ตอนที่ 2 ไสหัวไป
พงษ์พัทนั่งมองร่างบางที่หลับใหลอยู่บนเตียง สีหน้าชายหนุ่มไม่ได้ดีเลยสักนิด สิริรัตน์เป็นคนรักของเขาเธอเป็นคนหน้าตาดี ใครต่อใครต่างก็พูดกันว่าเธอเป็นนางร้ายมีดีแค่ใบหน้าเท่านั้น ซึ่งนั่นเขาก็ไม่อาจเถียงได้ ชายหนุ่มหลับตาลงนึกย้อนเรื่องราวระหว่างเขาและเธอ มันเริ่มตั้งแต่วันนั้นวันที่เขาและเธอเรียนมหาวิทยาลัยปีหนึ่ง เขาและเธอได้รับเลือกให้เป็นดาวและเดือนของคณะ ทุก ๆ วันมักจะมีกิจกรรมให้เลิกช้าอยู่เสมอ ความประทับใจแรกที่เขามีต่อเธอไม่ ใช่เพราะนิสัยอย่างแน่นอน เพราะเธอช่างหยิ่งยโสและเอาแต่ใจอย่างร้ายกาจ เมื่อนึกมาถึงตรงนี้พงษ์พัทก็ยกริมฝีปากแสยะยิ้มขึ้นมา ความร้ายกาจของสิริรัตน์ก็ถูกพูดถึงพอ ๆ กับหน้าตาของเธอนั่นแหละ
ชายหนุ่มสะบัดศีรษะออกเมื่อคิดย้อนออกนอกเรื่องไปไกล ความจริงต่อให้เธอจะร้ายกาจเพียงใด แต่ลึก ๆ แล้วเธอจิตใจของเธอยังมีความดีอยู่เช่นกัน อย่างน้อย ๆ วันนั้นวันที่พวกเราอยู่ร่วมกิจกรรมกันจนดึก ครั้งนั้นรุ่นพี่ที่ไม่ชอบหน้าเขา กล่าวหาว่าเขาขโมยเงินกองกลางไป เขาจำได้ดีว่าเงินนั้นหายไปถึงหลักหมื่น พงษ์พัททั้งตกใจและกลัว เงินมากมายขนาดนี้เขาไม่มีปัญญาใช้คืนให้แน่ และอีกอย่างเพราะเหตุใดเขาจึงจะต้องใช้คืน ในเมื่อเขาไม่ได้เป็นคนเอาไป คนอย่างพงษ์พัทต่อให้จนก็ไม่เคยขโมยเงินใคร แต่แล้วอย่างไรคำพูดคนจน ๆ อย่างเขาใครจะไปเชื่อ เรื่องราวลุกลามใหญ่โต ขนาดคนที่เป็นอาจารย์ยังไม่แม้แต่จะยอมเชื่อเขา แต่ก่อนที่เรื่องจะลุกลามไปถึงสถานีตำรวจ หญิงสาวที่นั่งเบื่อหน่ายมานานก็ลุกขึ้นมา พร้อมกับควักเงินก้อนโตออกมาจากกระเป๋า เธอเดินเอาเงินไปวางกระแทกไว้บนโต๊ะ
"เอา!!..เงินที่หายไปเท่าไร ฉันบริจาคให้สองเท่า จบเรื่องได้หรือยัง" คนในห้องต่างก็มองสิริรัตน์ด้วยความตกใจรวมถึงพงษ์พัทด้วย เงินไม่ใช่น้อย ๆ แต่เธอกับเอาออกมาวางบนโต๊ะอย่างไม่คิดเสียดาย
"น้องฝนเก็บเงินไปเถอะ พวกพี่ไม่ได้อยากได้เงินของน้อง แต่พวกพี่ต้องการเอาตัวคนผิดมาลงโทษ" หนึ่งในรุ่นพี่ของคณะเอ่ยออกมาทว่าก็แอบมองเงินก้อนโตที่วางเด่นอยู่บนโต๊ะด้วยสายตาละโมบ
"พวกพี่เอาแต่โทษว่าพัทขโมย แต่ฝนขอถามหน่อยเถอะ พัทจะขโมยไปตอนไหน ตั้งแต่เข้ามาพัทก็ซ้อมกิจกรรมของคณะคู่กับฝนตลอด เอาเถอะถึงพวกพี่จะไม่ชอบหน้าพัทแต่นั่นก็ไม่ควรใช้วิธีทุเรศแบบนี้มากล่าวหาเขา หรือว่าเรื่องนี้จะต้องให้ฝนไปฟ้องคุณพ่อ อย่าลืมนะว่าคุณพ่อฝนเป็นเพื่อนสนิทของเจ้าของมหาลัยนี้ จะเอายังไง" สิริรัตน์มองใบหน้าของรุ่นพี่และอาจารย์ที่อยู่ตรงนี้ ทุกคนต่างก็มีสีหน้าที่ตกอกตกใจ ในเมื่อเห็นว่าทุกคนไม่พูดอะไร เธอก็เชิดหน้าขึ้น และเดินไปดึงแขนพงษ์พัทออกมาจากรุ่นพี่คนหนึ่ง
"เอาล่ะให้เรื่องมันจบแค่นี้เถอะ เงินจำนวนนั้นฝนว่าพี่ ๆ ก็น่าจะรู้นะว่าหายไปยังไง ไปกันเถอะพัท น่าเบื่อ ถ้ารู้ว่าเป็นดาวคณะแล้วจะเจอเรื่องปัญญาอ่อนแบบนี้ไม่รับเป็นซะดีกว่า" พงษ์พัทมองมือตนเองที่ถูกมือเล็กดึงออกมา ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว แต่ในใจกลับตื้นตัน ในเมืองหลวงที่กว้างใหญ่ ยังมีผู้หญิงตัวน้อย ๆ คนนี้ที่กล้าออกมาปกป้องเขา ถึงแม้เธอจะทำไปด้วยความเบื่อหน่าย รำคาญใจ แต่นั่นก็ทำให้เขามีความสุขมากแล้ว และครั้งนั้นก็ทำให้เขายอมตามใจเธอทุกอย่าง ถึงแม้ต่อมาเขาจะเริ่มเปิดใจคบหากับผู้หญิงอีกคน แต่เมื่อสิริรัตน์ไม่พอใจ เขาก็เลือกที่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นเพราะคำพูดเพียงคำเดียวของเธอ
"...ถ้าพัทยังอยากคุยกับฝน ก็ไปเลิกกับนังนั่นซะ ฝนไม่ชอบและถ้าฝนไม่ยอมพัทก็ห้ามสนใจใครนอกจากฝน" คำพูดของเธอเหมือนกับว่ากำลังหึงหวงเขา ไม่ว่าเธอจะทำไปเพราะอะไร แต่นั่นเขาก็มอบทั้งชีวิตให้เธอไปหมดแล้ว มันอาจจะฟังดูโง่เง่ามากซึ่งเขาเองก็รู้ตัว แต่ก็ไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลง จะยังไงก็ช่างขอแค่มีเธออยู่ข้างกายก็เพียงพอแล้ว...
พงษ์พัทถอนหายใจออกมา เขาลุกขึ้นยืนและมองหน้าหญิงสาวที่ยังคงนอนหลับตาอยู่บนเตียงความรู้สึกอัดอั้น ในใจตีรวนกันอย่างบอกไม่ถูก ทั้งรักทั้งเกลียดจนแน่นอก เขาหลับตาลงช้า ๆ กำลังจะหันหลังกลับไป ทว่าเสียงแหบพร่าของหญิงสาวบนเตียงกับเรียกเขาเอาไว้เสียก่อน
"พัท.."
"ฟื้นแล้วเหรอ ฟื้นแล้วก็กลับไปได้แล้ว" สิริรัตน์เบิกตาขึ้น เธอลุกขึ้นนั่งแต่เพราะลุกเร็วเกินไป เธอจึงเวียนศีรษะขึ้นมาอีกครั้ง ร่างบางเอนตัวจะล้มลง แต่แล้วกลับมีมือหนามาช่วยพยุงเธอเอาไว้เสียก่อน หญิงสาวรีบยิ้มกว้างออกมา พงษ์พัทยังใจดีกับเธอเสมอ ในชีวิตคงมีแค่พัทเท่านั้นที่เธอสามารถวางใจได้เต็มที่
"ฝนไม่เป็นอะไรค่ะ ทำไมฝนถึงมานอนที่นี่ได้ล่ะ พัทช่วยฝนมาเหรอ" พงษ์พัทสูดลมหายใจเข้าลึก เขากระชากมือตนเองออกมา ปล่อยให้หญิงสาวล้มลงไปบนที่นอนนุ่ม นึกอยากจะตัดมือตัวเองทิ้งนัก ทำไมถึงได้มือไว้อย่างนี้นะ
"พัทยังโกรธฝนเหรอ ฝนขอโทษได้ไหม" ใบหน้าหวานฉ่ำคลอไปด้วยหยาดน้ำตา ท่าทางเช่นนี้ของเธอ ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟไอ้พงษ์พัทคนโง่คนเก่าก็คงจะยินดีถวายหัว แต่ไม่ใช่กับพงษ์พัทคนใหม่คนนี้ เขาเจ็บมามากพอแล้ว
"หยุดตอแหลสักที น้ำตาเธอมันไม่ได้ผลแล้วล่ะฝน จำเอาไว้นะ ไอ้พัทที่โง่เขลาไอ้ควายตัวนั้นมันตายไปแล้ว และฉันไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป ต่อให้เธอจะร้องไห้จนน้ำตาเป็นสายเลือด ฉันก็ไม่มีวันใจอ่อน ถ้าลุกไหวแล้วก็ไสหัวไปซะ อย่ามาทำให้บ้านเล็ก ๆ ของฉันต้องเหม็นกลิ่นคนรวยอย่างเธอเลย" สิริรัตน์เบิกตาขึ้น น้ำตาที่ไหลก็ดูเหมือนจะหยุดชะงักลง เธอมองเขาเหมือนคนแปลกหน้า เขาพูดอย่างนี้กับเธอได้ยังไงเจ็ดปีที่ผ่านมา อย่าว่าแต่ด่าเธอด้วยคำหยาบคายอย่างนี้เลย แม้แต่ขึ้นเสียงให้เธอตกใจสักครั้งก็ยังไม่เคย
พงษ์พัทแสยะยิ้มมองใบหน้าที่ขาวซีดของเธอ เขากำมือตนเองแน่น และหันหลังเดินออกไป เสียงประตูปิดลงพร้อมกับสติของสิริรัตน์ที่กลับคืนมา น้ำตาหญิงสาวไหลอาบน้ำแก้มอีกครั้ง เธอเหม่อมองประตูด้วยความปวดร้าว ไม่เคยคิดเลยว่าพงษ์พัทผู้ชายที่รักเธอยิ่งกว่าชีวิต จะมีวันที่เกลียดเธอแบบนี้เช่นกัน
"พัท..อึกอึก..ฝน..ฮื้อ ๆ ฝนขอโทษ"