กรุงลอนดอน
มาดามแคทเธอลีนนั่งมองหน้าว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยสายตาชื่นชมในความสวยยิ่งนัก ท่วงท่าวาจาที่ได้พูดคุยกันทำให้นางนึกภูมิใจตนเองไม่น้อยที่คิดไม่ผิดในการเลือกคู่ครองให้กับลูกชายในครั้งนี้
“หนูซานด้านี่สวยน่ารักถูกใจดิฉันจริงๆ เลยนะคะ ดิฉันไม่เคยคิดเลยว่าคุณโมนิก้าจะมีลูกสาวสวยถึงขนาดนี่ แล้วนี่เรียนจบมาทางด้านไหนละคะเนี่ย?”
มาดามแคทเธอลีนเปิดฉากสนทนาทันที นางอยากจะรู้จักหญิงสาวตรงหน้านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ รอยยิ้มที่ถูกแต่งแต้มขึ้นของสองแม่ลูกเจื่อนลงเล็กน้อย อเล็กซานด้านั้นยังเรียนไม่จบปริญญาตรี ตลอดระยะเวลาที่หญิงสาวไปศึกษาเล่าเรียนอยู่ที่อเมริกานั้น ช่วงปีแรกที่ไปเรียนก็ยังตั้งใจศึกษา หากแต่มาช่วงสามปีให้หลังหญิงสาวจะหนักไปทางเที่ยวเตร่เฮฮาหลงไปกับแสงสีเสียมากกว่า ที่สำคัญหากหญิงสาวพอใจชายหนุ่มที่มาติดพันเธอเข้า อเล็กซานด้าก็พร้อมที่จะร่วมหลับนอนกับชายคนนั้นอย่างเต็มใจ
และเพราะพฤติกรรมของหญิงสาวที่เป็นเช่นนี้ทำให้คนเป็นแม่อย่างโมนิก้าต้องเรียกตัวให้อเล็กซานด้าเดินทางกลับมาอังกฤษโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะจับใส่ตะกร้าล้างน้ำแล้วย้อมสีใหม่ให้เป็นสาวบริสุทธิ์ผุดผ่องเพิ่งเรียนจบกลับมาแล้วหาผู้ชายรวยๆ มาแต่งงานกับลูกสาวของตน และเหยื่อหน้าโง่ที่โมนิก้าเลือกไว้ก็คือมาดามแคทเธอลีนนั่นเอง
“ซานด้าจบธุรกิจระหว่างประเทศมาน่ะค่ะ”อเล็กซานด้าพูดบอกในสาขาวิชาที่ตนเองเคยร่ำเรียนมาในช่วงปีแรกให้กับมาดามแคทเธอลีนได้ฟัง
“พอดีเลย จบทางด้านธุรกิจระหว่างประเทศมาซะด้วย สนใจอยากไปช่วยงานของลูกชายป้าบ้างหรือเปล่าล่ะ ตอนนี้มาคัสไปดูแลงานที่เมืองไทยอยู่ เป็นบริษัทเดินเรือที่คุณลุงเขาเพิ่งจะเปิดใหม่ได้ประมาณสามปีนี่เอง ถ้าหนูซานด้าสนใจป้าจะให้ไปเป็นผู้ช่วยของมาคัส ตกลงอยากไปทำงานกับลูกชายป้าที่เมืองไทยกับหรือเปล่า?” มาดามแคทเธอลีนถามหยั่งเชิง
“พอดีเลยค่ะมาดาม ลูกซานด้าของดิฉันก็กำลังมองหางานอยู่พอดีเลย บอกให้พักก่อนก็ไม่ยอม กลับมาถึงอังกฤษก็อยากจะทำงานเลย ก็อย่างนี้แหละค่ะ เด็กเพิ่งเรียนจบมาใหม่ๆ ไฟกำลังแรง”
โมนิก้าพูดบอกแทนลูกสาว หวังสร้างเครดิตให้ลูกรักดูดีที่สุดในสายตาของมาดามแคทเธอลีน
“แบบนี้สิคะดี พอเรียนจบแล้วก็อยากที่จะทำงานดีกว่าอยู่เฉยๆ แล้วปล่อยให้วิชาความรู้ที่อุตส่าห์ร่ำเรียนมาสูญเปล่าประโยชน์ไป แบบนี้สิคะถึงจะเหมาะ”
มาดามแคทเธอลีนพูดเสียงหนักในประโยคสุดท้าย ใบหน้าสวยสมวัยยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนดั่งได้ของที่ถูกใจ
“เหมาะ...เหมาะอะไรหรือคะคุณป้า”อเล็กซานด้าถามขึ้น ทำทีใสซื่อไม่รู้ความหมายของคำพูดที่มาดามแคทเธอลีนพูดออกมา ทั้งๆ ที่ก็รู้ดีแก่ใจว่านางหมายถึงอะไร
“ก็เหมาะที่หนูซานด้าจะมาเป็นลูกสะใภ้ของป้าน่ะสิจ๊ะ”
“แหม...คุณป้าก็...”อเล็กซานด้าแกล้งทำท่าทีขวยเขินแล้วหันไปสบตากับโมนิก้ามารดาของตน ก่อนที่โมนิก้าจะแกล้งทำเป็นขำขันแล้วย้อนถามกลับไปอีกครั้ง
“แหม...คุณแคทเธอลีนก็ ไม่น่าจะมาแกล้งเย้าลูกซานด้าเลยนะคะ ดูสิลูกแม่หน้าแดงไปหมดแล้ว”
“แกล้งเย้าอะไรกันล่ะคะคุณโมนิก้า ดิฉันพูดจริงต่างหาก ดิฉันอยากจะได้ลูกสาวคุณโมนิก้ามาเป็นลูกสะใภ้จริงๆ ค่ะ” มาดามแคทเธอลีนย้ำเสียงหนัก
“อ้าว นี่เรื่องจริงหรือคะเนี่ย ถ้าอย่างนั้นก็ต้องขอบคุณคุณแคทเธอลีนอย่างมากเลยนะคะ ที่เมตตาลูกซานด้าของดิฉัน”
“เอ่อ...คุณแม่คะ ซานด้าว่ามันจะไม่เหมาะมั้งคะ ซานด้ายังไม่เคยรู้จักกับคุณมาคัสลูกชายของคุณป้าแคทเธอลีนเลย ซานด้ากลัวคุณมาคัสจะไม่ชอบและไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้น่ะสิคะ” อเล็กซานด้าพูดออกตัวอย่างไว้เชิง
“เรื่องนี้หนูซานด้าไม่ต้องเป็นห่วงเลย เดี๋ยวป้าจะจัดการเอง มาคัสเขาไม่กล้าขัดใจมัมของเขาหรอก” มาดามแคทเธอลีนพูดออกมาอย่างมั่นใจ ก่อนจะคิดแผนการดีๆ ขึ้นมาในหัวสมองได้แล้วพูดขึ้นว่า
“เอาอย่างนี้ดีมั้ย อาทิตย์หน้าป้ากับคุณคารอสจะไปที่เมืองไทยกัน จะตามไปดูงานที่บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์และบริษัทเดินเรือที่มาคัสกำลังดูแลอยู่ พูดง่ายๆ คืออยากจะไปหาลูกน่ะค่ะ ถ้าคุณโมนิก้ากับหนูซานด้าว่างก็ขอเชิญนะคะ อีกอย่างจะได้ไปทำความรู้จักกับมาคัสด้วยเลย หนูซานด้าสนใจอยากไปเที่ยวพักผ่อนที่เมืองไทยบ้างหรือเปล่าล่ะ”
มาดามแคทเธอลีนพูดถามพร้อมกับยิ้มหวานให้กับว่าที่ลูกสะใภ้ที่นั่งอยู่ตรงหน้า สองแม่ลูกมองหน้ากันก่อนที่คนเป็นแม่จะกระซิบกระซาบบางอย่างให้พอได้ยินกันแค่สองคน
“แกมีเงินติดตัวกลับมาบ้างหรือเปล่ายัยซานด้า”
“ซานด้าไม่มี! แล้วคุณแม่ล่ะมีเงินหรือเปล่า ซานด้าจะได้ตอบยัยป้านี่ถูก”
“มีกับผีน่ะสิ ที่มีอยู่นี่ก็ไม่รู้ว่าจะกินไปได้สักกี่วันกันเชียว” สองแม่ลูกยังปรึกษากันไม่เสร็จ
มาดามแคทเธอลีนเห็นอาการของคนทั้งคู่ก็กลัวว่าจะเสียแผนการจับคู่ของลูกชายในครั้งนี้ จึงรีบพูดออกไป
“หนูซานด้ากับคุณโมนิก้าไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะเสื่อมเสียชื่อเสียงไปหรอกนะคะ ไปกับตระกูลเกรฟเว่นไม่มีใครกล้าตำหนิหรอก ที่สำคัญไปเมืองไทยครั้งนี้ดิฉันจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้เองทั้งหมด เพราะถือว่าเป็นคนชวนไป คุณโมนิก้าสบายใจได้นะคะ”
สองแม่ลูกยิ้มแก้มแทบปริ แต่ก็พยายามเก็บอาการเอาไว้ก็ที่โมนิก้าจะรีบพูดขึ้นอย่างไว้ฟอร์ม
“อุ้ย เรื่องค่าใช้จ่ายน่ะไม่สำคัญหรอกค่ะคุณแคทเธอลีน เงินเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น แต่ที่ดิฉันกับลูกต้องปรึกษากันก็เพราะว่ากลัวคนอื่นเขาจะดูถูกซานด้าลูกสาวของดิฉันต่างหากละคะ แต่ถ้าคุณแคทเธอลีนรับรองถึงขนาดนี้ดิฉันกับลูกก็ยินดีที่จะไปเมืองไทยกับคุณแคทเธอลีนและคุณคารอสค่ะ”
“ขอบคุณคุณป้าแคทเธอลีนมากนะคะที่พร้อมจะปกป้องเกียรติของซานด้า ซานด้ายินดีไปเมืองไทยกับคุณป้าตามคำเชิญค่ะ”
มาดามแคทเธอลีนยิ้มออกมาในทันที ทีนี้ก็เหลือแต่แค่มาคัสลูกชายของนางเท่านั้น
“ถ้าอย่างนั้นอีกหนึ่งอาทิตย์เราก็เตรียมตัวเดินทางไปเที่ยวประเทศไทยกันได้เลยนะคะ”
หญิงต่างวัยทั้งสามคนยังคงนั่งสนทนาก็ต่อไปอีกพักใหญ่ ก่อนที่สองแม่ลูกจะเป็นฝ่ายขอตัวกลับก่อนเมื่อเห็นรถยุโรปราคาแพงของคารอสขับเลี้ยวเข้ามายังคฤหาสน์เกรฟเว่น
มาดามแคทเธอลีนรีบเดินตรงดิ่งเข้าไปหาสามีในทันที เพื่อบอกข่าวดีให้ได้รู้ว่านางหาผู้หญิงที่จะมาเป็นลูกสะใภ้ได้แล้ว
“คุณคะคุณ ฉันหาลูกสะใภ้ได้แล้วนะคะ”
มาดามแคทเธอลีนเดินเข้าไปคล้องที่แขนของคารอสผู้เป็นสามีด้วยใบหน้ายิ้มระรื่น ก่อนจะพาเดินกลับมานั่งที่ห้องรับแขกในมุมส่วนตัวของครอบครัว ผิดกับคารอสที่มองหน้าภรรยาของตนนิ่งๆ อย่างอึ้งๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“นี่คุณพูดจริงๆ เหรอแคทเธอลีน ผมนึกว่าคุณพูดขู่มาคัสลูกเราเล่นๆ ซะอีกนะ”
“พูดเล่นที่ไหนละคะ ฉันพูดจริงๆ แล้วอาทิตย์หน้าฉันก็ชวนคุณโมนิก้ากับหนูซานด้าไปเมืองไทยด้วยกันกับเราแล้วด้วย”
“ห๊ะ! อะไรนะ! คุณว่าคุณชวนใครนะ!”คารอสถามย้ำกับภรรยาอีกครั้ง ก่อนจะหย่อนกายลงนั่งบนเก้าอี้รับแขก โดยมีร่างของมาดามแคทเธอลีนนั่งลงตามที่เก้าอี้ตัวข้างๆ
“ก็ฉันชวนคุณโมนิก้ากับหนูซานด้าไปเมืองไทยด้วยกันกับเราค่ะ แล้วทั้งคู่ก็ตกปากรับคำกับฉันแล้วด้วย และคุณก็ห้ามโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องในบ้าน เพราะฉะนั้นฉันใหญ่ที่สุด”
“ผมรู้ว่าเรื่องนี้คือเรื่องในบ้านไม่ใช่เรื่องงานที่บริษัทฯ แต่ผมว่าคุณน่าจะคิดทบทวนดูหน่อยก็ดีนะ ยังไงเรื่องคู่ชีวิตก็น่าที่จะให้ลูกเป็นคนเลือกเอง แล้วก็ผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ครองของลูกเราผมว่าคุณน่าจะตรวจสอบให้มันมากๆ หน่อยก็ดีนะ อีกอย่างมาคัสก็มีคนรักอยู่ที่เมืองไทยอยู่แล้ว ยังไงลูกก็ไม่เลือกผู้หญิงที่คุณหาให้หรอกเชื่อผมสิ”
คารอสพูดบอกออกมาอย่างเป็นกลาง แต่จะให้ค้านภรรยานั้นเขาคงไม่ทำ เพราะถึงจะค้านได้ในตอนแรก ตอนหลังก็ต้องยอมอยู่ดีเพราะว่ากลัวเมียรักจะเสียใจ จนต้องยอมให้กับเธอมาโดยตลอด และคารอสเองก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นการเพาะนิสัยที่เอาแต่ใจให้เกิดขึ้นกับมาดามแคทเธอลีนเมียรักของเขาได้มาจนถึงทุกวันนี้
มาดามแคทเธอลีนถึงกับอ้ำๆ อึ้งๆ ขึ้นมาทันที นางไม่กล้าที่จะพูดย้อนกลับใส่สามี เมื่อเขาพูดถึงคนรักของมาคัสที่อยู่ทางเมืองไทย จะพูดได้ยังไงล่ะ ก็ในเมื่อนางเป็นคนไปไล่ให้ผู้หญิงคนนั้นลาออกจากบริษัทฯ ของครอบครัวแล้วยังให้ย้ายหนีไปอยู่ที่อื่นอีก ถ้าไม่ทำตามที่นางสั่ง นางก็จะส่งคนไปข่มขู่ให้อยู่ไม่ได้ นางอุตส่าห์ใจดีให้เงินไปตั้งตัวตั้งก้อนหนึ่ง แต่แม่นั่นก็หยิ่งไม่ยอมรับเงิน แต่ยอมทำตามในสิ่งที่นางต้องการ จนถึงบัดนี้นางยังไม่เคยได้ข่าวคราวของแม่นั่นอีกเลย และนี่ก็ผ่านมาสองปีกว่าแล้ว แม่นั่นคงแต่งงานมีลูกมีสามีใหม่ไปแล้วละมั้ง
ใจจริงแล้วนางก็ไม่ใช่คนที่ใจร้ายไส้ระกำอะไรนัก ก็พ่อลูกชายสุดรักสุดหวงมาบอกกับนางว่าจะขอย้ายไปอยู่เมืองไทย จะไม่มาทำงานที่อังกฤษอีกแล้ว เมื่อถามว่าเพราะอะไร มาคัสก็บอกว่าเพราะเขาจะแต่งงานกับหญิงสาวคนรักที่เป็นคนไทยทันทีที่กลับไปถึงเมืองไทยในครั้งนี้ ซึ่งนางยอมไม่ได้อย่างเด็ดขาดที่ลูกรักจะทิ้งพ่อทิ้งแม่ไปอยู่ที่อื่น
และที่สำคัญนางอยากจะเป็นคนหาเมียให้กับลูกเองและจะต้องได้ผู้หญิงที่เหมาะสมด้วยชาติตระกูล และทรัพย์สินเงินทองเสมอหน้ากัน ไม่ใช่ไปคว้าเอาผู้หญิงที่ไม่มีหัวนอนปลายเท้าอย่างแม่เพชรลดานั่นมาเป็นเมีย เป็นแค่พนักงานภายในบริษัทฯ ของนางเท่านั้น ริอ่านอยากจะยกระดับตัวเองให้ขึ้นมานั่งแทนเป็นภรรยาของลูกชายเจ้าของบริษัทฯ ฝันไกลเกินไปซะแล้ว
“ไม่รู้ล่ะ คุณไม่ต้องพูดอะไรทั้งนั้น ฉันดูดีที่สุดแล้ว และเห็นว่าหนูซานด้าเหมาะกับมาคัสลูกชายของเรามากที่สุด ยังไงคุณก็ให้เลขาจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินของหนูซานด้ากับคุณโมนิก้าเพิ่มด้วยนะคะ แล้วอย่าทำให้ฉันต้องขายหน้าล่ะ”
พูดจบมาดามแคทเธอลีนก็รีบลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วเดินผละจากไป ไม่สนใจใบหน้าอิหลักอิเหลื่อของคารอสผู้เป็นสามีเลยว่าเป็นเช่นไร คารอสรู้สึกอึดอัดไปกับสิ่งที่เมียรักกระทำ เขาอยากจะบอกกับนางเหลือเกินว่าอเล็กซานด้าและโมนิก้า สองคนแม่ลูกคู่นี้ไม่ได้ดีหรือร่ำรวยเหมือนอย่างที่เห็น
ตรงกันข้าม ฝ่ายโมนิก้าผู้เป็นแม่นั้นติดการพนันอย่างงอมแงม ทรัพย์สมบัติของตระกูลที่มีอยู่ประดับประดาบ้านเรือนก็มีแต่ของปลอมทั้งนั้น คฤหาสน์เก่าแก่ที่อาศัยอยู่นั้นก็กำลังจะถูกธนาคารยึดเพราะขาดผ่อนส่ง
ที่เขารู้ก็เพราะเพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของธนาคารที่โมนิก้านำคฤหาสน์ไปจดจำนองไว้บอกเขามาเมื่อไม่นานที่ผ่านมานี่เอง และที่เรื่องยังเงียบอยู่ไม่เป็นที่แพร่งพรายออกไปก็เพราะเห็นแก่สามีของนางโมนิก้าที่เสียชีวิตไปแล้ว ได้เคยให้ความช่วยเหลือมาก่อน ตั้งแต่เมื่อครั้งสมัยที่เพื่อนของเขายังไม่ร่ำรวยจนได้มาเป็นเจ้าของธนาคารใหญ่โตมาจนถึงทุกวันนี้
ส่วนลูกสาวก็เพิ่งเดินทางกลับมาจากอเมริกา รายนั้นก็เรียนไม่จบ เอาแต่เที่ยวเตร่ ใช้เงินฟุ่มเฟือย และที่สำคัญที่สุด หญิงสาวนอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้าขอเพียงให้เธอพอใจ แล้วอย่างนี้จะให้เขาเห็นดีเห็นงามไปด้วยกับเรื่องนี้ได้ยังไงกัน
ยังไงซะเรื่องนี้ก็คงต้องแล้วแต่ลูกชายที่จะเป็นผู้ตัดสินใจเอง แต่คนเป็นพ่ออย่างเขาก็มั่นใจว่า คนอย่างมาคัสจะไม่มีวันเลือกผู้หญิงอย่างอเล็กซานด้าให้มาเป็นแม่ของลูกอย่างแน่นอน