เก้าเดือนต่อมา
วอมชาอุ้มว่านหอมมองเด็กทารกเพศชายที่กำลังดูดนมภรรยาของเขาด้วยสายตาแห่งความรัก โดยมีโชแปง เชอริน และวรรณ์ดีล้อมเตียงดูน้องอยู่ด้วย นี่เป็นน้องผู้ชายคนแรกของบ้าน พี่สาวทุกคนต่างพากันตื่นเต้นน่าดู
“น้องตัวเล็กจังเลยคุณแม่” โชแปงเกาะเตียงมองด้วยดวงตาไร้เดียงสา
“แก้มก็แด๊งแดง” เชอรินสมทบกันพี่สาวอย่างเข้าขากัน สมกับเป็นฝาแฝดไข่ใบเดียวกันที่แทบจะแยกหน้าไม่ออกว่าใครเป็นใคร
ชมพลอยยิ้มให้บรรดาลูกสาวช่างพูดช่างคุย ก่อนจะเงยหน้ามองวรรณ์ดีที่กำลังก้มมองน้องด้วยพวงแก้มแดงระเรื่ออย่างตื่นเต้น แล้วเด็กชายก็อิ่มนมพอดี ไม่นานเขาก็หลับปุ๋ยอยู่ในอ้อมแขนเธอ
“น้องวันอยากลองอุ้มน้องมั้ยคะ”
วรรณ์ดียิ้มกว้าง
“ค่ะคุณแม่”
เด็กหญิงที่กำลังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่สี่ปีนขึ้นมานั่งบนเตียงเดียวกับมารดาบุญธรรม ก่อนจะค่อยๆ ตระกรองกอดเด็กทารกที่ชมพลอยส่งให้ด้วยความรู้สึกเหมือนไออุ่นของแม่และครอบครัวถักทอลงตรงกลางใจ
“น่ารักจังเลย น้องเวคิน”
“เวคินเหรอ?” วอมชาถามพลางเลิกคิ้ว ที่จริงเขาตั้งชื่อลูกชายไว้เยอะมาก แต่ยังสรุปตกลงกับเมียไม่ได้เลยว่าจะใช้ชื่อไหนกันแน่
วรรณ์ดีสะดุ้งน้อยๆ เธอเงยหน้าหัวเราะแหะๆ
“หนูตั้งไว้ค่ะ เป็นชื่อพระเอกในซีรีส์ ตะ แต่ว่า-”
“เอาสิ เพราะดี” วอมชาสรุป ก่อนเอื้อมมือข้างที่ว่างไปโอบไหล่เมีย “ว่างั้นมั้ยชม”
“ค่ะ” ชมพลอยสนับสนุน “เพราะกว่าชื่อที่พ่อแม่คิดกันไว้อีก เนอะ น้องเวย์ เวคิน น้องชายของพี่วัน พี่โช พี่เชอ พี่ว่าน”
วรรณ์ดียิ้มกว้างจนลักยิ้มสองข้างบุ๋มน่ารัก ก่อนที่ประตูจะถูกเคาะ และพยาบาลสาวก็เข็นรถเข็นเด็กทารกหญิงเข้ามา ตามด้วยพ่อแม่ของเด็ก คือเตวิชกับณจันทร์ที่วันนี้ณจันทร์เดินปร๋อแล้ว เพราะเธอคลอดธรรมชาติ
นางเดินตามมาข้างหลัง จูงมือตุลย์กับติณณ์มาด้วย ซึ่งเมื่อเด็กชายทั้งสองเห็นฝาแฝดโชแปงกับเชอรินที่สนิทกันก็รีบไปหา ชวนไปเล่นตรงโซฟา วอมชาจึงพาว่านหอมไปฝากเล่นกับพี่ๆ ด้วย
“เป็นไงบ้างคะพี่ชม” ณจันทร์ถามอย่างร่าเริง
“ก็เจ็บแผลอยู่บ้างนะ นี่พี่พอแล้วละ ให้หมอปิดอู่ให้เลย น้องต่ายนุ่มล่ะ จะมีอีกมั้ย”
“โอย สามคนก็ไม่ไหวแล้วค่ะ” ณจันทร์หัวเราะสดใส “ห้าคนแบบพี่ชมเนี่ย หนูยอมเลยนะคะ ดีนะที่ท้องนี้ไม่ใช่แฝด ไม่อย่างนั้น โห... หกคนเลยนะคะ หรือถ้าแฝดสามก็เจ็ดคนเลยนะคะ!!”
ท่าทางตื่นตกใจเกินเหตุของหญิงสาวทำเอาทุกคนรอบข้างพากันหัวเราะ ก่อนที่ชมพลอยกับวอมชาจะชะโงกดูหลานในรถเข็นเด็กของโรงพยาบาล ตอนนี้เด็กหญิงเตยหวานกำลังหลับปุ๋ย
เตวิชกับณจันทร์เองก็สนอกสนใจทารกน้อยในอ้อมแขนของวรรณ์ดี ถึงแม้ลูกสาวของเตวิชจะเกิดช้ากว่าเกือบหนึ่งชั่วโมง แต่คราวนี้เขาไม่หงุดหงิดแล้ว แค่ได้ลูกสาวเพิ่มอีกคนสมใจ ชายหนุ่มก็อารมณ์ดีผิดหูผิดตา
วรรณ์ดีมองพ่อแม่บุญธรรม กับ ‘น้าต่ายนุ่ม’ และ ‘ลุงเต’ ด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขและอิ่มเอมใจอย่างยากจะหาสิ่งใดมาทดแทนครอบครัวแสนวิเศษที่สวรรค์ประทานให้เธอ
แม้เด็กหญิงไม่รู้ชาติกำเนิดตัวเองอย่างละเอียด แต่เธอก็รู้สึกขอบคุณสิ่งใดก็ตามที่ทำให้เธอได้มาใช้ชีวิตอยู่ในบ้านวิวัฒนกุลในฐานะลูกสาวคนโตของท่านประธานบริษัทแบบพ่อบุญธรรมของเธอ
ไม่ใช่เพราะเขารวย
ไม่ใช่เพราะพ่อหล่อ แม่สวย
แต่เพราะ...
เสียงหัวเราะของเด็กๆ ตรงโซฟาดังมา ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง ก่อนที่พวกญาติผู้ใหญ่ทั้งทางวิวัฒนกุลและเทวาอนุสรณ์จะเดินกรูกันเข้ามาจนเกือบเต็มห้องพักคนไข้วีวีไอพี รวมถึงตรัยคุณ น้องชายที่อายุห่างกันเกือบสามสิบปีของเตวิชด้วย ตรัยคุณวิ่งไปรวมตัวกับพวกเด็กๆ ด้วยกันทันที
ผู้ใหญ่คนนั้นคนนี้ลูบหัววรรณ์ดีอย่างเอ็นดู บางคนเดินไปเล่นกับเด็กตรงโซฟา บางคนชื่นชมหลานหรือเหลนของพวกเขาด้วยสายตาแห่งความรัก
นี่แหละที่วรรณ์ดีจะบอก
เพราะความรัก... ที่พ่อแม่บุญธรรมของเธอมีมากจนล้นออกมาโอบกอดเธอราวกับลูกแท้ๆ ของพวกเขา ไม่ต่างจากน้องๆ เพราะความเอ็นดูที่ญาติๆ ของพวกเขามอบให้เธอ เพราะความอบอุ่นของความเป็นครอบครัวที่วรรณ์ดีก็ไม่รู้ว่าถ้าไม่ใช่ที่นี่... เธอจะรู้สึกเต็มอิ่มแบบนี้หรือเปล่า
“โอ้โฮ เหลนปู่! อุ้มน้องเก่งที่สุดเลยลูกน้องวัน”
หาญชมเธออย่างเวอร์วังจนพวกเทวาอนุสรณ์หัวเราะกันใหญ่ วรรณ์ดีก็หัวเราะไปด้วย แล้วเสียงหัวเราะก็อวลไปทั่วทั้งห้อง ก่อนที่ปู่จะเดินมากอดเธออย่างรักใคร่ ไม่ต่างจากที่ปู่กอดเหลนคนอื่น
อ้อ! ยอมให้พวกบีเกิ้ลหน่อยหนึ่ง ปู่น่ะดูเทใจให้สุนัขที่เลี้ยงไว้ยิ่งกว่าเทให้เหลนซะอีก
แต่วรรณ์ดีไม่อิจฉาหมาหรอก และวรรณ์ดีก็รักไมโลกับแก๊งบีเกิ้ลพอๆ กับปู่นั่นแหละ
เก็บวันละนิด ถักทอวันละน้อย
วรรณ์ดีมองวอมชา ชมพลอย และเตวิชกับณจันทร์ด้วยความมุ่งมั่นว่าเธอจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีแบบพ่อแม่ แบบลุงเต แบบน้าต่ายนุ่ม และมอบความรักให้คนอื่นได้มีความสุขแบบเธอบ้าง
ไม่ว่าจะสายเลือดเดียวกันหรือไม่ก็ตาม
วรรณ์ดีเชื่อว่าความรักนั้น... คือความสุขนิรันดร
END