ดวงตาคู่หวานไหวสั่นระรัว ความกลัวแล่นพล่านไปทั้งหัวใจ หญิงสาวมองจ้องคนตรงหน้า แววตาของเจ้าหล่อนหวาดหวั่นอย่างเห็นได้ชัด
“เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อนใช่ไหมคะ คุณแค่กำลังแกล้งฉัน ใช่ไหม..” เธอภาวนาให้มันเป็นเช่นนั้น
เฉินหมิงส่ายหน้า “มะปรางฟังเฮียนะ เราเคยพบกันมาแล้วก่อนหน้าที่เฮียกับปรางจะเจอกันที่ร้านพร้อมคุณกวาง”
หยาดน้ำใสไหลออกมาจากดวงตาคู่งามทั้งสองข้าง เรื่องราวในวันนั้นพลันผุดขึ้นมาในหัว สิ่งที่ปารวตีพยายามหนีมันมาตลอด วันนี้.. มันตามมาหลอกหลอนเธออีกแล้ว
“ทำไมคะ ทำไมคุณไม่ลืมมันไปซะ จะพูดขึ้นมาอีกทำไม”
..เฉินหมิง
เจ้าของนามบัตรสีดำทองใบนั้น เป็นเขา เป็นเขาจริงๆ
“เรื่องนั้นมันจบไปตั้งนานแล้ว คุณจะรื้อฟื้นขึ้นมาอีกทำไม!”
มันควรจะเป็นเช่นนั้น ถ้าหาก.. เขาไม่ต้องการสานสัมพันธ์กับเจ้าหล่อน
“เฮียอยากรับผิดชอบ”
“เฮอะ! ถ้าคุณคิดแบบนั้นจริงๆ ตื่นมาฉันคงไม่ต้องนั่งตั้งคำถามว่าตัวเองนอนกับใคร ฉันคงไม่ต้องฟูมฟายร้องไห้เป็นอีบ้าอยู่คนเดียว อย่าว่าแต่คำอธิบายเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แม้แต่หน้าคุณ ฉันยังไม่เห็น”
“เฮีย..” เขาไม่อาจแก้ตัวอะไรได้ เพราะคราแรกตั้งใจจะจบแค่ตรงนั้น “เฮียขอโทษ”
“ไม่ต้องมาขอโทษ” เจ้าหล่อนสวนกลับทันควัน “ที่อโคจรกับความสัมพันธ์ฉาบฉวย ฉันจะพยายามคิดว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา หรือถ้าคุณรู้สึกผิดกับฉันจริงๆ ก็กรุณาอย่ายุ่งกับฉันอีก”
ทันทีที่พูดจบ ปารวตีก็ลุกขึ้นแล้วเตรียมเดินหนีจากตรงนั้น แต่ทว่า..
“ปล่อยฉันนะ!”
ข้อมือเล็กถูกฉุดรั้งไว้เพื่อไม่ให้เจ้าของมันหนีไปไหนได้
“คุยกันให้รู้เรื่องก่อน เฮียอาจจะผิดที่ทิ้งมะปรางไว้แบบนั้น แต่ตอนนี้เฮียอยากรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ นะ” เขาไม่ได้เป็นคนดีอะไรหรอก แค่รู้สึกชอบปารวตีก็เท่านั้น
“ไม่ต้องค่ะ ฉันไม่ต้องการ ฉันต้องการแค่ให้คุณอยู่ห่างจากฉัน ไม่ต้องมายุ่ง ไม่ต้องมาพูดคุย ทำเหมือนเราสองคนอยู่กันคนละโลกได้ยิ่งดี”