาดไหน” หยกอุ้มหลานกลับไปที่เปลซึ่งปรางค์ทิพย์ยังไกวไม่หยุด หยิบสำลีในกล่องชุบน้ำอุ่น บรรจงเช็ดให้หลาน
“แอ้ แอะ แง” ความชุ่มชื้นจากสำลีทำให้ซาร์ดีนตกใจ เจ้าหนูเบะปากร้องไห้พลางส่ายหน้าหนี
“เดี๋ยวตาจัดการพ่อเราให้นะ ซาร์ดีนไม่อยากเป็นลิง เพราะซาร์ดีนเป็นปลากระป๋องเนอะลูกเนอะ” หยกเออออคนเดียว
“แง้ แง้ๆ” กำหมัดส่ายสะเปะสะปะ
“หลานมันไม่อยากให้เช็ดม้างงงงง” เสียงหญิงชรางัวเงียขึ้นมา “ดูซิ น่ารักจะตาย โตขึ้นก็จาง หรือไม่ก็ค่อยไปกำจัดออกแบบพ่อแบลซก็ได้”
“นี่ก็เห็นดีเห็นงามด้วยอีกคน เขียนแบบนี้คืออยากให้คิ้วดกดำนะแม่ ไม่ได้เผื่อจางเลย ไอ้หมอเบื๊อกนั่นผ่าตัดอยู่หรือเปล่าน่า” ท้ายประโยคตะโกนถามลูกสาวในครัว
“แง้” ซาร์ดีนร้องหนักขึ้นเพราะตกใจเสียงตะโกนของหยก
“มีตอนบ่ายโน่นนนนน” เสียงทูน่าไม่ค่อยชัด เพราะกำลังซัดไข่ครอบเต็มปาก
เช็ดเสร็จหยกก็ยกหลานพาดบ่า ควักโทรศัพท์ขึ้นมากด
แบลซซึ่งตั้งรับอยู่แล้วไม่คิดว่าหยกจะโทร.มาตอนประชุม เขาจำต้องกดตัดสายทิ้ง ยิ่งทำให้หยกเดือดดาลคิดว่าลูกเขยกวนประสาท พอมีโอกาสโทร.กลับไป...
“ไอ้หมอ” หยกตวาดกลับมาทันทีที่รับสายแบลซ
“คะ...ครับ” นี่สินะระเบิดลูกใหญ่ที่ฉลามทิ้งไว้
“เอาอัญชันมาเขียนคิ้วหลานกูเหรอ แค่นี้ก็ไม่รู้โตไปจะชั่วเหมือนพ่อมันหรือเปล่า จะส่งเสริมไปถึงไหน”
“ใจเย็นๆ ครับพ่อ”
“มึงสิเย็น นี่หลานกูนะ หลานกู๊ววว” หยกเสียงสูงจนแบลซต้องเอาโทรศัพท์ออกห่างหู ก่อนจะเอาแนบอีกครั้งเมื่อแกรี่ เพื่อนสนิทซึ่งเดินผ่านมากลั้นขำไม่อยู่
“หลานมึงก็ลูกกูปะ เอ๊ย หลานพ่อก็ลูกผมนั่นแหละครับ ผมรักไม่ต่างจากพ่อเลย แต่ผมไม่ได้ทำนะครับ สงสัยจะ...”
“จะอะไร จะโทษทวดเหรอ นรกจะกินกบาลนะไอ้หมอ” หยกพูดถึงผู้ต้องสงสัยรายต่อไป เพราะวิธีโบราณนี้ปรางค์ทิพย์ทำมาตั้งแต่รุ่นเขาและรุ่นหลาน
“อันนั้นพ่อคิดคนเดียวนะครับ ผมหมายถึงฉลาม”
“โยนให้ฉลามอีก คนไม่อยู่จะว่ายังไงก็ได้เหรอ กลับมาเจอดีแน่ไอ้หมอไม่มีหัวใจ มึงขิต!!!” หยกวางสายไปดื้อๆ
“เฮ้ย ไรวะ” แบลซมองโทรศัพท์ซึ่งขึ้นเป็นภาพลูกชายที่เขาตั้งเป็นภาพพักหน้าจอแบบงงๆ ก่อนจะต่อสายหาฉลาม
*********
“เท่าไรครับ”
“หนึ่งพันบาทค่ะ”
“ครับ จัดการให้เดี๋ยวนี้ครับ สวัสดีครับ”
ฉลามเข้าแอปธนาคารโอนเงินไปยังปลายทาง จากนั้นก็ทิ้งตัวลงนอนบนเตียง วันนี้เขามีเรียนตอนเช้าแค่วิชาเดียว วิชาต่อไปตอนบ่ายโมง ซึ่งอาจารย์ประกาศงด เขาจึงกลับมานอนเอ้เตที่หอพัก ฉลามทอดสายตาไปยังโมบายหอยตรงหน้าต่าง มันไม่ใช่หอยสวยๆ ที่คัดสรรมาอย่างดี แต่ในสายตาเขากลับสวยงามกว่าหอยชนิดอื่นๆ ตรงที่มีความพิเศษซ่อนอยู่ มันถูกคัดสรรมาด้วยใจ ได้ยินเสียงครั้งใดก็ทำให้ใบหน้าจิ้มลิ้มลอยขึ้นมาในมโนสำนึก
เสียงกรุ๋งกริ๋งกลายเป็นเสียงที่ทำให้เขาอยากกลับมาอยู่ที่หอพักมากขึ้น แต่ก็เพียงครู่เดียวที่เขาจะได้อยู่กับมันเมื่อเพื่อนๆ กลับมาถึงหอ เขาจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเพื่อหาที่อยู่อาศัยที่เป็นส่วนตัวกว่านี้ แต่ก็มีสายเข้ามาพอดี
“ฉลาม เอาอัญชันไปเขียนคิ้วซาร์ดีนใช่ไหม พ่อโทร.มาอาละวาดเหมือนพี่ไปเขียนคิ้วพ่อ”
“ฮาๆๆๆๆ เขียนคิ้วพ่อ พ่อคงไม่โกรธเท่านี้ รักนะพี่แบลซ” ฉลามชิงวางสาย จากนั้นก็หาสถานที่ปลีกวิเวกที่เป็นส่วนตัวต่อ