เริ่มเข้าหา

1450 คำ
ตอนที่ 7 เริ่มเข้าหา "มีอะไรอยากบอกเพื่อนสนิทที่สุดในชีวิตอย่างกูมั้ย เห็นมึงชอบบอกว่ากู สำคัญ ที่สุด" เจ้าหมอนี่ได้ทีหยิบยกคำพูดสมัยเด็กขึ้นมาเชียว แฮะๆ ไอรินยิ้มเจื่อน ให้เพื่อนสนิท แล้วเริ่มอ้าปากพูด "พอดีเมื่อเย็นกูไปกินของหวานมากับ…" ไอรินมีสีหน้าลำบากใจกับท่าทางคาดคั้นของเขามาก "กับ???" คีย์เริ่มขมวดคิ้วเป็นปมเมื่อเห็นเพื่อนมีท่าทีอึกอัก ปกติไอรินไม่เคยมีความลับกับเขา ขนาดเป็นรอบเดือนครั้งแรกยังมาป่าวประกาศบอกเขาคนแรก แต่นี่เธอเลือกที่จะโกหก เพราะอะไรกันนะ "มึงจำเควินที่เรียนอยู่คณะเดียวกับกูได้มั้ย" "ห๊ะ ไอ้ขี้เก๊กมองเหยียดเราตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้ากันน่ะนะ" "อืม พอดีเขาก็เข้าประกวดเดือนของสาขา แล้วเขาก็มาขอเป็นเพื่อน เสร็จแล้วก็ชวนไปกิน…" "ไอ้ไอ นี่มึงจะบอกว่าเห็นแก่กินถึงขนาด…" "ไม่ใช่มึง กูไม่อยากใช้ชีวิตอย่างมีปัญหาที่มหาลัยไง มึงก็รู้ว่าพวกลูกคนรวยอบากทำอะไรก็ทำ แถมบ้านหมอนี่ยังเป็นหุ้นส่วนใหญ่ของมหาลัยอีก" คีย์เริ่มหยุดฟังเหตุผลของไอริน แต่ก็ยังไม่ค่อยพอใจอยู่ดี เพราะดูท่าทางเจ้าเควินอะไรนั่นไม่ชอบขี้หน้าพวกเขาตั้งแต่เห็นครั้งแรก แล้วทำไมอยู่ดีๆ ถึงมาญาติดีกับยัยนี่ได้ แถมยังซื้อสร้อยข้อมมือราคาขนาดนี้ให้อีก ชายหนุ่มคิดในใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไป เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำ เขาต้องตามสืบให้ได้ "แล้วไง หมอนั่นอยากเป็นเพื่อนกับมึงงั้นหรอ เด็กสลัมแบบเราเนี่ยนะ" คำถามพุ่งเข้าใส่หน้าไอรินอย่างจัง แต่เธอก็พอรู้เรื่องนี้ดีอยู่แล้ว "เออ กูก็ไม่ได้จะสุงสิงมั้ย แค่พวกนั้นไม่มาก่อกวนพวกเราแล้วให้พวกเราใช้ชีวิตในมหาลัยอย่างสงบก็พอแล้ว" ไอรินพูดสิ่งสำคัญและประเด็นที่คีย์ต้องยอมรับออกมา การมีปัญหากับแก๊งนั้นไม่ใช่เรื่องดี เลี่ยงได้ก็ต้องเลี่ยง เอาเถอะเจ้าพวกนั้นคงไม่มายุ่งอะไรกับเธอแล้วมั้ง คิดแค่นั้นแล้วทั้งคู่ก็จบบทสนทนานั่นลง ใช่ว่าทุกเรื่องที่คิดจะเป็นแบบนั้นเสมอไป ตกอีกวันที่มหาลัย ไอรินกลับเป็นเป้าหมายของพวก จตุร หนักยิ่งกว่าเดิมซะอีก คีย์ซึ่งเรียนอยู่อีกคณะก็มาเป็นไม้กันหมาให้ไม่ได้มากด้วย ตั้งแต่เช้า เจ้าสี่คนนี้ยังวนเวียนอยู่กับเธอไม่หยุด "ขอนั่งด้วยคนนะ" เสียงนุ่มทุ้มของผู้ชายหน้าตี๋ที่มีผิวขาวยิ่งกว่าผู้หญิง ภายใต้แว่นตาคือเขาหล่อมาก ดวงตาถึงแม้จะชั้นเดียวแต่คือสีดำสนิทและกลมโตเสียยิ่งกว่าผู้หญิง เขาพูดจบแล้วเลื่อนเก้าอี้ออกมานั่งข้างๆ ไอรินในคาบเรียน "นั่งด้วยคนนะคร้าบบบ" เสียงอีกคนดังขึ้นเช่นกัน หน้าตาเหมือนกันเป๊ะหากแต่ไม่ได้ใส่แว่นตา และบุคลิกดูยุกยิกเจ้าเล่ห์มากกว่า มองจากดาวอังคารก็รู้ว่าเจ้าพวกนี้เกิดจากไข่ใบเดียวกัน ถ้าจะให้แยกออกจากกันได้ก็เพราะแว่นตานั่นแหละ "อะ เอ่อ" ยังไม่ทันที่ไอรินจะอ้าปากพูด "ฉันชื่อเทรย์แล้วก็นั่นทรอยน้องชายของฉัน พวกเราเป็นฝาแฝด" ย่ะ ไม่ต้องบอกก็รู้ ไอรินคิดในใจแล้วมองหน้าพวกเขาสลับกันไปมา เจ้าพวกนี้ต้องการอะไรจากเธอกันแน่ "พวกเรามีฉายาว่าแฝดนรก" เจ้าคนน้องยืดอกพูดอย่างภูมิใจ คือมันหน้าภูมิใจตรงไหนก๊อน "ฮ่าๆๆ สวัสดีค่ะ ไอรินค่ะ" ไอรินยิ้มเจื่อน แล้วแสดงออกมาอย่างเป็นมิตรเพราะไม่อยากมีปัญหากับพวก จตุร อยากอยู่ให้ห่างๆ แต่ทำไมถึงกลายเป็นเจ้าพวกนี้วิ่งเข้าหาเธอกันนะ ยิ่งคิดยิ่ง งง อึดใจเดียว เก้าอี้ด้านหน้าก็ถูกลากแล้วคนตัวโตอีกคนก็ทิ้งตัวลงนั่งอย่างวิสาสะ แถมยังหันมามองหน้าเธอด้วยสายตาคมกริบ คิ้วคมเข้มจมูกโด่งเป็นสัน เขาไว้เครานิดหน่อยให้อารมณ์สุลต่านยังไงอย่างนั้น เขาจ้องมาที่ไอรินอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วยิ้มบาดใจ "ไง ฉันซียู หนึ่งใน จตุร" เขาพูดแค่นั้นแล้วจ้องมองมายังหน้าอกของไอรินอย่างหื่นกระหาย เจ้าหมอนี่โคตรน่ากลัว ไอรินข่มใจทำใจดีสู้เสือ ไม่ทันได้ใช้ความคิด เก้าอี้ด้านหลังก็ถูกลากออกไปอีกตัว ไอรินสะดุ้งโหยงและระแวงไปหมด เธอหันไปมอง และก็ใช่ มันเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก "เควิน" ไอรินตกใจเรียกชื่อเขาเสียงดัง ชายร้างใหญ่หน้าตาหล่อเหลาพร้อมกับดวงตาสีน้ำข้าวชวนหลง เขาผุดยิ้มมุมปากแล้วเอ่ยนิ่งๆ "ไงครับ ไอ" เขาพูดแค่นั้นไอรินหน้าแดงก่ำ แถมยังเหลือบดูสร้อยข้อมือที่ตัวเองกำลังสวม เอาจริงๆ คือจะถอดออกก็ได้นะ แต่ทำไมเธอถึงต้องฟังคำสั่งหมอนี่เรื่องที่ไม่ให้เธอถอดสร้อยนั่นออกด้วย แล้วดูเหมือนคนตัวโตจะชอบใจที่เห็นแบบนั้น เขายิ้มร้ายเบาๆ ให้กับแม่สาวอ่อนประสบการณ์คนนี้ ตอนนี้ไอรินตกเป็นเป้าสายตาของเพื่อนในคลาสอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพราะทั้งสี่ทิศของเธอถูกห้อมล้อมด้วยหนุ่มหล่อทั้งสี่คน ไอรินช่างเป็นผู้หญิงที่โชคดี แน่หรอ??? เธอได้แต่คิดแล้วโอดครวญในใจ เพราะสายตาที่ทุกคนจ้องมองเธอเหมือนอยากจะกินเลือดกินเนื้อ เจ้าพวกสี่คนนี้ยังมีหน้ามาทำหน้าระรื่นชวนคุยไม่หยุดอีก อยากจะมุดดินหนีซะให้ได้ แล้วทั้งวันไอรินก็ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ คอยหนีหน้าพวกจตุร ทั้งวันจนเหนื่อย “เฮ้ออออ” เธอถอนหายใจขณะนั่งรอรถเมย์อยู่กับคีย์เพื่อนสนิท “ไงมึง เรียนเหนื่อยหรอ” คีย์ถามด้วยความเป็นห่วง นิดหน่อยอ่ะมึง เธอไม่กล้าเล่าความจริงให้คีย์ฟัง เพราะถ้าเล่าไปคีย์คงไม่เป็นอันเรียนแล้วมาเฝ้าเธอเป็นไม้กันหมาแน่นอน ทางด้านเทรย์กับทรอย ที่ขับรถกลับบ้านหลังเลิกเรียน เจอ ไอรินกับคีย์ ข้ามถนนไปรอรถเมล์ เทรย์รีบยูเทิร์นรถตามทันที "อ้าวไปไหนอ่ะไอ้พี่ชาย" ทรอยถามพี่ชายด้วยสีหน้า งง เทรย์พยักพเยิดให้น้องชายดูเป้าหมายอย่างไอริน พวกเขาสะกดรอยตามไปจนเห็นไอรินกับคีย์ ลงรถเมล์หน้าร้านขายบะหมี่เฮียหมง คนพี่ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย เขาจอดรถแล้วลงไปเพื่อไปสั่งก๋วยเตี๋ยว "เฮ้ย จะไหวหรอวะ ดูร้านโคตรไม่น่ากิน" คนน้องเอ่ยอย่างเหยียด "ไม่เป็นไรเอาไปให้คนใช้คนสวนกิน" คนพี่ยิ้มร้าย เพราะเป้าหมายไม่ใช่บะหมี่ แต่เป็นยัยนมตู้มนั่นต่างหาก “บังเอิญจังเลยนะ เจอกันอีกแล้ว” เทรย์ทักไอรินที่กำลังเช็ดโต๊ะ “อื้อ มากินเตี๋ยวเหรอ ตามสบายนะ” ไอรินตอบแบบขอไปที เธอรู้ว่าเจ้าพวกนี้ไม่ได้ตั้งใจมากินก๋วยเตี๋ยวแน่ๆ ไหนจะเรื่องที่เข้าหาเธอแปลกๆ อีก ไอรินระมัดระวังตัวอย่างสูง “ฉันซื้อกลับบ้านน่ะ เธอกินอะไรรึยัง” เทรย์ยังคงหาเรื่องคุยกับไอรินต่อไป “ไอมาช่วยล้างน้ำเปล่าหน่อย” เสียงคีย์ดังมาจากด้านหลังที่มีกะละมังหลายใบใส่น้ำรอไว้ล้างถ้วยชาม “เรากินตอนเลิกงานนู้น ขอบใจนะ นายนั่งรอเถอะเราเช็ดเก้าอี้แล้ว” ไอรินตอบเสร็จก็เดินไปช่วยคีย์ทันที “ไม่เรียบง่ายไปหน่อยเหรอพี่ชาย” เสียงทรอย แฝดน้องดังจากด้านหลัง เขายืนดูอยู่ห่างๆ พักหนึ่งหลังเห็นไอรินเดินไปจึงเข้ามาเยาะเย้ยพี่ชายที่ใช้วิธีตื้นๆ ในการเข้าหาสาวเจ้า “งั้นมึงลองมั่งสิ” เทรย์ย้อนให้อย่างยียวน “ของแบบนี้มันต้องใจเย็นๆ เข้าหาทีเดียวสองคนมันเหมือนจงใจ เดี๋ยวไก่ตื่น” ผู้มีประสบการณ์อย่างทรอยคนน้องพูดขึ้น “งั้นเรากลับก่อนนะไอ” ทรอยตะโกนบอกไอที่ล้างจานอยู่แล้วก็ลากแขนเทรย์ไปโดยไม่รอให้พูดอะไรกับไอรินอีก
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม