หนุ่มน้อยต้องพักดูอาการสองคืนคืนนี้เป็นคืนที่หนึ่งน้องภีมนอนหลับไปเพราะฤทธิ์ยา คนเป็นแม่เลยทำได้แค่นั่งจับมือคนเป็นลูกเอาไว้ไม่ห่าง แต่พอเช้ามาเจ้าตัวตืานจากฝันก็ยิ้มร่ากลับสดใสตามเดิม แม้หน้าตาจะไม่สดใสเหมือนอย่างใจก็เถอะ
"มะ แม่"
"โอ๋ๆ ว่าไงครับคนดีของแม่ แม่ไม่ไปไหนหรอกนะลูก เรานี่มันดื้อจริงๆเลย แม่อุตสาห์แอบไปแล้วก็ยังจะคว้าถ้วยถั่วกลับมากินได้ หมั่นเขี้ยวจริงๆเลยครับ"
"แอ๊ๆ" หนุ่มน้อยเริ่มรำคาญเมื่อคนเป็นแม่วุ่นวายกับตนเองมากเกินไป
"หลานปลอดภัยก็ดีแล้วครับน้องลิน พี่ละห่วงแทบแย่"
"ลินก็ใจแทบขาดค่ะ แกไม่เคยป่วยหนักขนาดนี้เลย"
"แต่ยังดีที่ฟื้นตัวได้เร็วนะ อาจจะเป็นเพราะกินเข้าไปนิดเดียวก็ได้"
"ลินต้องขอบคุณหนิงนะที่สังเกตได้ทันเวลา ลินนี่เป็นแม่ที่แย่จริงๆเลย"
"อย่าโทษตัวเองเลยนะลิน"
"ไม่จริงสิ คนที่แย่คือภัทรตั้งหาก มาชวนทะเลาะทำให้ลินขาดสติ"
"พอๆไปกันใหญ่เลย เรื่องมันแล้วไปแล้วอย่าไปนึกเลยดีกว่า"
"ก๊อกๆ"
"เดี๋ยวพี่ไปเปิดประตูให้"
"ขอบใจจ้ะ" หญิงสูงวัยรีบเดินเข้ามาภายในห้องทันที
"คุณแม่!"
"ยัยลิน ตาภีมถึงกับเข้าโรงพยาบาลแต่ไม่บอกแม่สักคำได้ยังไงกัน"
"ลินขอโทษค่ะ ลินไม่อยากให้แม่เป็นห่วง"
"แบบนี้สิแม่ยิ่งเป็นห่วง"
"ลินไม่ได้ตั้งใจค่ะลินขอโทษ"
"จำไว้นะลิน ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะร้ายหรือดีแม่ก็อยู่ข้างลูกเสมอ เรามีกันอยู่แค่นี้น้องรักต้องเชื่อใจและวางใจกันนะลูก"
"ลินทราบแล้วค่ะลินจะไม่ทันอย่างนี้อีก ลินรักแม่นะคะ"
"แม่ก็รักลินกับตาภีมมากนะลูก" แม่ลูกกอดกันกลมเรียกความเอ็นดูจากคนรอบข้างที่ได้เห็น
"เอ๊ะ ว่าแต่คุณแม่ทราบได้ยังไงคะ"
"ผมเองครับ" คนต้นเรื่องเดินลอยหน้าลอยตาเข้ามาภายในห้องพักของหนุ่มน้อย
"ภัทร! นายอีกแล้วนะ"
"คุณแม่ครับช่วยผมด้วย"
"อย่าดุตาภัทรเลยลูก แม่ต้องขอบใจตาภัทรเขามากกว่าที่บอกความจริงกับแม่ ว่าแต่หลานตื่นขึ้นมายิ้มได้แบบนี้คนแก่อย่างแม่ก็สบายใจ" เมื่อแม่ของตนกับเข้าข้างผู้ชายเจ้าเลห์ตรงหน้า เธอมองตาเขียวกลับไปยังชายหนุ่มทำเอาเขาเองก็ร้อนๆหนาวๆเลยทีเดียว
"แม่หรอคะ"
"ก็แม่อยากมีลูกชายเลยรับตาภัทรเป็นลูกอีกคนไม่ดีหรอลูก เมื่อก่อนพวกลูกก็สนิทกันมากนี่ ไม่น่าจะเป็นอะไรนะลิน" หญิงสาวจนใจจะพูด นี่ยังไม่ทันไรแม่ก็เข้าข้างภัทรขนาดนี้ นี่ถ้ารู้ความจริงว่าภัทรเป็นพ่อของตาภีมและเป็นเธอเองที่เก็บความลับนี้เอาไว้ เธอคงจะโดนว่าเป็นชุด ส่วนคะแนนความสงสารคงเทไปให้นายนั่นแน่นอนเลย
"ฮึ"
"..." ยิ้มกวนๆส่งให้หญิงสาว
"แม่ครับ ภัทรขออุ้มหลานบ้างได้ไหมครับ"
"ไม่ได้"
"ทำไมไม่ได้ละลูก ตาภีมก็ดีขึ้นเยอะแล้ว"
"..."
"มามะมาให้ยายอุ้มก่อนเร็ว" พอคนเป็นยายอ้าแขนหลานชายสุดที่รักก็โน้มตัวหาแทบจะทันที
"ฟอดดด คิดถึงจังเลยไม่ได้เจอตั้งหนึ่งคืน"
"คิกๆ"
"มาๆตาภัทรมาอุ้มหลานลูก"
หญิงสาวได้แต่ร่ำร้องในใจไม่อยากให้ทั้งสองคนใกล้กัน นั่นก็เพราะเมื่อใกล้กันคนรอบข้างก็จะพิจารณาได้ถนัดขึ้นว่สทั้งสองนั้นคล้ายกันมากเพียงใด
"น้องภีมง่วงหรือยังลูก แม่ว่าพักก่อนดีกว่านะครับ" เธอรีบชิงตัวลูกชายก่อนที่จะถูกส่งไปยังชายหนุ่ม
"อะๆ แม่เขาห่วงเอาไว้โอกาสหน้าละกันนะตาภัทร"
"ผมรอได้เสมอครับ รอมานานมากแล้วด้วย" ประโยคหลังกระซิบกับหญิงสาวให้ได้ยินกันสองคน เธอดูจะหน้าตื่นๆอย่างเห็นได้ชัด
"นะ นอนดีกว่าเนาะลูกเนาะ แม่พาหนูไปนอนนะลูก" เธอต้องเลี่ยงบุคคลอันตรายที่ชื่อว่าภัทรซะแล้วตอนนี้
"นอนๆ" เจ้าตัวนอนพูดตามคนเป็นแม่
"ครับเก่งครับ นอนกันนะลูก"
"งั้นผมกับหนิงขอตัวก่อนนะครับ พี่ไปก่อนนะลิน สวัสดีครับคุณป้า สวัสดีครับคุณภัทร"
"สวัสดีค่ะคุณแม่ คุณภัทร"
"ไปดีมาดีลูก ขับรถปลอดภัยกันนะ"
"ครับ"
"สวัสดีครับ"
ในตอนนี้ในห้องเหลือเพียงแม่หญิงสาวและชายหนุ่มที่เป็นแขก เธอจึงอยากจะให้เขากลับไปสักทีเพราะเธอต้องการความเป็นส่วนตัว
"แม่กับภัทรกลับกันเถอะค่ะ ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร"
"แล้วใครจะช่วยดูหลานละ"
"จ้างพยาบาลพิเศษก็ได้นิคะ"
"แม่ไม่ไว้ใจเลย"
"งั้นผมช่วยดูแลเองครับ"
"จริงหรอตาภัทร"
"ไม่ต้อง"
"ยัยลิน ตาภัทรเขามีน้ำใจทำไมไปหักหารน้ำใจกันอย่างนั้นละลูก"
"อะ เอ่อ ลินเกรงใจภัทรค่ะ"
"ไม่ต้องเกรงใจภัทรเลยลิน ภัทรเต็มใจ"
"อ้าวๆ ในเมื่อเต็มใจก็อยู่ดูแลกันไปนะลูก แม่ขอตัวก่อนละกัน มีอะไรก็โทรมารายงานด้วยละ"
"ได้ครับแม่"
"เฮ้อ" หญิงสาวเหนื่อยใจเสียจริง
ชายหนุ่มอาสามารับน้องภีมออกจากโรงพยาบาลในวันนี้ นั่นก็เพราะเขาเป็นคนขอคุณนายทองหยอดมารับและท่านก็อนุญาต เขามาตามเวลานัดกับหญิงสาวเป๊ะๆเพื่อไม่ให้เธอได้มีโอกาสวีนเขา
"แม่"
"อะไรนะลูก หนูพูดว่าอะไรนะ ต้องแม่ครับถึงจะเพราะรู้ไหมลูก"
"หม่ำๆ"
"ฮ่าๆ หายดีแล้วอาการหิวหนักก็กลับมาอีกแล้วสิเนี่ย"
"มาๆภัทรอุ้มเอง น้องภีมตัวหนักขนาดนี้ลินจะอุ้มยังไงไหว"
"ไม่เห็นจะเป็นไร ลินอุ้มท้องมาตั้งเก้าเดือนยังสบายๆเลย"
เมื่อกลับมาถึงบ้านหญิงสาวก็จัดแจงเอาลูกเข้าพักที่ห้องของตน ลูกชายของเธอคงจะเหนื่อยจากการเดินทางเลยหลับไปแล้วในเวลานี้
"หลับแล้วหรอลูก"
"ค่ะแม่"
"มาๆนั่งพักกันก่อนเถอะลูก"
"ครับ/ค่ะ"
"ลินเหนื่อยมากไหม บอกภัทรได้หรือป่าว"
"ได้ เหนื่อยสิถามมาได้ ยิ่งตอนเล็กๆยิ่งเหนื่อย"
"หรอ เหนื่อยขนาดไหนละ"
"ก็ขนาดที่ว่าไม่ได้หลับได้นอนติดต่อกันหลายคืนเพราะน้องภีมไม่สบายไข้ขึ้นแบบนี้น่ะ แล้วยิ่งอยู่บนตอนความลำบากมันเลยคูณสองเพราะการเดินทางไปไหนไม่สะดวก"
"แล้วทำไมไม่กลับมาอยู่บ้านเราละ"
"ก็งานลินอยู่ที่นั่นนี่หน่า"
"เรื่องนั้นภัทรเข้าใจ แต่ลินเหนื่อยขนาดนี้แล้วทำไมไม่บอกภัทรบ้างละ"
"ฮ่ะ บอกทำไมละ ทะ ทำไมต้องบอกภัทรด้วย"
"ลินยังจะปิดบังภัทรอีกหรอ" พอชายหนุ่มเปิดประโยคแบบนี้มาแม่ของหญิงสาวเองจึงเริ่มสนใจบทสนทนาของทั้งคู่
"ลินไม่ได้ปิดบัง"
"ทำไมต้องเสียงสูง"
"ป่าวสูง"
"ภัทรสืบมาแล้วว่าลินไม่ได้คบกับใครเลยตั้งแต่เราแยกย้ายกันไป แล้วอย่างนี้น้องภีมจะเป็นลูกคนอื่นได้ยังไง ผมขอโทษนะครับแม่ แต่ก่อนที่เราสองคนจะไม่ได้เจอกัน เรามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกันครับ ถึงลินจะบอกว่ามันคือความผิดพลาดแต่สำหรับภัทรมันไม่ใช่"
"..." หญิงสาวดูจะอึ้งไปจนทำอะไรไม่ถูก
"นี่ลูกพูดเรื่องอะไรกัน งั้นก็แสดงว่า..."
"ใช่แล้วครับคุณแม่ น้องภีมต้องเป็นลูกของภัทรแน่นอน ลินบอกภัทรเถอะลินอย่าโกหกภัทรเลยนะลิน ภัทรขอร้อง บอกความจริงภัทรมาเถอะ"
"ลิน ลิน"
"ยัยลินพูดความจริงออกมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นแม่จะตีเราซ้ำด้วย"
"โถว่แม่"
"รีบบอกมาเร็วเข้า"
"คือ...คือว่า"
"คือว่าอะไรรีบบอกแม่มานะ"
"คือว่า...ค่ะ ภีมเป็นลูกของภัทร ลินไม่ได้คบใครคนอื่นจริงๆ"
"เฮ้อออ โล่งอก ฮ่าๆ มันต้องอย่างนี้สิ"
"นะนี่ นี่เรื่องอะไรกันคะ" เธองงมากที่ทั้งแม่ของตนและภัทรดูจะพอใจกับคำตอบของเธอเหมือนได้วางแผนมาแล้ว ส่วนคนที่เตรียมใจมาครึ่งๆอย่างชายหนุ่มก็โล่งใจจนน้ำตาปริ่ม
"อ้าวๆ จะร้องซะแล้วพ่อภัทร"
"ผม ผม."
"แม่รู้ว่าเราดีใจ แม่ยินดีด้วยจ้ะ ในที่สุดลินก็เผยความจริงออกมา"
"ขอบคุณนะลิน ขอบคุณที่พูดความจริง"
"ฮึ อย่าบอกนะว่าทั้งสองคนรวมหัวกันหลอกลิน"
"อย่ามากล่าวหาพวกเรานะ เรานั่นแหละที่ปิดบังความจริง นี้ถ้าตาภัทรไม่มาสารภาพผิดกับแม่แม่ก็คงไม่รู้เลยว่าพ่อของหลานคือใคร และหลานของแม่เองก็คงต้องขาดพ่อ ตาภัทรไม่ดีตรงไหนละลิน"
"ภัทรคือ ภัทรไม่ใช่ไม่ดีค่ะ แต่ว่า..."
"แต่ว่าอะไร"
"ลินไม่อยากรั้งภัทรไว้ ตอนนั้นภัทรกำลังจะไปมีชีวิตที่สดใสนี่คะ" หญิงสาวเสียใจจนทำอะไรไม่ถูกรีบวิ่งกลับห้องของตนเองไป แม่ของหญิงสาวจึงรู้สึกเสียใจเล็กน้อยที่ดุลูกไปแบบนั้น ตอนนี้คงทำได้แค่รอเวลาให้ลูกสาวสงบสติอารมณ์ก่อน เธอจึงให้ชายหนุ่มกลับไปก่อนในเวลานี้ เมื่อเขากลับไปถึงบ้านก็นั่งซึมจนพ่อกับแม่เห็นผิดสังเกต
"เป็นอะไรไปละลูก หน้าเศร้าเชียว"
"แม่ครับ อนาคตที่สดใสจะมีไปทำไมถ้าไม่ได้อยู่กับคนที่รักละครับ"
"ลูกพูดเรื่องอะไรเนี่ยแม่ไม่เข้าใจ"
"ผมรู้แล้วครับว่าลินท้องกับใคร"
"ใครลูก แล้วลูกรู้ได้ยังไง ข่าวมั่วหรือเปล่า"
"ไม่มั่วครับ ลินท้องกับผมเอง"
"ห่ะ ลูกพูดว่าอะไรนะ"
"ลินท้องกับผมครับ น้องภีมคือลูกของภัทรเอง"
"ตายจริง ทำไมหนูลินถึงไม่บอกเราบ้างละ หนูลินต้องรับผิดชอบน้องภีมเองมาตลอด"
"เพราะเขาบอกว่าตอนนั้นผมกำลังจะไปมีอนาคตที่สดใสจึงไม่อยากรั้งผมไว้"
"เรื่องไปเรียนต่อน่ะหรอลูก"
"ใช่ครับ ลินเลยเลือกที่จะปิดบังความจริง" พอแม่ของชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็หน้าซีดและเป็นลมล้มพับไป ไม่นานแม่ของชายหนุ่มก็ฟื้นขึ้นมาด้วยสีหน้าที่มีความวิตกกังวลอย่างชัดเจน
"แม่ครับ แม่ดีขึ้นหรือยังครับ"
"มะ แม่"
"แม่ใจเย็นๆครับ ค่อยๆหายใจเข้าออกนะครับ"
"แม่ขอโทษลูก"
"แม่ร้องไห้ทำไมครับ"
"แม่ขอโทษ ฮึกๆ"
"คุณ คุณเป็นอะไร" พ่อของชายหนุ่มเป็นห่วงภรรยาของตนมาก
"คุณพี่คะ ต้นเหตุคงเป็นน้องเอง ตาภัทรก็ไม่ได้อยากไปเรียนต่อแต่เป็นน้องเองที่อยากให้ไปมาก น้องเลยไปขอร้องให้หนูลินช่วยบอกให้ตาภัทรเปลี่ยนใจ แล้วมันก็ได้ผล ตาภัทรยอมไปเรียนต่อตามที่น้องต้องการ ตะ แต่หลานกลายเป็นคนไม่มีพ่อ หนูลินเองก็ต้องโดนนินทาอย่างแน่นอนค่ะ ฮืออ"
"นะ นี่คุณแม่ให้ลินช่วยพูดหรอครับ"
".." แม่ของชายหนุ่มพยักหน้างึกๆพร้อมน้ำตา
"ผมไม่โทษคุณแม่หรอกนะครับ แม่อย่าคิดมากยะครับ ผมขอตัวไปปรับความเข้าใจกับลินก่อนนะครับคุณพ่อคุณแม่"
"ไปเถอะลูก แม่เดี๋ยวพ่อดูแลเอง"
"ขอบคุณครับพ่อ"
ย้อนกลับไปวินาทีที่เธอรู้ตัวว่าเธอกำลังตั้งครรภ์ หญิงสาวรู้สึกเหมือนมีพลังบางอย่างมันวิเศษมากๆ เธอรู้สึกมีความสุขและกำลังสับสน เพียงแค่ได้รู้ในร่างกายของเธอจะสามารถสร้างสิ่งมีชีวิตขึ้นอีกหนึ่งสิ่ง และนั่นก็เรียกว่าลูก ลูกที่จะเป็นทุกๆอย่างสำหรับเธอ เธอตั้งใจว่าจะบอกเรื่องนี้กับชายหนุ่มหลังจากที่คิดมาอย่างดี แต่มันก็ต้องหยุดความคิดไว้เท่านั้นเมื่อแม่ของชายหนุ่มขอร้องเธอให้ช่วยพูดกับลูกชายของหล่อนเรื่องไปเรียนต่อต่างประเทศ แล้วเธอจะเห็นแก่ตัวได้อย่างไรละ เธอจะรั้งเขาไว้ทำไม เธอต้องการให้เขาก้าวหน้าและมีความสุขกับสิ่งที่เลือก สถานะของพวกเธอก็เป็นเพียงแค่เพื่อนเท่านั้น แม้ในใจของเธอจะโอนเอนไปหาเขาบ้างก็ตาม แต่เขาก็คงไม่โอนเอนมาหาเธอหรอก เธอคิดเสมอว่า ถ้าเขาจะชอบเธอบ้างก็คงจะชอบตั้งนานแล้วนี่สิชีวิตจริง เรากำหนดกันเอง
ปัจจุบัน
"ฮืออ ฮึกๆ"
อดีตที่ผ่านมายังคงวนเวียนกลับมาทำให้เธอนั้นต้องช้ำใจ หญิงสาวหน้าแดงกล่ำวิ่งร้องไห้กลับมายังห้องนอนของตน เมื่อปิดประตูลงน้ำตาก็พลันล่วงเผาะอย่างห้ามไม่ได้เหมือนดั่งสายฝน ความลับที่เธอพยายามเก็บไว้หลายปีถูกเปิดเผยแล้วสินะ เธอคงไม่กล้าแม้แต่จะมองหน้าของชายหนุ่ม เธอรู้สึกชาและจุกไปหมด เขารู้เรื่องของน้องภีมตั้งแต่เมื่อไรกันนะ เขารู้ได้อย่างไรว่าน้องภีมคือลูกของตน ด้านชายหนุ่มขับรถกลับมายังบ้านของหญิงสาวอีกครั้ง
"แม่ครับ ลินละครับ"
"ยังไม่ลงมาเลยลูก แม่ละเป็นห่วงเสียจริง เป็นชั่วโมงแล้วด้วย"
"ผมขอขึ้นไปหน่อยได้ไหมครับ ผมอยากปรับความเข้าใจกับลินตอนนี้เลยครับแม่"
"ได้สิลูก ค่อยๆพูดค่อยๆจากันนะตาภัทร นึกถึงตาภีมให้มากๆละ ลูกน่ะ ยังไงก็ต้องการทั้งพ่อและแม่นะ"
"ครับแม่ ผมจะพยายามใช้สติมากกว่าอารมณ์ครับ"
ชายหนุ่มเดินขึ้นไปบนชั้นสองของบ้านด้วยความมั่นคง เขาจะต้องรักษาครอบครัวของตัวเองเอาไว้ให้ได้ ลูกก็ลูกเขา ลินเองก็ต้องเป็นภรรยาของเขา
"ก๊อกๆ"
"..."
"ก๊อกๆ"
"ใครคะ มะ แม่หรอคะ"
"..."
หญิงสาวเริ่มสงสัยเพราะได้ยินแต่เสียงเคาะประตูแต่ไม่มีใครพูดตอบรับกลับมาเลย จึงพยายามรวบรวมแรงที่มีแล้วลุกขึ้นไปเปิดประตูดูว่าเป็นใครกันแน่ที่มาเคาะประตู
"ใครคะ เคาะแล้วไม่ยอมตอบลินเลย" เธอพูดไปทั้งๆที่ยังไม่ได้มองหน้าคนที่อยู่ตรงกันข้าม เพราะม่านน้ำตามันบดบังทำให้มองเห็นไม่ชัดเจน
"ลินครับ"
"ภัทร! ขึ้นมาได้ยังไงเนี่ย"
"ชู่ว์ เบาๆสิเดี๋ยวน้องภีมตื่น"
"ลินลืมตัวไป" หญิงสาวพูดด้วยน้ำเสียงที่เบาลงเพราะกวนว่าเสียงของเธอจะไปรบกวนการนอนหลับฝันดีของเจ้าลูกชาย
"ภัทรขอคุยอะไรหน่อยได้ไหม"
"ลินไม่มีอะไรจะคุย" หญิงสาวถอยหลังและทำท่าจะปิดประตูแต่ชายหนุ่มเอาตัวขวางไว้ได้ทัน ทำให้ประตูกระแทกโดนแขนของเขาเต็มๆ
"โอ้ยย"
"สมน้ำหน้า จะมาขวางประตูทำไมละ"
"ลิน ภัทรขอคุยด้วยหน่อยนะ นะลินนะ"
"ลินไม่อยากคุย" ใบหน้าที่แดงกล่ำจากการร้องไห้ดูยังไงก็ปิดไม่มิด ชายหนุ่มรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก
"ลิน ภัทรอยากคุยเรื่องลูก"
พอเป็นเรื่องลูกสติของเธอจึงค่อยๆกลับมา จริงสินะเขาเป็นพ่อก็ย่อมมีสิทธิ์ในตัวลูกอยู่แล้ว
"เรื่องลูกภัทนไม่ต้องกลัวลินกีดกันหรอกนะ ภัทรเป็นพ่อไม่ว่ายังไงก็ยังเป็นพ่ออยู่ดี"
"เรื่องนั้นภัทรรู้แล้วก็ขอบใจลินมากแต่มีเรื่องนึงที่ภัทรอยากให้ลินรู้"
"เรื่องอะไร"
"ภัทรไม่เคยต้องการที่จะไปเรียนต่อเลย นั่นเพราะอะไรรู้ไหม เพราะภัทรไม่อยากอยู่ห่างจากลินไง หลังจากคืนนั้นลินก็ไม่คุยกับภัทรอีกเลย แล้วภัทรก็ดีใจมากนะที่วันนั้นลินโทรมาหา แต่ปรากฏว่าลินกำลังผลักไสภัทรให้ออกไปไกลๆ ภัทรเลยประชดด้วยการไปเรียนต่อ แต่ใครจะคิดละว่าลินจะไม่สนใจภัทรอีกเลย ลินหายเงียบไปเลย ภัทรจะทำยังไงได้ แถมลินท้องลินยังไม่บอกภัทรสักคำ"
"..."
"แต่ภัทรก็เพิ่งมารู้ความจริงว่าที่จริงแล้วเป็นเพราะคุณแม่ของภัทรมาขอร้องให้ลินช่วยพูดให้ ลินรู้ไหมพอท่านทราบความจริงว่าเป็นเพราะท่านทำให้หลานต้องขาดพ่อ ท่านก็เป็นลมล้มพับไปเลย"
"คุณป้าเป็นอะไรมากไหม" หญิงสาวยังอดเป็นห่วงแม่ของชายหนุ่มไม่ได้
"แม่ดีขึ้นแล้วลิน แต่ท่านก็ร้องไห้เหมือนอย่างลินนี่แหละ ท่านอยากจะมาขอโทษลินตัวตนเองแต่ถูกคุณพ่อห้ามไว้ก่อนเพราะท่านสุขภาพไม่ดีเท่าไร"
"..."
"ลินจะโกรธจะเกียดหรือจะถามหาว่าใครเป็นคนผิดก็ให้มาโทษที่ภัทรได้เลย ภัทรมันโง่เองที่ไม่ได้สนใจอะไรรอบข้างเลย"
"..."
"ลิน ภัทรขอโทษที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่ได้มีโอกาสดูแลลินกับลูกเลย ภัทรไม่อยากสูญเสียเวลาที่มีค่าในชีวิตของภัทรอีกแล้ว ลินให้โอกาสภัทรบ้างได้ไหม เรามาเป็นครอบครัวเดียวกันเถอะนะลิน"
"..."
"ลินต้องนึกถึงลูกให้มากๆนะ โตขึ้นเราจะตอบคำถามน้องภีมยังไงถ้าน้องภีมถามว่าทำไมพวกเราถึงไม่ได้อยู่ด้วยกันเหมือนอย่างบ้านอื่น"
"เพราะเราเป็นเพื่อนกันไงภัทร"
"ภัทรไม่ได้อยากเป็นเพื่อนกับลินสักหน่อย"
"โกหก"
"ภัทรไม่ได้โกหกนะ"
"แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมาละ ภัทรมีแฟนมาแล้วตั้งกี่คน"
"สาเหตุนั่นก็เพราะภัทรต้องพยายามตัดใจเพราะลินเห็นภัทรเป็นแค่เพื่อนไง"
"..."
"ภัทรรักลินนะ"
"อย่ามาพูดปลอบใจกันเลยภัทร" ได้ยินชายหนุ่มพูดอย่างนั้นความอ่อนไหวในใจก็เริ่มสั่นคลอน น้ำตาของหญิงสาวร่วงเผาะอีกครั้ง เธอพยายามทำใจแข็งแล้วแต่มันก็ทำไม่ได้เลย
"ฮึกๆ"
"ภัทรไม่ได้ปลอบใจ ภัทรพูดจริง ลินได้ยินไหมว่าสิ่งที่ภัทรพูดมันคือความจริง แล้วก็จะทำจริงด้วย"
หญิงสาวตาตื่นมองหน้าเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยินกับหูของตน นะ นี่เขากำลังต้องการจะสื่ออะไรกับเธอเนี่ย ไอ้คนไม่มีประวบการณ์ในเรื่องรักๆใคร่ๆก็ได้แต่สงสัยและคิดไปต่างๆนาๆแล้ว
"ภัทรว่าออกไปคุยกันข้างนอกเถอะ" ชายหนุ่มคว้ามือของหญิงสาวแล้วพาออกไปข้างนอกทันที