ฉันเดินมาหาพ่อเมญ่าแล้วยื่นเช็คให้เขา "หวังว่าจะรักษาคำพูด ถ้ายังมายุ่งกับเมญ่าอีกกระสุนในปืนกระบอกนี้ได้ไปอยู่ในสมองคุณแน่ จำชื่อฉันไว้ ลลิตา บดิณสกุล ต่อจากนี้อย่ายุ่งกับเมญ่าอีก ชีวิตของเมญ่าไม่ใช่ของคุณอีกแล้ว"
"ครับ ๆ ผมเข้าใจแล้วครับ" พอเห็นเงินเขาก็ตกลงทุกอย่าง ยอมขายลูกเพื่อเงิน พ่อของเมญ่าหันไปพูดกับเมญ่า "โชคดีนะอดีตลูกชายรึจะลูกสาวดีวะ ฮา ฮา ไปล่ะ"
หืม มันน่าจะเอาปืนตบอีกสักรอบ
"ปะกลับ จะไปส่ง" ฉันหันมาพูดกับเมญ่า
"อีเจ้ กูกลับไม่ได้แล้ว" เมญ่าเอ่ยเสียงเศร้า
"ทำไมอะ" ทำไมจะกลับไม่ได้ ไม่เข้าใจ
ทว่าไม่นานก็ได้คำตอบจากปากเมญ่า "ก็พ่อทิ้งกูแล้ว กูไม่มีที่ไป"
เมญ่าร้องไห้ คนเราบางทีก็ไม่มีทางเลือกมากนักสินะ บางครั้งรู้ว่าเป็นนรกแต่ก็ยังต้องทนอยู่เพื่อให้มีที่ซุกหัวนอน
"มึงจะไม่หักหลังกูใช่ไหม"
เมญ่ามองหน้าฉันก่อนจะพูด "ที่มึงถามแบบนี้กูไม่รู้ว่ามึงเจออะไรมานะเจ้ แต่มึงคือคนที่ดึงกูออกมาจากที่ที่คนเขาเรียกว่านรกบนดิน ต่อจากนี้มึงคือเจ้าของชีวิตกู กูสัญญากูจะใช้หนี้ที่พ่อกูเอาไป แต่กูขอเวลาหน่อยนะกูจะรีบทำงานหาเงินมาคืนให้ได้ อีเจ้ขอบใจมากจริง ๆ ขอบใจที่วันนี้มึงยื่นมือมาช่วยกู"
"ปะกลับ"
"เจ้มึงหูหนวกเหรอ กูบอกว่าไม่มีที่ไปไง" เมญ่ายังคงฟูมฟาย
"ไปอยู่กับกูเนี่ย ไปไหม"
"พูดจริงเหรอ อีเจ้มึงจะไม่ลำบากใจใช่ไหม"
ฉันหันมองเมญ่าที่สีหน้าดูมีความหวัง "แค่มึงไม่หักหลังกูก็พอเมธี ขอแค่นั้นก็พอ"
"อ๊าย เมญ่ากูชื่อเมญ่า เลิกเรียกเมธี กูรับไม่ได้ ขอบใจนะที่ช่วย กูจะไม่ทำให้มึงผิดหวังที่วันนี้มึงช่วยกู" ตามอารมณ์ไม่ทันจริง ๆ เดี๋ยวอารมณ์ดีเดี๋ยวเข้าบทซึ้ง
"เออ ๆ ขึ้นรถเถอะเมธี"
"เฮ้อ กูยอมให้มึงเรียกคนเดียวนะเจ้"
ฉันยิ้มแล้วเดินมาที่รถ ตั้งใจจะพาเมญ่าไปขนของที่สำคัญที่บ้านของมัน ให้เมญ่าพักกับฉันที่คอนโด คอนโดของฉันมีสองห้อง ก็ให้เมญ่าอยู่อีกห้องแล้วกัน
เมญ่าเล่าให้ฉันฟังระหว่างเดินทางไปเก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้ เมญ่าอยู่กับพ่อสองคน แม่มันหนีไปมีผัวใหม่ตอนที่เมญ่าอายุ 5 ขวบ พ่อมันทำใจอยู่นานกว่าจะยอมรับเรื่องแม่ของมันได้ จากนั้นพ่อมันก็ทนทำงานส่งมันเรียน
เมื่อเริ่มโตเมญ่าเริ่มรู้สึกตัวว่ามันชอบผู้ชาย พ่อของมันเริ่มจับสังเกตได้ พ่อมันเสียใจมากที่ลูกชายเป็นแบบนี้ พ่อมันเลิกทำงานและให้เมญ่าทำงานแทน
เมญ่ามันก็ทำเพราะกลัวว่าจะไม่ได้เรียน มันเริ่มทำงานตั้งแต่อายุ 15 จนตอนนี้มันอายุ 21 ปี ทุกครั้งที่ทำงานได้เงินมา พ่อมันก็จะเอาไปกินเหล้า มันต้องซุกซ่อนเงินเพื่อเอามาเรียน
บางทีไม่มีเงินให้พ่อมันจะทุบตีมันแบบที่ฉันเจอมาวันนี้ แล้วก็ไล่มันออกจากบ้านเป็นประจำ มีเงินเมื่อไหร่พ่อถึงจะพูดดีด้วย
เฮ้อ ชีวิตคนเรามีหลายรูปแบบจริง ๆ
ต่อไปนี้ก็อยู่ที่เมญ่าแล้วว่าจะหักหลังฉันไหม ถ้ามันเลือกที่จะหักหลังฉันจุดจบของมันคงไม่ต่างจากแก้ว แต่ถ้าเมญ่าจริงใจกับฉันเมญ่าจะเป็นคนที่โชคดีที่สุดเพราะฉันคนนี้พร้อมจะช่วยเหลือทุกอย่าง
เวลาสองทุ่มฉันนั่งกินข้าวกับเมญ่าอยู่ในครัว เมญ่าเสนอตัวทำกับข้าวเอง ซึ่งฝีมือเมญ่าอร่อยเลยนะ
"เจ้ ถามอะไรหน่อยได้ปะ"
"อะไร"
"เจ้เป็นคุณหนูเล็กของตระกลูบดิณสกุลจริงอะ" เมญ่าทำหน้าสงสัย
"อืม" เรื่องแบบนี้ใครเขาล้อเล่นกัน
"งั้นเจ้ก็เป็นทายาทมาเฟีย"
"ใช่"
"งี้เจ้ก็เป็นน้องสาวคุณกันต์ หุ้นส่วนของมหา’ ลัย คนที่เคยเป็นรุ่นพี่เราอะดิ"
"อ่าฮะ"
"หูย ได้อยู่ใกล้คนหล่อแบบนั้นดีจัง อิจฉาอ่า" สีหน้าเพ้อฝันนั่นอะไรน่ะ
"หึ"
ครืด ครืด ครืด...
“ค่ะแม่ใหญ่” ฉันกดรับโทรศัพท์มือถือเมื่อแม่ใหญ่โทรมา
(บอดี้การ์ดของป๊าบอกว่าลูกหว้าพาผู้ชายเข้าคอนโด) แม่ใหญ่พูดด้วยน้ำเสียงดุ ๆ
“เพื่อนลูกหว้าเองค่ะ พอดีเขามีปัญหากับครอบครัวเลยจะมาอยู่กับหว้า”
(เดี๋ยวก็เป็นเหมือนอีผู้หญิงคนนั้นหรอก แม่บอกทำไมไม่ฟัง อย่าเชื่อใจใครง่าย ๆ) เสียงแม่ใหญ่ยังหนักแน่นเช่นเคย
“ถ้าเป็นแบบเดิม จุดจบก็จะเหมือนเดิมค่ะ” ฉันยืนยันหวังให้แม่ใหญ่เชื่อใจ
(แม่ไม่ได้อยากให้มือลูกหว้าเปื้อนเลือดขนาดนั้น)
“ค่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย แล้วตี๋เล็กละคะ” ฉันเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากให้แม่ใหญ่เครียด บอดี้การ์ดก็รายงานเก่งเหลือเกิน
(หลับไปแล้ว วันนี้งอแงนิดหน่อย สงสัยไม่เห็นเรานั่นแหละ)
“เดี๋ยวพรุ่งนี้จะเข้าไปหานะคะ พอดีวันนี้ยุ่งเรื่องเมญ่าเลยไม่ได้เข้าไป”
(จ้ะ ถ้ายังไงพามาให้ที่บ้านสแกนด้วย)
“ค่ะ รักแม่ใหญ่นะคะ” พูดจบก็กดวางสาย
"อีเจ้ มึงก็พูดดี ๆ พูดยาว ๆ ได้นี่หว่าแล้วทำไมไม่พูดแบบนี้กับกูบ้าง" หลังจากวางสายจากแม่ใหญ่ เมญ่าเอ่ยถามทันที
"ไม่อะ" ตอบด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
"แล้วอะไรคือจุดจบแบบเดิม" เมญ่ายังคงถามต่อ
"สักวันหนึ่งถ้ากูเชื่อใจมึงมากพอกูจะเล่าให้ฟัง อิ่มแล้วก็เอาไปเก็บแล้วไปนอน" พูดพลางเก็บจานส่วนของฉันไปเก็บบ้าง
"อีเจ้" จู่ ๆ เมญ่าก็เรียก
"อะไรอีก" ฉันหันมอง
ทว่าเมญ่าลุกมากอดแล้วก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ "ขอบใจมากจริง ๆ ที่มอบชีวิตใหม่ให้ สัญญาเลยว่าอีเมญ่าคนนี้จะตอบแทนให้ดีที่สุด ขอบคุณมากนะ กูรักมึงนะ ถึงแม้จะเพิ่งรู้จักกัน แต่กูตกหลุมรักมึงหนักมาก"
"อืม พอได้แล้วอึดอัด" ฉันกลบเกลื่อน อาการเขินด้วยคำพูดที่ไม่น่าฟังนัก ส่วนเมญ่าส่งรอยยิ้มซึ้งใจ
หลังจากนั้นเราต่างแยกย้ายกันเข้านอนคนละห้อง
เช้าเราก็มาเรียนพร้อมกัน ฉันเป็นคนขับส่วนมันนั่งเป็นคุณนาย แต่งหน้าแต่งตาสวยเช้ง ฉันและเมญ่าอยู่ที่จอดรถของคณะกำลังจะลงจากรถ
"ปะ ๆ เร็ว ๆ เจ้ เดี๋ยวไม่ทัน" เมญ่าพูดพลางลงจากรถ
"เออ กำลังจะลงนี่ไง"
พลั่ก! เพราะเปิดประตูรถไม่ดูทางทำให้ประตูชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งที่จอดรถข้างกัน ผู้ชายคนนั้นล้มลงพื้นไปแล้ว
"เฮ้ย ขอโทษ เจ็บมากไหมเราไม่ได้ตั้งใจ" ลงจากรถ ปิดประตูและรีบเอ่ยขอโทษ
"ตายแล้ว อีเจ้มึงทำไมไม่ดูดี ๆ ก่อนเปิด" เมญ่าเดินอ้อมมาหาฉัน ยืนมองผู้ชายที่ล้มอยู่ที่พื้น
"ก็มึงเร่งกูไงเมธี กูเลยรีบ ไม่ทันมอง" ฉันหันไปโทษเมญ่าที่เร่งจนฉันทะเล่อทะล่า จริง ๆ ก็ความผิดของฉันอะแหละที่ไม่มองให้ดีก่อน
"เออ ๆ รีบพยุงเขาขึ้นเถอะ ก้มหน้าอยู่แบบนั้นหัวแตกแล้วมั้ง" ฉันเอื้อมมือไปพยุงแขนผู้ชายคนนั้นขึ้นมา
เมื่อเขาเอามือที่ปิดหน้าออกเท่านั้นแหละ "เหี้ย ฉิบหายแล้ว"