ในเวลาต่อมา
ชายหนุ่มก็ลงมายืนใส่เสื้อผ้าอยู่ข้างเตียงจนเรียบร้อยโดยมีสายตาตัดพ้อของหญิงสาวที่หยัดตัวขึ้นมานั่งชำเลืองมองมาทางเขาเป็นระยะๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“นี่คุณไม่คิดที่จะหาเสื้อผ้าให้ฉันใส่เลยหรือไง”
“เธอจะต้องการไปทำไม ใส่แล้วเดี๋ยวก็ต้องถอดอีก” มาคัสพูดบอกอย่างยียวน
“แต่ฉันต้องการเสื้อผ้า ในเมื่อคุณต้องการแล้วก็ควรจะปล่อยฉันออกไปจากห้องนี้ได้แล้ว”
เพชรลดาพูดออกมาน้ำเสียงติดเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทำให้มาคัสหันขวับกลับมามองหญิงสาวที่ตอนนี้มีเพียงผ้าห่มสีขาวสะอาดห่อหุ้มตัวอยู่เพียงเท่านั้น เพราะเสื้อผ้าของเธอนั้นมันได้ถูกเขาฉีกทึ้งออกไปไม่เหลือชิ้นดีแล้ว มาคัสไม่อยากที่จะต่อปากต่อคำกับหญิงสาวอีก เขาเดินออกไปหยิบโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานด้านนอกแล้วกดหาไรอันทันที ก่อนจะบอกความต้องการของเขาออกไปเมื่อปลายสายกดรับ
“นายช่วยหาชุดทำงานใหม่ให้เพชรลดาด้วยนะ”
“เฮ้ย! นี่แกเล่นจนชุดขาดเลยหรือวะมาคัส”
ไรอันถามกลับมาเสียงเบา ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือดูแล้วพูดกลับไปว่า
“นี่มันก็ใกล้เวลาจะประชุมแล้วด้วย เอาอย่างนี้เดี๋ยวฉันจะบอกให้เอริยาแจ้งกับผู้จัดการว่าแกขอเลื่อนเป็นบ่ายสองโมงก็แล้วกัน” ไรอันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เพื่อนรักเสร็จสรรพ
“ก็แล้วแต่แก แต่อย่าช้านะ”
พูดจบมาคัสก็ตัดสายทิ้งไปทันที ก่อนจะเดินกลับเข้ามาด้านในอีกครั้ง แต่เพชรลดาไม่ได้อยู่บนที่นอนแล้ว ชายหนุ่มเดินเข้าไปที่ห้องน้ำก็ได้ยินเสียงน้ำไหลจากฝักบัว เขายืนอยู่ครู่ใหญ่จนแน่ใจว่าในห้องที่หญิงสาวกำลังอาบน้ำอยู่นั้นไม่ได้มีเพียงแค่เสียงฝักบัวอย่างเดียว แต่มันยังมีเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังผสมมากับสายน้ำด้วยเหมือนกัน
“เอ้า! เสื้อผ้าที่แกต้องการ นี่แกรีบเอาไปให้เพชรลดาเปลี่ยนเร็วๆ เลย เดี๋ยวเอริยาของฉันมาฉันไม่รู้จะบอกกับเธอว่ายังไงดีหากว่าผู้หญิงของแกยังแก้ผ้าอยู่” ไรอันพูดเสียงกระซิบกระซาบ
“แล้วนี่แกบอกลูกน้องของฉันว่ายังไงล่ะเรื่องชุดน่ะ” มาคัสไม่วายสงสัย
ไรอันจากที่เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่นั้นก็ชักมือขึ้นมากอดอกแทนแล้วพูดบอกว่า
“ก็ไม่มีอะไรมาก ฉันก็แค่บอกว่าแกอยากให้ล่ามที่มาคอยเทคแคร์ดูแลในช่วงหนึ่งอาทิตย์นี้แต่งตัวแตกต่างจากพนักงานคนอื่นๆ ก็เท่านั้น เป็นไงไอเดียฉัน บรรเจิดมั้ย”
“เออ ไอเดียแกบรรเจิดมาก เดี๋ยวแกไปรอฉันที่ห้องประชุมก่อนได้เลย เสร็จทางนี้แล้วเดี๋ยวฉันตามไป”
มาคัสพูดพร้อมกับเดินถือถุงเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงที่ไรอันเพิ่งซื้อมาให้ห้าถุงเข้าไปภายในห้องนอน ก่อนจะโยนมันลงตรงหน้าของเพชรลดาที่สวมเพียงเสื้อคลุมอาบน้ำนั่งอยู่บนที่นอนไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
“ใส่ซะ”
เพชรลดาไม่พูดไม่ถามอะไรทั้งนั้น คว้าหยิบถุงใบหนึ่งได้เธอก็รีบลุกขึ้นทันที แต่เพราะร่างงามระหงของหญิงสาวถูกชายหนุ่มใช้กำลังหักหาญย่ำยีจนบอบช้ำทำให้การทรงตัวนั้นเสียศูนย์ล้มลงบนที่นอนอีกครั้งหนึ่ง
มาคัสเพียงปรายตามองดูนิ่งๆ เท่านั้น เป็นเพราะความเสียใจและผิดหวังและรักหญิงสาวมากนั่นเองทำให้เขาทำร้ายผู้หญิงที่ตนเองเคยรักได้มากขนาดนี้ เพชรลดารวบรวมกำลังขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งก่อนที่จะค่อยๆ พยุงตัวเองให้ลุกขึ้นมาอีกครั้งอย่างช้าๆ และค่อยๆ ก้าวเดินไปที่ห้องน้ำเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
หญิงสาวกลับออกมาอีกครั้งด้วยเสื้อผ้าแบรนด์เนมราคาแพงหูฉี่อีกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ก้าวเดินผ่านหน้าของมาคัสเพื่อออกไปจากห้องนอนตรงนี้ แต่แล้วร่างงามระหงก็ถูกรวบตัวเอาไว้ เพชรลดาถึงกับหวีดร้องออกมาทันที
“ว้าย! ปล่อยนะ...บอกให้ปล่อยยังไงล่ะ”
เพชรลดาทั้งหยิกทั้งตีเป็นพัลวันหวังให้หลุดพ้นจากอ้อมกอดที่กำลังรัดร่างของเธออยู่
“ฉันเองก็ไม่ได้อยากกอดนักหรอกนะ”
มาคัสผลักร่างของหญิงสาวออกอย่างแรงจนเพชรลดาเซถลาล้มไปที่เตียงอีกครั้งหนึ่ง ก่อนจะพยุงกายลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ แล้วพูดขึ้นว่า
“คุณต้องการอะไรจากฉันอีก คุณมาคัส”
ดวงตาสองคู่มองสบกันอย่างไม่มีใครยอมใคร ก่อนที่มาคัสจะเป็นฝ่ายเมินหนีเพราะไม่อาจทนมองใบหน้าของอีกฝ่ายที่ตอนนี้มีน้ำตาเอ่อคลออยู่เต็มสองตา
“ก็แค่อยากให้เธอเอาถุงเสื้อผ้าที่เหลืออยู่ออกไปด้วยก็แค่นั้นเอง”เขาบอกเธอกลับไป
“แต่ฉันไม่ต้องการ”
พูดจบเพชรลดาก็ก้าวเท้าเดินผ่านหน้าเขาไปทันที แต่ก็ต้องหยุดชะงักกับคำพูดประโยคต่อมาของชายหนุ่ม
“ถ้าเธอไม่เอาถุงที่เหลือไปด้วย เธอก็อย่าหวังว่าจะได้กลับออกไปจากห้องนี้ได้เลยนะเพชรลดา”
“คุณขู่ฉัน”
“ฉันไม่ได้ขู่เธอ แต่ฉันพูดจริง หรือว่าเธออยากจะลอง”
เพชรลดาไม่อยากที่จะต่อปากต่อคำกับมาคัส เธออยากที่จะไปให้พ้นๆ จากห้องนี้ใจจะขาด ก่อนจะเดินกลับมาเอาถุงที่ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนมทั้งสี่ถุงมาถือไว้ในมือ แล้วค่อยๆ เดินออกมาจากห้องด้านใน หญิงสาวรีบก้าวเดินให้เร็วขึ้นแต่ก็ทำได้ยากยิ่งนัก เพราะตอนนี้ร่างกายเธอนั้นเจ็บร้าวไปหมดทั้งร่าง และก่อนที่มือเรียวจะทันได้แตะลูกบิดประตู เสียงของมาคัสก็ดังขึ้นมาอีก
“นั่นเธอกำลังจะไปไหน”
“กลับไปที่แผนกค่ะ ไม่ทราบว่าท่านประธานมีอะไรกับฉันอีกหรือคะ”เพชรลดาถามกลับไปทั้งๆ ที่ไม่หันหน้ากลับไปมองชายหนุ่ม
“แต่เธอต้องเป็นล่ามให้ฉันในที่ประชุมไม่ใช่เหรอ”
“ฉันจะไปบอกหัวหน้าแผนกของฉันว่าให้หาคนอื่นแทน เพราะว่าฉันไม่สามารถทำงานนี้ได้” พูดจบก็หมุนบิดลูกบิดประตูทันที
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ไปบอกหัวหน้าแผนกของเธอด้วยแล้วกันว่าฉันไล่เขาออกแล้ว”จบคำพูดของมาคัส เพชรลดาก็หันขวับกลับมามองเขาทันที
“ไม่ได้นะ ท่านประธานจะไล่พี่อมรศรีออกจากงานไม่ได้นะ” เพชรลดาขึ้นเสียงกับเขาทันที
“ก็แล้วทำไมจะไม่ได้ล่ะ ในเมื่อฉันเป็นเจ้าของบริษัทฯ จะให้ใครเข้าหรือออกจากงานก็ได้ทั้งนั้นถ้าหากฉันพอใจ ขนาดเธอเป็นพนักงานกินเงินเดือนของฉันพอไม่อยากมาเป็นล่ามให้ฉันก็จะไปบอกหัวหน้างานให้หาคนใหม่มาแทน ในเมื่อในบริษัทฯ ของฉันมีพนักงานแบบนี้อยู่เธอคิดว่าฉันควรจะให้ออกหรือให้อยู่ดีล่ะ” มาคัสพูดเหน็บหญิงสาว
“พี่อมรศรีไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้ อย่าเอาพี่เขาเข้ามายุ่งเลย ฉันขอร้อง”เพชรลดาพูดเสียงอ่อนหวังให้ชายหนุ่มเห็นใจไม่ดึงบุคคลอื่นเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้
“ถ้าอย่างนั้นเธอก็ต้องไปประชุมกับฉัน”
“ท่านประธานล่วงหน้าไปก่อนได้มั้ยคะ ดิฉันขอตัวเอาของไปเก็บก่อนแล้วก็เอ่อ...เอ่อ...ขอกินยาแก้ปวดก่อนแล้วจะตามไปที่ห้องประชุมค่ะ”เพชรลดาบอกความต้องการของตนออกไป ตอนนี้สิ่งที่หญิงสาวต้องการที่สุดคือยาแก้ปวด
“เห็นทีคงจะไม่ได้ เพราะว่าฉันยังไม่รู้เลยว่าห้องประชุมของที่นี่นั้นอยู่ที่ไหน ยังไงเธอก็ต้องพาฉันไปที่นั่นอยู่ดี ไปสิ เดินนำไปเลย เดี๋ยวถึงห้องประชุมแล้วฉันจะให้คนหายาให้เธอกินเอง”
มาคัสมองสบตากับเพชรลดาที่ยืนทอดสายตามองเขาอยู่นิ่งๆ ก่อนจะเชิดหน้าขึ้นอย่างช้าๆ แล้วสะบัดหน้าใส่เขาก่อนจะค่อยๆ เดินไปยังลิฟต์ของผู้บริหารเพื่อพาชายหนุ่มไปยังห้องประชุมของบริษัทฯ ที่ตอนนี้ทุกคนคงจะรอคอยท่านประธานของพวกเขาอยู่แล้ว