มื้ออาหารผ่านไปทุกคนก็มานั่งคุยกันถึงเหตุผลที่นัดกันมาในครั้งนี้ ไป๋ฟางเซียนเอ่ยชื่นชมตระกูลฮุ่ยทันทีที่มีความสามารถคิดทำเครื่องปรุงขึ้นมาได้ “ตระกูลฮุ่ยเก่งกาจนักที่คิดทำเครื่องปรุงรสชนิดต่าง ๆ ขึ้นมาได้ นำไปปรุงอาหารคราใดได้รสชาติเลิศรสทุกที” “เจ้าพูดเกินไปแล้วฟางเซียน ตระกูลของข้าหาได้เก่งกาจเช่นนั้นไม่ คำชมนี้ข้ามิกล้ารับ” ด้วยความที่กินข้าวด้วยกันและระหว่างมื้ออาหารต่างก็พูดคุยแลกเปลี่ยนกันพอสมควร นิสัยใจคอหรือล้วนเข้ากันได้ดี จึงได้นับกันเป็นสหายอีกคน ฮุ่ยหลินจึงกล้าเรียกอีกฝ่ายด้วยความสนิทสนม ส่วนคำชมที่นางบอกว่าไม่กล้ารับก็เพียงแค่คำพูดหยอกเย้ากันเล่นเท่านั้น เพราะใบหน้าของนางแสดงออกมาชัดเจนว่ารู้สึกภูมิใจแค่ไหนที่ผลิตเครื่องปรุงรสนี้ออกมาได้ “ข้าพูดจริงนะหลินหลิน อาหารที่เราเพิ่งกินกันไปก็เป็นเจ้าไม่ใช่หรือที่คิดขึ้นมา” ไป๋ฟางเซียนยังไม่ลดละ นางเอ่ยชมอีกฝ่ายด้วยใจจริง ทว่าก็