EP 7. หกเดือนที่แล้ว
หกเดือนที่แล้ว...
“เมื่อไหร่แกถึงจะแต่งงานแต่งการได้ผัวรวยๆ เหมือนน้องบ้างล่ะยายดา ฉันเห็นแกทำงานงกๆ เงินเดือนก็ได้ไม่กี่ตังค์ แล้วชาตินี้เมื่อไหร่จะสบาย ดูอย่างลูกอินสิแต่งงานได้ค่าสินสอดสิบกว่าล้าน ซื้อรถเบนซ์คันใหม่ให้ฉันขับโก้จะตาย” พิมลพรรณกางนิ้วทั้งห้าขึ้นบนอากาศเพื่อรอให้สีชมพู่มะเหมี่ยวที่แต่งแต้มลงบนเล็บนั้นแห้งสนิท
“ก็ดาไม่สวยเหมือนอินนี่คะ ใครเขาจะมาสนใจผู้หญิงอย่างดา” ดารินทร์พูดโดยไม่เงยหน้า เธอพอใจกับสิ่งที่เธอเป็นอยู่ พนักงานบัญชีหาเช้ากินค่ำ ขอเพียงไม่มีหนี้ไม่มีโรคภัยคอยเบียดเบียน แค่นี้เธอก็ไม่ต้องการอะไรแล้ว
“ใครว่าแกไม่สวยล่ะ หน้าตาไม่ได้ขี้ริ้วหรอกนะ ถ้าจับแต่งหน้าทำผมดีๆ อาจสวยกว่าลูกอินด้วยซ้ำไป ลองเปลี่ยนแปลงตัวเองดูสิ แล้วฉันจะหาแฟนให้สักคน”
“ขอบคุณมากค่ะคุณแม่ แต่ดายังไม่อยากมีแฟน”
“เรื่องโง่ๆ น่ะฉลาดนัก แกจะดักดานอยู่แบบนี้ไปถึงไหน บุญคุณข้าวแกงฉันที่รดหัวแกมาจนโตแกไม่คิดจะตอบแทนบ้างเลยหรือไง หา!” พิมลพรรณตวาดลั่นอย่างไม่พอใจ
ดารินทร์สูดลมหายใจเข้าปอดลึก นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนตวาด หนักกว่านี้ก็เคยมาแล้ว ถ้าเป็นตอนเด็กๆ ละก็เธอคงโดนตีไม่ยั้งที่บังอาจเถียง ทั้งที่เธอเพียงแค่ออกความเห็นเท่านั้น
“เงินเดือนครึ่งหนึ่งของดา ดาก็ให้คุณแม่หมดนี่คะ”
“เงินเดือนหมื่นสอง ให้ฉันหกพันน่ะเหรอ ถุย” พิมลพรรณที่มักวางมาดเป็นผู้ดีกลับทำท่าทางสถุลได้อย่างไม่น่าเชื่อ
“มันจะไปพอยาไส้อะไร เลิกโง่เสียทีได้มั้ย ทำไมแกถึงไม่เคยได้ดั่งใจอะไรฉันสักอย่าง สิ่งที่ฉันเฝ้ากรอกหูแกมาตลอดเนี่ย มันไม่เคยซึมซับเข้าสู่สมองส่วนไหนของแกบ้างเลยหรือยังไงฮึ! นังดา” พิมลพรรณเท้าสะเอว เป็นไงเป็นกันวันนี้เธอต้องพูดคุยกับลูกเลี้ยงให้รู้เรื่อง
ทว่าดารินทร์กลับเลือกนิ่งเงียบไม่โต้ตอบ เพราะรู้ดีว่าการเถียงจะทำให้เรื่องมันแย่ลงไปกว่าเดิม ฉะนั้นทุกครั้งที่พิมลพรรณพูดเรื่องแต่งงาน เธอจึงเลือกที่จะนิ่งเฉยเป็นการดีที่สุด
“หน็อย ชักจะเอาใหญ่แล้วนะนังดา หรือคิดว่าตัวเองปีกกล้าขาแข็ง ถึงได้ทำเป็นไม่ได้ยินสิ่งที่ฉันพูด” พิมลพรรณตวาดแหวอย่างเหลืออด
“เอะอะเสียงดังอะไรกันคะคุณแม่พี่ดา” อินตราเดินเฉิดฉายเข้ามา สองมือหิ้วข้าวของพะรุงพะรังและที่น่าแปลกที่สุดก็คืออินตราเรียกเธอว่า ‘พี่ดา’ ทั้งที่ปกติจะเรียกแค่ชื่อเธอเท่านั้น
“สั่งสอนยายดาน่ะสิ เมื่อไหร่จะเลิกโง่เสียทีก็ไม่รู้ จะหาผัวให้ก็ไม่เอา อยากแก่คาบ้าน ไม่รู้จักใช้ความสาวความสวยของตัวเองให้เป็นประโยชน์ โง่ดักดานจริงๆ” พิมลพรรณด่าอย่างออกรสหวังจะให้ลูกสาวผสมโรงเช่นทุกครั้ง ทว่าอินตรากลับยิ้มกว้าง
“พี่ดาไม่อยากมีแฟนก็อย่าไปบังคับแกเลยค่ะ”
“อินเป็นอะไรหรือเปล่าลูก” พิมลพรรณหันไปมองหน้าบุตรสาวราวกับว่าบุตรสาวกินยาเกินขนาด อินตรายิ้มแล้วทำหน้าเศร้าเดินเข้าไปจับมือดารินทร์
“พี่ดา” เท่านั้นเองใบหน้าสวยก็น้ำตาร่วงราวกับทำนบแตก โผเข้ากอดดารินทร์เอาไว้แน่น
“เกิดอะไรขึ้นอินตรา ใครทำอะไรเธอ” ดารินทร์วางตัวไม่ถูกทำได้แค่เพียงกอดตอบน้องสาว โดยไม่รู้เลยว่าน้องสาวแกล้งบีบน้ำตา แล้วหันไปขยิบตาให้มารดาร่วมเล่นละครไปกับตนด้วย
“โธ่ลูกอิน ยังไม่หายเศร้าอีกเหรอลูก” พิมลพรรณยื่นมือไปลูบศีรษะบุตรสาวอย่างปลอบโยน น้ำเสียงสะอื้นเอ่ยถามอย่างสะเทือนใจ
“อินเศร้าเรื่องอะไรหรือคะคุณแม่” เมื่อได้ยินมารดาเลี้ยงพูดเช่นนั้น ดารินทร์จึงรีบเอ่ยถามเพราะเธอไม่ระแคะระคายมาก่อนเลยว่าอินตรามีเรื่องเศร้าเสียใจ จึงงงจนไม่สามารถจับต้นชนปลายได้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร ถึงได้ทำให้อินตราเศร้าเสียใจได้ถึงเพียงนี้
“อินแท้งลูกค่ะพี่ดา” หญิงสาวหน้าตาสะสวยตีหน้าเศร้า เมื่อเห็นว่าพี่สาวต่างสายเลือดตกใจจนเบิกตากว้างเธอก็บีบน้ำตาต่อไป
“อินท้องแต่แท้งค่ะ อินเสียลูกไปแล้วเขาไม่อยู่กับอินอีกแล้วค่ะ อินไม่สามารถมีลูกได้อีกต่อไปแล้วค่ะพี่ดา” อินตราฟูมฟายจนดารินทร์ต้องประคองให้ไปนั่งที่โซฟา สงสารน้องสาวจับใจ ด้วยเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ
“ใจเย็นๆ นะอิน ลองวิธีอื่นดูอาจทำได้ ลองทำกิฟต์หรือยัง”
“ลองมาหมดแล้วค่ะพี่ดา นี่ถ้าอินไม่มีลูกนะคะคุณแม่ของ คุณอเล็กต้องหาผู้หญิงคนใหม่ให้ลูกชายเขาแน่ๆ อินกลัวค่ะพี่ดา กลัวว่าจะต้องเสียคุณอเล็กไป”
“คุณแม่ของคุณอเล็กซานโดรจะทำแบบนั้นทำไมล่ะอิน ในเมื่ออินเป็นภรรยาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แค่ไม่มีลูก รับบุตรบุญธรรมมาเลี้ยงก็ได้ หรือวิธีอื่นๆ ก็มีอีกตั้งเยอะตั้งแยะ” ดารินทร์พยายามปลอบโยนน้องสาวทว่าอินตรากลับส่ายหน้างุด
“พี่ดาไม่รู้อะไร อินเข้าไปอยู่ที่คฤหาสน์หลังนั้นมีแต่ความทุกข์ทรมานใจ อินไม่เคยมีความสุขเลยแม้แต่วินาทีเดียว คุณแม่ของคุณอเล็กร้ายมาก จ้องจับผิดหาเรื่องอินตลอดเวลา ส่วนนังแม่บ้านแก่ๆ นั่นก็ร้ายใช่ย่อยรวมหัวกับคุณแม่คุณอเล็กกลั่นแกล้งอิน ดีนะคะที่คุณอเล็กรักอินมาก ตามใจอินทุกอย่าง แต่ถึงยังไงอินก็กลัวค่ะ อินอยากมีลูกค่ะพี่ดา”