ตอนที่ 6 เผลอน้อยใจ

1479 คำ
กินข้าวเสร็จ ธีร์ก็ขับรถไปส่งพรีมที่มหาวิทยาลัยตามคำสั่งของผู้เป็นแม่ มีคู่หมั้นก็เหมือนมีเมีย จะขัดใจแม่ของเขาก็ไม่ได้อีก “เลิกเรียนกี่โมง” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นก่อนที่คนที่นั่งข้างๆ จะเปิดประตูลงจากรถ “ถามทำไมเหรอคะ จะมารับพรีมเหรอ” “พี่เป็นคนมาส่ง เลิกเรียนก็ต้องมารับสิ หรือว่าเธอจะกลับกับใคร” “เปล่าค่ะ นึกว่าพี่จะติดงาน พรีมว่าจะกลับพร้อมนิวเยียร์ แต่ถ้าพี่จะมารับก็ได้ค่ะ เลิกเรียนแล้วจะโทรไปบอกนะคะ” พรีมเอ่ยพลางหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าตีเนียนขอเบอร์คนตรงหน้า ธีร์ขมวดคิ้วเข้มเล็กน้อยแต่ก็ยินยอมบอกเบอร์ของตนไปแต่โดยดี พรีมระบายยิ้มชอบใจรีบกดเบอร์โทรตามที่อีกฝ่ายบอกแล้วบันทึกลงในโทรศัพท์ และทันทีที่เบอร์ถูกบันทึกไลน์ของธีร์ก็เด้งขึ้นมา พรีมจึงรีบกดเพิ่มเพื่อนไปทันที “แอดไลน์ไปแล้วนะคะ ในรูปกับตัวจริงนี่หล่อไม่ต่างกันเลย” เมื่อถือวิสาสะแอดไลน์เขาไป พรีมจึงเอ่ยปากชมคนข้างๆ ไปหนึ่งประโยคด้วยน้ำเสียงอ้อนๆ ส่วนอีกคนเหมือนจะกระตุกยิ้มให้เห็นเล็กน้อยแล้วกลับไปทำหน้านิ่งไม่ได้ต่อว่าอะไร เธอก็จะถือว่าเขาเต็มใจให้ก็แล้วกัน “ไปก่อนนะคะพี่ธีร์” “อืม” พรีมก้าวขาลงจากรถก็โบกมือลาคนที่มาส่ง ก่อนจะเดินเข้าไปหาเพื่อนรักที่มาถึงก่อนหน้า “ไงจ๊ะแม่เพื่อนรัก คู่หมั้นสุดหล่อของแกมาส่งเหรอ” “อื้ม” “นอนด้วยกันแค่คืนเดียวกลายเป็นพ่อหนุ่มมีน้ำใจขนาดนี้เลย ว่าแต่แกไปทำอีท่าไหนถึงทำให้พี่ธีร์เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้ได้ล่ะ ไหนบอกฉันมาซิ” นิวเยียร์เห็นว่าธีร์เปลี่ยนจากคนเย็นชาที่ไม่เห็นพรีมอยู่ในสายตา กลายเป็นคนเอาใจใส่มาส่งสาวคู่หมั้นถึงมหาวิทยาลัยได้แบบนี้ มันน่าสงสัย “แล้วแกคิดว่าฉันทำยังไงล่ะ” พรีมถามกลับ “อย่าบอกนะว่าเมื่อคืนแกกับพี่ธีร์…” “...” พรีมกระตุกยิ้มชวนให้นิวเยียร์คิดไปไกล “กรี๊ด… แรงมาก นี่แกกับพี่ธีร์มีอะไรกันแล้วเหรอ” “นี่ยัยปีเก่า ในหัวของแกนี่มันมีแต่เรื่องสิบแปดบวกหรือไงกัน คิดได้นะว่าพวกเราจะมีอะไรกัน แค่พูดยังนับคำได้เลย” พรีมรีบตัดบทเพื่อนรัก ไม่รู้ว่าคิดได้ยังไงว่าเธอมีอะไรกับหนุ่มคู่หมั้นที่เพิ่งจะรู้จักกันและนอนด้วยกันแค่คืนเดียว “ฉันชื่อนิวเยียร์ที่แปลว่าปีใหม่ยะ” “จะปีเก่าปีใหม่ก็เหมือนกันนั่นแหละ แล้วเรื่องคลิปที่แกส่งมาให้ฉันเมื่อวานอีกนะ แกรู้ไหมว่าพี่ธีร์ว่าให้ฉันยังไง” “แล้วฉันจะรู้ไหมล่ะจ๊ะ” นิวเยียร์ไม่ได้ไปนอนอยู่ในห้องเดียวกันกับสองคนนั้นเสียหน่อย จะรู้ได้อย่างไรว่าผู้ชายของเพื่อนจะพูดกับพรีมว่าอย่างไร “พี่ธีร์หาว่าฉันเป็นเด็กแก่แดดก็เพราะคลิปบ้าๆ ของแกนั่นแหละ” “นี่แกไม่ได้ลดเสียงโทรศัพท์เหรอ หรือว่าเปิดดูด้วยกัน” นิวเยียร์มีสีหน้าตกใจ แต่ก็หลุดขำออกมาเบาๆ เธอก็อุตส่าห์เตือนแล้วว่าห้ามเปิดเสียงดังแต่พรีมก็ไม่ทำตามที่บอกเอง “ฉันเปิดดูคนเดียว แต่เสียงมันดังไปถึงโซฟาที่พี่ธีร์นั่งนู้น” “แล้วทำไมแกไม่เปิดคลิปให้พี่ธีร์ของแกดูไปเลยล่ะ ว่ามันไม่ได้สิบแปดบวกอย่างที่เขาคิด แต่ถ้าจะเข้าใจผิดก็ช่วยไม่ได้นะ” นิวเยียร์ยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ แต่เสียงมันก็… อืม… น่าคิดอยู่นะสำหรับคนที่ไม่เห็นภาพ “ช่างเถอะ โตจนป่านนี้แล้วใช่ว่าจะไม่เคยดู” พรีมก็ไม่แคร์เหมือนกัน อายุเลขสามแล้วมันก็ต้องเคยผ่านตามาบ้างล่ะกับคลิปอย่างว่า หลังจากเลิกเรียนพรีมก็กดโทรออกไปหาหนุ่มคู่หมั้นสุดหล่อ แต่เขาก็ตัดสายทิ้งทั้งสองครั้งที่เธอโทรเข้าไป พรีมจึงพิมพ์ข้อความส่งไปแทน ………. Noo’ Preme : พรีมเลิกเรียนแล้วนะคะพี่ธีร์ ………. ข้อความที่ถูกส่งออกไปมีการเปิดอ่านทันทีแต่ไม่มีการตอบกลับมา พรีมนึกในใจว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ ทำไมมีเวลาอ่าน แต่ไม่มีเวลาพิมพ์ตอบหรือรับสายของเธอเลย ………. Noo’ Preme : พรีมรออยู่หน้ามหา’ ลัยนะคะ ………. พรีมนั่งรออยู่ที่ป้ายรถเมล์เป็นเวลานานราวกับคนน้อยใจ นี่เขางานยุ่งจนไม่มีเวลา หรือว่าลืมไปแล้วกันแน่ว่ารับปากว่าจะมารับเธอที่มหาวิทยาลัย เวลาผ่านไปสามสิบนาที รถหรูสีดำก็ขับมาจอดด้านหน้าที่พรีมนั่งอยู่ และชายหนุ่มที่สวมชุดสูตสีดำ เสื้อเชิ้ตข้างในสีขาวเปิดประตูลงจากรถแล้วก้าวมาหยุดอยู่ตรงหน้าเธอ “คุณพรีมใช่ไหมครับ” “ค่ะ คุณคือ…” พรีมเงยหน้าขึ้นมองคนตัวสูง เธอจำหน้าได้ว่าเขาคือคนที่เคยเจอในห้างสรรพสินค้า “ผมพิรัชย์ เป็นเลขาของคุณธีร์ครับ” ชายคนดังกล่าวแนะนำตัวก่อนจะพูดต่อ “คุณธีร์ให้ผมมารับครับ” “แล้วพี่ธีร์ไปไหนเหรอคะ” “คุณธีร์ติดประชุมกับลูกค้าอยู่ครับ” “แล้วทำไมคุณถึงไม่ได้เข้าประชุมด้วยล่ะคะ” พอฉุกคิดขึ้นได้พรีมก็รีบยกมือขึ้นปิดปาก ไม่คิดว่าเธอจะกล้าถามอะไรที่มันละลาบละล้วงมากจนเกินไป คงเป็นเพราะนั่งรอนาน บวกกับความคิดที่ว่าธีร์คงจะลืมมารับ จึงทำให้เธอเผลอแสดงกิริยาที่ไม่ดีออกไป “ขอโทษค่ะ” “ไม่เป็นไรครับ ที่จริงก่อนหน้านี้ผมก็เข้าร่วมประชุมพร้อมกับคุณธีร์ แต่พอคุณส่งข้อความเข้าไปคุณธีร์ก็บอกให้ผมออกจากการประชุมแล้วให้รีบมารับคุณพรีมเพราะกลัวว่าจะรอนาน” พอได้ฟังคำตอบจากปากของพิรัชย์ พรีมก็คลี่ยิ้มจนหุบไม่ลง ไม่คิดว่าอีตาคู่หมั้นสุดหล่อจะนึกเป็นห่วงเธอด้วย “เราไปกันเถอะค่ะ” “ครับ” พิรัชย์ตอบรับพร้อมกับเปิดประตูเพื่อให้นายหญิงเข้าไปนั่งในรถ “พรีมขอนั่งหน้านะคะ” พรีมรู้สึกว่าเป็นการเอาเปรียบพิรัชย์มากเกินไป แค่เขามารับเธอก็เกรงใจมากแล้ว ถ้าไปนั่งเบาะหลังราวกับเป็นเจ้านายขนาดนั้น มันก็ยังไงๆ อยู่ “ก็ได้ครับ” พิรัชย์ตอบรับก็ปิดประตูด้านหลัง ส่วนพรีมก็เปิดประตูเข้าไปนั่งในรถเอง “พรีมขอเรียกว่าพี่พิรัชย์ได้ไหมคะ” พรีมหันไปถามคนที่เพิ่งเข้ามานั่งประจำที่ฝั่งคนขับ “จะดีเหรอครับ” พิรัชย์เกรงว่าถ้าเจ้านายของเขาได้ยินคู่หมั้นสาวเรียกเขาราวกับสนิทกันแบบนี้จะรู้สึกเคืองเอา “ดีสิคะ ยังไงก็คนกันเองทั้งนั้น เรียกพี่จะได้ไม่รู้สึกอึดอัด” “เอ่อ…” พิรัชย์ยังคงอ้ำอึ้ง ก่อนจะเอ่ยตอบ “เอางั้นก็ได้ครับ” “แล้วนี่พี่ธีร์ให้ไปส่งพรีมที่บ้านเลยไหมคะ” พรีมถามคนที่กำลังขับรถอยู่ “เปล่าครับ คุณธีร์ให้พาไปที่บริษัท” พิรัชย์ตอบตามคำสั่งที่ได้รับมา รถหรูเคลื่อนเข้าไปจอดที่โรงจอดรถของ CEO ทั้งพรีมและพิรัชย์ก็เปิดประตูลงจากรถไปพร้อมกัน พรีมเดินตามเลขาหนุ่มเข้าไปในตึกเพื่อขึ้นไปหาคู่หมั้นหนุ่มสุดหล่อที่อยู่ด้านบน ไม่รู้ว่าตอนนี้จะประชุมเสร็จหรือยัง “พี่ธีร์ทำงานห้องนี้เหรอคะ” พรีมหันไปถามเลขาหนุ่มขณะที่ทั้งสองเดินมาหยุดอยู่หน้าห้องทำงานที่ใหญ่ที่สุด และอยู่ชั้นบนสุดของตึกแห่งนี้ “ครับ คุณพรีมเข้าไปนั่งรอข้างในก่อนนะครับ ผมขอตัวไปหาคุณธีร์ที่ห้องประชุมก่อน” “ค่ะ ขอบคุณที่ไปรับนะคะพี่พิรัชย์” พิรัชย์ยกยิ้มพยักหน้าให้ก็เดินออกไป ส่วนเธอก็เข้าไปนั่งรอตรงโซฟาที่อยู่ภายในห้องทำงานของคู่หมั้นหนุ่ม
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม