“สิบล้านจริงเหรอพี่”
นวลจันทร์หน้าหมอง กินไม่ได้นอนไม่หลับตั้งแต่รู้ตัวว่าท้อง ครรภ์สองเดือนยังเล็กมาก เดินไปไหนมาไหนยากที่คนทั่วไปจะจับผิดได้ด้วยตาเปล่า รังรักของนวลจันทร์กับเมฆไม่ใช่เรือนหอหลังใหญ่ที่อัคราสร้างไว้อยู่กินด้วยกัน แต่เป็นบ้านปูนชั้นเดียวหลังเล็กกะทัดรัดของเมฆ
“ตาดำมันปากสว่างเอามาโม้ในวงเหล้า เอ็งอยู่บ้านทั้งวัน ไม่เห็นเหรอวะ ผัวของเอ็งเอาเงินมากมายขนาดนั้นเข้ามาในบ้าน”
“ฉันไม่เห็นเงินเลยพี่ แต่เห็นพี่อัคสะพายกระเป๋าใบใหญ่ลงจากรถ มากับตาดำ พี่อัคไม่กินข้าวเที่ยงกับฉันด้วยซ้ำ รีบร้อนเข้าเหมือง ช่วงหลังมานี้ พี่อัคไม่คุยกับฉันเลย เขามองฉันด้วยสายตาแปลกๆ พี่เมฆ ฉันกลัวจังเลย ถ้าพี่อัคจับได้ เราไม่ตายกันทั้งคู่เหรอพี่”
“ข้ากลัวจะเป็นอย่างที่เอ็งพูด” เขาประสบปัญหาเดียวกัน
อัคราหมางเมินต่อเขามากขึ้นทั้งที่เคยไว้ใจเขามากกว่าใคร จากเคยไว้ใจให้จัดการธุระเรื่องเงิน และเอกสารสำคัญ ตอนนี้อัคราให้ลุงครามกับลุงพร้าวเข้ามาจัดการแทน ส่วนเรื่องเงินอัคราจัดการเองทั้งหมด จะหนึ่งแสนหรือหนึ่งล้านไม่ให้เมฆแตะต้องเหมือนเมื่อก่อน
“หนีไปกับข้าเถอะนะ ข้าขอร้อง ข้าจะดูแล ให้เอ็งกับลูกมีความสุข” เขาจูบบนกระหม่อมบาง ดึงตัวเมียรักของนายอัคมากอด
นวลจันทร์น้ำตาคลอ “ให้หนีไปไหนล่ะพี่ ที่นี่บ้านเกิดฉัน”
“บ้านเกิดข้าไม่มีญาติพี่น้องเหลือแล้ว ข้ามีแค่เอ็ง เราหนีไปกรุงเทพฯ ด้วยกัน ข้าอยากส่งข่าวลูก ให้ลูกระวังตัว ก่อนพาเอ็งหลบไปอยู่ที่ไหนสักที่ อาจจะภาคเหนือ ให้ไกลจากเงื้อมือนายอัค”
“ไปแล้วจะเอาอะไรกินล่ะพี่ หรือพี่คิดจะ...”
“เงินนั่นจะช่วยให้เอ็งกับลูกมีชีวิตสุขสบาย เชื่อข้านะนังนวล”
นวลจันทร์ไม่มีทางเลือก หล่อนอยู่เป็นเมียอัคราต่อไปไม่ได้อีกแล้ว เพราะท้องโตขึ้นทุกวัน ถ้าไม่อยากตายต้องหนีไปกับชายชู้สถานเดียว
ไหนๆ ก็จะหนี สู้หนีไปพร้อมเงินจะไม่ดีกว่าเหรอ
พลบค่ำ ถึงเวลานัดแนะชายชู้ นวลจันทร์ออกอุบายให้เด็กรับใช้เอาของป่าที่คนงานหามาได้ไปให้ย่าสะอาดที่อยู่หมู่บ้านไกลออกไป
ส่วนคนงานเฝ้าบ้านผู้ชาย เมฆเข้ามาขอแรงพวกมันไปช่วยงาน ฉวยโอกาสตอนพวกมันเผลอย้อนกลับมาหานวลจันทร์
“เอ็งไปดูต้นทาง”
“จ้ะ เร็วๆ นะพี่”
รหัสตู้เซฟถูกเปลี่ยนทุกเดือน หรือทุกสัปดาห์ตามแต่ความถี่ที่เจ้าของกลับมาบ้าน รหัสมักจะเป็นตัวเลขเดิมสลับหน้าหลังไปมา
เมฆทำงานรับใช้อัครามานานรู้จักนิสัยเจ้านาย การลักลอบเข้ามาขโมยของในบ้านจึงเป็นไปง่ายดาย
เสียงกริ๊ก! ดังเบาๆ มวลความสุขแผ่กระจายทั่วใบหน้าชื้นเหงื่อของชายวัยกลางคนกับหญิงสาวอายุอ่อนกว่ายี่สิบปี
“เปิดได้แล้วนังนวล!”
นวลจันทร์วิ่งเข้ามาดูกองเงินสูงถึงเพดานตู้เซฟ
“เงินทั้งนั้นเลยพี่เมฆ”
“เรารวยกันแล้วนังนวล!”
“เอาทองไปด้วยนะพี่”
“เออ อย่ามัวชักช้า โกยเข้ากระเป๋าช่วยข้า เร็วเข้า!”
เขาเข้ามาเปิดเซฟในบ้านเพื่อเอาเงินไปส่งเจ้านายหลายครั้ง แต่เพิ่งจะเคยเห็นกองเงินมากมายมหาศาลเช่นนี้
มือสั่นๆของเมฆแหกซิปกระเป๋าเป้ความจุสี่สิบลิตร ช่วยกันกับนวลจันทร์โกยเอาเงินแบงค์พันมาใส่ในกระเป๋า
“ไปไหนของเอ็งนังนวล มาช่วยข้าก่อน”
เมฆเสียสติอยู่กับกองเงินเพิ่งจะสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวผิดปกติของนวลจันทร์ ที่มันเอาหน้างามๆ ใบนั้นมุดเข้าไปในซอกผ้าม่านขนาดเล็ก เพื่อมองผ่านช่องหน้าต่างไปทางผืนป่าใหญ่
“พี่...” น้ำเสียงหวั่นวิตกจากสาวงามประจำหมู่บ้านผ่านเข้ามาในโสตประสาทเมฆ
“เอ็งมาช่วยข้าเร็วเข้าเราจะได้รีบไป”
“ไม่ทันแล้วพี่... พี่อัคไม่ได้ไม่รู้เรื่องของเรา แต่เขาล่อเรามาติดกับ!” ซึ่งตอนนี้มีกระบะโฟร์วีลยกสูงขับเข้ามาเป็นกองทัพ
“พูดอะไรของเอ็ง” เมฆตามไปประเมินสถานการณ์
“เวรเอ๊ย!” เขาสบถดัง
มันแย่กว่าที่เขาคาดการณ์ไว้ ลำคอนายเมฆกับนวลจันทร์แห้งไม่เหลือน้ำลายให้กลืน รับรู้ถึงวาระสุดท้ายของชีวิต หากอัคราจับได้
ทั้งเขาและนวลจันทร์มีแต่จะต้องตาย!