หญิงสาวพยักหน้าแทนคำตอบ ประตูปิดลง พิชญาภาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก อย่างน้อยก็ไม่ต้องระแวงว่า ตนเองจะถูกเอาเปรียบตอนไหน โถมกายลงบนเตียงแล้วหลับตาลง เหตุผลอะไร ถึงทำให้เธอต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้กันนะ หวังว่าผู้ชายคนนี้จะบอกความจริงในสักวัน
พิภพเดินวนในห้องทำงาน สีหน้ากังวล จนแล้วจนรอดบุตรสาวก็ยังไม่ติดต่อมาเลย โทรหาก็ไม่รับสาย จนต้องติดต่อให้เพื่อนซึ่งเป็นตำรวจช่วยติดตาม เสียงประตูห้องทำงานเปิดออก ร่างสูงก้าวเข้ามาด้านใน
“เป็นไงได้เรื่องไหมกร” คนเป็นพ่อเอ่ยถาม บุตรชายสีหน้าเครียด
“ยังครับพ่อ”
“มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย ยัยพีชหายไปเกือบอาทิตย์แล้ว แต่จับมือใครดมไม่ได้เลย!” สีหน้าคนเป็นพ่อกังวลเสียจนแทบบ้า
พลากรสีหน้าเครียด น้องหายไปไหนกันแน่ ปกติแล้วไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่ แต่เขาไม่เคยเกลียดน้องเลย ตอนนี้ความกังวลมันถาโถมเข้ามา ขอแค่ให้น้องปลอดภัยเท่านั้น
“ผมกำลังตามหาน้องอยู่ครับพ่อ ผมเชื่อว่าน้องต้องไม่เป็นอะไร” พยายามคิดในแง่ดีไว้ก่อน เขาภาวนาให้เรื่องทุกอย่าง มันจบลงด้วยดี
“พ่อไม่เข้าใจ ทำไมมันเป็นแบบนี้ ยัยพีชไม่มีศัตรูที่ไหน ทำไมถึงได้หายตัวไป!”
สีหน้าพลากรเครียดขึ้น ลางสังหรณ์บางอย่างทำเอาครุ่นคิดหนัก หรือเรื่องทั้งหมด มันเกิดมาจากตัวเขา แววตาอาฆาตแค้นเมื่อหลายปีก่อน ยังคงสะท้อนอยู่ในความทรงจำ
“ผมจะพยายามตามตัวน้องกลับมา ให้เร็วที่สุดครับพ่อ”
คนเป็นพ่อหันมาสบตาบุตรชาย แววตาหม่นเศร้า
“พาน้องกลับมาให้ได้นะกร”
“ครับพ่อ”
พลากรก้าวออกนอกห้อง ระบายลมหายใจ เขาหวังว่าน้องสาวจะไม่เป็นอะไร เพราะถ้าพีชเป็นอะไรไปแล้วล่ะก็ เขาสาบานเลยจะจัดการไอ้หน้าไหนที่มันบังอาจ มาทำร้ายน้องสาวของเขา ให้ราวกับตายทั้งเป็น
เสียงประตูเปิดออก พิชญาภาชะงักหันไปสบตาคนตัวใหญ่ ซึ่งกำลังก้าวเข้ามาด้านใน แล้วหย่อนกายลงบนเตียง เขาช้อนสายตามอง สีหน้าหม่นเศร้า ก่อนระบายลมหายใจ
“วันนี้ผมจะพาไปเจอใครบางคน”
“ไปตอนนี้เลยเหรอคะ”
“ใช่ เพราะพรุ่งนี้ผมตั้งใจจะปล่อยคุณไป” เขาบอกตามตรง
พิชญาภานิ่ง เหมือนบางอย่างกำลังปั่นป่วนหัวใจ แท้จริงแล้วผู้ชายคนนี้คือใคร แล้วมีความแค้นอะไรกับพี่ชาย รวมถึงเขาเป็นคนยังไงกันแน่
“คุณไม่กลัวฉันแจ้งความเหรอ ถ้าปล่อยฉันไป”
เขาเหลือบมอง “มันเป็นสิทธิ์ของคุณที่จะทำแบบนั้น ผมไม่ห้ามหรอก อย่างมากผมก็ติดคุกแค่นั้น เพราะผมทำผิดจริง”
พิชญาภาสับสน ตกลงเขาไม่กลัวหรือไงกัน ชายหนุ่มลุกยืน สบตาคนตัวเล็ก
“ไปกันเถอะ”
ตัดสินใจก้าวตามเงียบ ๆ ครุ่นคิดตลอดเวลา กระทั่งถึงรถที่จอดอยู่ เธอนั่งเบาะหลังคู่กับเขา รถเคลื่อนไปไม่ถึงสิบนาที เลี้ยวเข้าจอดที่บ้านหลังเล็กริมธาร อรัญกรณ์เดินนำมายังระเบียงใกล้ไม้ใหญ่ เห็นหญิงสาวคนหนึ่งกำลังนั่งวาดรูปอยู่ ท่าทางเหม่อลอย เขาก้าวไปถึงย่อกายแล้วดึงมือมากุมไว้
“อินพี่มาหาแล้ว”
เธอหันมาสบตา แล้วยิ้มบาง ๆ
“พี่อรัญ”
“เป็นยังไงบ้างวันนี้” เขาถามน้ำเสียงอ่อนโยน
“สบายดีค่ะ”
เขาลุกยืน หันมาทางหญิงสาว เธอสับสน ผู้หญิงคนนี้คือน้องสาวของเขางั้นเหรอ
“เขามาสิคุณ”
เธอยอมทำตาม “ค่ะ”
หยุดยืนตรงหน้า อินทุอรเงยหน้าสบตา แล้วมองพี่ชาย
“นี่ใครคะ”
“เพื่อนพี่น่ะ”
อินทุอรยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ”
พิชญาภารีบรับไหว้ สีหน้าสับสน ตกลงเขาต้องการอะไรกันแน่
“สวัสดีค่ะ ฉันชื่อพิชญาภา เรียกพีชเฉย ๆ ก็ได้นะคะ”
คนฟังยิ้มกว้าง “ค่ะคุณพีช”
อรัญกรณ์เหลือบมอง เป็นครั้งแรกที่ได้ยินเธอพูดชื่อตัวเองออกมา ต่อให้เขารู้ว่า เธอคือใครก็ตาม แต่ก็ไม่เคยเรียกขานพิชญาภาด้วยชื่อมาก่อนเลย เขามองน้องสาว แล้วยิ้มอ่อนโยน
“วันนี้อยากทานอะไรไหม ไว้พี่แสดงฝีมือเอง”
“แกงส้มค่ะ พี่อรัญทำแกงส้มอร่อยที่สุด”
“ได้เลย”
อรัญกรณ์รั้งข้อมือบางให้ก้าวตาม อินทุอรมองตามด้วยความสงสัย ก่อนอมยิ้มน้อย ๆ เมื่อคิดว่าพี่ชาย คงได้เจอผู้หญิงที่ถูกใจแล้ว เธอคนนั้นหน้าตาสะสวย แถมท่าทางเรียบร้อย ไม่เหมือนคนก่อนหน้านั้น
สองร่างเดินเคียงกันมายังห้องครัว สีหน้าพิชญาภาครุ่นคิดตลอดเวลา ไม่เข้าใจว่าทำไมต้องพาเธอมาพบกับน้องสาวของเขาด้วย อรัญกรณ์ค้นผักในตู้ กับปลาที่สั่งให้แม่ครัวซื้อไว้ให้ก่อนหน้า แล้วจัดการลงมือทำปลา
“ช่วยผมล้างผัก แล้วก็หั่นหน่อย”
เธอชะงัก สีหน้างุนงง ก่อนลงมือช่วยเขาล้างผัก
“น้องสาวของผม เคยเป็นแฟนของพี่ชายคุณ”
มือบางหยุดชั่วขณะ หันมองเขาสีหน้าสับสน
“ทำไมฉันไม่เคยรู้เลย”
“ผมไม่รู้ว่าคุณกับพี่ชาย คุยกับทุกเรื่องหรือเปล่า”
“แล้วมันเกิดอะไรขึ้นคะ ทำไมน้องสาวคุณถึงนั่งรถเข็นแบบนั้น” เธอถามสีหน้าเครียด หวังว่าคงไม่เพราะพี่ชายหรอกนะ
“อุบัติเหตุน่ะ” เขาหันมาสบตาแล้วระบายลมหายใจ “วันที่น้องสาวผม พบว่าพี่ชายคุณหลอกลวง แล้วมีผู้หญิงอีกคน”
ร่างกายชาวาบ พิชญาภามองเขาน้ำตาคลอ พี่ทำจริงเหรอ ทำไมเป็นแบบนี้เล่า
“พี่ชายฉัน ทำร้ายน้องสาวของคุณเหรอคะ”
“ผมไม่ได้ต้องการให้พี่คุณมารับผิดชอบ อย่างน้อยก็สำนึกผิดต่อสิ่งที่ทำกับน้องสาวผมบ้าง แต่ไม่เลย พี่คุณหายหัวไปไหนก็ไม่รู้ ไม่ติดต่อ ไม่ส่งข่าว ไม่แม้แต่จะมาเยี่ยม น้องสาวของผมที่ปางตายเพราะเขา!”
มือบางสั่นเทา มองใบหน้าอีกฝ่าย ที่มีแต่ความปวดร้าวในนั้น พิชญาภาก้มหน้าเก็บซ่อนความรู้สึกทุกข์ทรมานเอาไว้ เมื่อก่อนพี่ชายไม่ใช่คนเจ้าชู้เลย แต่พักหลังพี่เปลี่ยนไป ราวกับมีเรื่องหนักหนามากระทบ
“ฉันไม่รู้เลย ว่าพี่มีแฟนกี่คน หรือเคยทำร้ายใครมาบ้าง” เธอตอบเสียงสั่น
“ไม่แปลกหรอก ที่มันจะเป็นแบบนั้น เพราะพี่ชายคุณคงไม่คิดเล่าเรื่องที่ตัวเลวให้ใครฟัง!”
คนฟังสะอึกพูดไม่ออก รู้นิสัยพี่ชายตัวเองดี ว่าเป็นคนเช่นไร แต่ไม่คิดเลยว่าพี่ จะทำกับผู้หญิงคนหนึ่งถึงขนาดนี้ได้ ไม่รู้ควรเอ่ยคำใด เพราะในอกมันแน่นไปหมด
“ฉันเข้าใจคุณดี และฉันเองก็ไม่รู้ว่าจะพูดยังไง ให้คุณดีขึ้น” พิชญาภาตอบกลับเสียงเบา แววตาหม่น
ชายหนุ่มเหลือบมอง ก่อนระบายลมหายใจ
“มันไม่ใช่ความผิดคุณ ผมรู้ดี” สีหน้าคนพูดเครียดขึ้น พี่กับน้องไม่เหมือนกันเลยสักนิด มีเพียงหน้าตาที่ละม้ายคล้ายกันเท่านั้น “แต่ผมไม่มีทางเลือก ถ้าผมไม่ทำแบบนี้ พี่คุณไม่มีวันมายอมรับความผิดแน่นอน”
“คุณคิดเหรอคะว่า ถ้าพาตัวฉันมา แล้วพี่จะยอมรับผิด”
“ก็ไม่ได้อยากให้พี่คุณมายอมรับอะไรหรอก แค่ให้มันรู้สึก ถึงสิ่งที่มันทำ ก็เท่านั้นเอง!” เขากัดฟันกรอด ทำเอาพิชญาภาหนาว ๆ ร้อน ๆ
เขาเหลือบมองคนตัวเล็ก เห็นสีหน้าท่าทางซึมลง ทำเอาหัวใจสั่นไหว
“ทำกับข้าวกันต่อเถอะ น้องสาวผมคงหิวแล้ว”
คนฟังชะงัก “ได้ค่ะ”
พิชญาภาช่วยงานในครัวเต็มที่ ปกติแล้วเป็นคนชอบทำอาหาร ให้พ่อทาน เลยไม่ค่อยลำบากเท่าไหร่ หากต้องทำ ปลาทอดราดพริก แกงส้ม เสร็จเรียบร้อย เขากอดอกมองดู แล้วอมยิ้ม
“คุณทำอาหารเก่งเหมือนกันนะเนี่ย”
“ฉันชอบทำน่ะค่ะ” เธอตอบแล้วยิ้มกว้าง