LOVE OBLIGATION #5
“อย่าดื้อได้มั้ยแก้ว” คินพูดเสียงนิ่ง
“แก้วไม่ได้ดื้อ พี่ต่างหากที่พูดไม่รู้เรื่อง” ลูกแก้วหันไปมองหน้าชายหนุ่มด้วยสายตาหงุดหงิด “ถ้าพี่จะอ้างข้อตกลง งั้นได้! เราตกลงกันแล้วว่าจะไม่ก้าวก่ายเรื่องงานของกันและกัน”
“พี่ว่าตอนนี้แก้วกำลังไม่มีเหตุผลนะ”
“เหอะ! แก้วหน่ะหรอที่ไม่มีเหตุผล” หญิงสาวยิ้มออกมาอย่างเย้ยหยันตัวเอง “จะยังไงก็ช่าง เรื่องถอนตัวพี่ล้มเลิกความคิดไปได้เลย”
“…”
“มีอะไรอีกมั้ย”
“…”
“ถ้าไม่มีงั้นแก้วขอตัวนะคะ!” ลูกแก้วมองหน้าชายหนุ่มก่อนจะหันไปเปิดประตูรถลงไปทันที
ปัง!
ตึกตัก ตึกตัก
“กะ..”/“ ไปค่ะเจ๊ แก้วเหนื่อย” ลูกแก้วพูดกับผู้จัดการส่วนตัวก่อนจะเดินตรงไปที่รถของตนเองทันที
แกร๊ก!
ปัง!
“ทะเลาะกันหรอ” นิดหน่อยเอ่ยถามพร้อมกับหันไปรัดเข็มขัด
ลูกแก้วเอามือเสยผมลวกๆก่อนจะพยักหน้า “ช่างเหอะเจ๊” ก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมาเล่นเพื่อให้ใจเย็นลง
“โอเคมั้ยแก้ว” นิดหน่อยถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“ไม่ค่ะ” ลูกแก้วส่ายหน้าก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ “นี่แก้วทำอะไรอยู่อะ แก้วกำลังทำอะไรอยู่” ก่อนจะส่ายหน้าไปอย่างไม่เข้าใจตัวเอง
“นั่นสิ แก้วกำลังทำอะไรอยู่” นิดหน่อยยิ้มออกมาอย่างเอ็นดูลูกแก้ว “เอาจริงๆเจ๊ก็งงเหมือนกันว่าวันนั้นที่แก้วโทรกลับมา ทำไมเจ๊ถึงตัดสินใจรับแก้วเข้ามาเป็นเด็กในสังกัดเพียงเพราะเหตุผลที่แก้วบอกมา”
“นั่นสิ วันนั้นคิดอะไรอยู่นะ” ลูกแก้วยิ้มขำออกมา
“เสียใจหรอ?”
“ไม่เลย” ลูกแก้วส่ายหน้าเบา “อะไรที่แก้วเลือกแสดงว่าแก้วคิดดีแล้ว แต่แค่บางทีมันมีแวบขึ้นมาว่าจะทำไปทำไม ทำไมเค้าก็ไม่เห็นค่าอยู่ดี”
“เอาน่า คินเค้าก็มีเหตุผลของเค้าแหละลูกสาว อย่าคิดมาก มาๆอยากกินอะไรเดี๋ยวเจ๊พาไป”
“วันนี้ขอบายนะเจ๊ นัดเพื่อนไว้อะ”
“เออ เจ๊ก็ลืมเลย แล้วนี้จะให้เจ๊ไปส่งที่ไหนอะ”
“คอนโดที่เดิมตรงอโศกอะเจ๊”
“อ่อ จำได้ๆ” นิดหน่อยพยักหน้า “ไปหาน้องเจนนี่หรอ”
“อื้อ” ลูกแก้วพยักหน้าก่อนจะเงียบไป “เจ๊ วันรับปริญญาหนูเจ๊ไปด้วยนะ ลืมแล้วใช่มั้ยเนี่ย”
“ไม่ลืม แต่มันอีกสามเดือนเลยนะย๊ะ”
“รู้แล้ว แก้วต้องเตือนล่วงหน้าสิ เดี๋ยวเจ๊ลืม” ลูกแก้วยิ้มขำออกมา
นิดหน่อยมองหญิงสาวยิ้มๆ “เออแก้ว ทีหลังต้องระวังตัวกว่านี้นะ เข้าใจมั้ย ไอนักร้องคนนั้น ชื่อไรนะ? ฟรอยด์ใช่มั้ย มือไวสุด ไรสุด”
“ค่ะ” ลูกแก้วพยักหน้ายิ้มๆอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก
“แก้ว เจ๊จริงจังนะ”
“แก้วรู้” ลูกแก้วพยักหน้ารับ “แก้วไม่ได้เจออะไรแบบนี้ครั้งแรกซะหน่อย” ก่อนจะยิ้มขำออกมา “แก้วไม่ใช่เด็กน้อยของเจ๊เมื่อสองปีก่อนแล้วนะ”
“รู้แล้ว แต่ก็ยังเป็นห่วงอยู่ดี ทีหลังจะไม่ปล่อยให้ไปก่อนละ” นิดหน่อยบ่นขึ้นมาๆ “นึกว่าจะมีเรื่องซะแล้ว เจ๊เหมือนเห็นมีไฟในตาคินเลย”
“เหอะ เจ๊น่าจะตาฝาดนะคะ” ลูกแก้วพูดเสียงนิ่งก่อนจะก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ต่ออย่างไม่สนใจ
-ผ่านไปสักพัก-
“ขอบคุณมากนะคะ” ลูกแก้วหันไปยิ้มพร้อมกับหยิบหมวกขึ้นมาใส่ “พรุ่งนี้ไม่มีงานใช่มั้ยเจ๊”
“จ้าาา” นิดหน่อยตอบเสียงหวาน “พักผ่อนนะ มะรืนนี้เจอกัน เอ่อ มีถ่ายแบบอย่ากินเยอะ”
ลูกแก้วขยิบตาให้ผู้จัดการสาวก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปอย่างอารมณ์ดี
ตึกตัก ตึกตัก
“แก้ว” เจนนี่โบกมือให้เพื่อนรักก่อนจะเดินตรงเข้ามาหาแล้วพาเดินไปที่ลิฟต์ “กว่าจะว่างนะมึง”
“เออ เลิกบ่นได้แล้ว มีไรกินบ้างอะ”
“เยอะแยะ” เจนนี่ยิ้มออกมาก่อนจะเดินพาเพื่อนรักเดินเข้าไปในลิฟต์ทันที
-หลายชั่วโมงต่อมา-
“พวกมึงจะกลับกันกี่โมง” หมอกถามพร้อมกับกระดกเหล้าในมือจนหมด “กูจะกลับแล้ว”
“เออ กลับก่อนเลย” คีย์ตอบยิ้มพร้อมกับมองภาพในโทรศัพท์ยิ้มๆ
“เป็นเชี่ยไร” คินถามขึ้นอย่างสงสัย
ไนต์หันไปมองก่อนจะส่ายหัวเบาๆ “มึงนี่เป็นหนักนะไปคีย์”
“ทำไมอะ ก็กูชอบอะ” คีย์เถียงกลับอย่างไม่สนใจ
“ลูกพีช?” คินถามเสียงนิ่ง
“เออ” ไนต์หันไปตอบแทน “มึงชอบมึงก็เข้าไปจีบเค้าดิวะ กลัวห่าไร”
“อย่าไปสนใจแม่งเลย” หมอกพูดขึ้นปัดๆ “อย่าหนักนะพวกมึง มะรืนมีประชุม”
“พูดถึงงานแล้วแม่ง เครียดขึ้นมาเลยหว่ะ” ไนต์พูดเสียงนิ่ง “มึงจะกลับเลยมั้ยไอคิน”
“อื้อ” คินพยักหน้าก่อนจะกระดกเหล้าในมือก่อนจะวางแก้วลงบนโต๊ะ “เจอกัน”
“เออ” ไนต์พยักหน้าก่อนจะหันไปสะกิดคีย์ “พอมั้ยหล่ะมึง มาคุยกับกูจะดูไรนักหนา”
“คุยอะไร” คีย์ถามอย่างสงสัย “เบื่อก็ไปหาสาวๆของมึงไป”
“เออจริงด้วย” ไนต์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย
“ไอไนต์ ไม่คิดจะมีเป็นตัวเป็นตนเหมือนไปคินบ้างหรอวะ”
ไนต์นิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะยิ้มออกมาบางๆ “คนอย่างกูไม่น่าจะเหมาะกับการมีใครอะ”
“เรื่องมันผ่านไปนานแล้วปะ มึงเลิกโทษตัวเองได้แล้ว” คีย์หันไปพูดเตือนสติเพื่อนรัก
“กลับห้องมั้ย กูง่วงหว่ะ”
“เออ” คีย์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย ก่อนที่ทั้งสองจะลุกแล้วพากันออกไปยังทางออกอีกทางในผับที่เป็นทางเข้า-ออกาำหรับลูกค้า vip เท่านั้น
-บนรถ-
“ทะเลาะกับแก้วหรอวะ” หมอกหันไปถามคินที่นั่งหน้านิ่งอยู่ข้างๆ
“อื้อ” คินพยักหน้ารับ
“มึงว่ามึงจะปิดเรื่องแก้วไปได้นานแค่ไหน”
“ไม่รู้ดิ” คินถอนหายใจออกมาเหนื่อยๆ “มึงก็รู้ว่าวงการนี้มันไม่ได้มีแค่คนที่รักพวกเรา คนเกลียดแม่งก็เยอะพอๆกัน”
หมอกพยักหน้าอย่างเข้าใจ “มึงก็พูดกับน้องเค้าดีๆหน่อย”
“เหอะ นั่นก็เหมือนกัน ดื้อขึ้นทุกวัน”
“แต่ถึงมึงไปว่าน้องก็มากไปไอคิน”
“แต่กูมีเหตุผล”
“บางเรื่องใช้ความรู้สึกบ้างก็ได้มั้ง” หมอกพูดเสียงนิ่ง
“แก้วแทบไปฟังอะไรกูเลย ไม่เหมือนเมื่อก่อน”
“น้องก็โตขึ้นมั้ยหล่ะ มึงเองในแต่ละวันยังเปลี่ยนไปเลย” หมอกพูดขึ้นก่อนจะหันไปมองคินเล็กน้อย
คินเบือนหน้าหนีเพื่อนรัก ก่อนจะนั่งเงียบพร้อมกับคิดอะไรบางอย่าง
.
.
ตึ้ง!
หมอกมองเพื่อนรักที่เอื้อมไปกดลิฟต์ก่อนจะยิ้มมุมปากออกมา “ห้องมึงไม่ได้อยู่ชั้น 40 หรอวะ”
“เสือก” คินตอบเสียงนิ่ง
“แล้วมาทำปากดี” หมอกพูดยิ้มๆ ก่อนจะมองประตูลิฟต์ที่เปิดออกก่อนจะตบไหล่เพื่อนรักเบาๆ “เจอกัน” พร้อมกับเดินออกไปด้านนอกทันที
คินยืนนิ่งก่อนจะกดโทรออกหาปลายสายอยู่สักพักแต่ก็ไม่มีวี่แววว่าอีกฝ่ายจะรับสาย
ตึ้ง!
ตึกตัก ตึกตัก
ติ๊ด!
คินเดินเข้าไปในห้องท่ามกลางความมืดอย่างคุ้นเคย ก่อนจะเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนที่มีร่างบางนอนอยู่บนเตียง
“พี่คินหรอ” ลูกแก้วพูดขึ้นอย่างงัวเงียก่อนจะเอื้อมไปเปิดไฟที่หัวเตียงก่อนจะดันตัวขึ้น “เป็นอะไรรึป่าว”
“ป่าว” คินส่ายหน้า “นอนเถอะ” ก่อนจะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวในตู้เสื้อผ้า “พี่นอนด้วยนะ”
“อื้อ” ลูกแก้วพยักหน้างงๆ “ก็นอนสิ ขอทำไมอะ”
“นึกว่าโกรธ”
“ทำเหมือนไม่เคยทะเลาะกัน” ลูกแก้วตอบก่อนจะเอนตัวลงนอน โดยไม่ทันสังเกตเห็นรอยยิ้มบางๆของชายหนุ่มที่มองมาที่ตนเอง