คิ้วหนาเลิกขึ้นเล็กน้อย มุมปากลอบอมยิ้มอย่างนึกขัน ยามเห็นนางลงแรงคั้นน้ำตาจนไร้เรี่ยวแรง เฉินเฟยหยางเพียงยืนนิ่งนำมือไขว้หลัง ใคร่รู้ว่านางจะทำสิ่งใดต่อ ในเมื่อนางยกทั้งโรงละครมาวางไว้ตรงหน้า เขาจะยอมอยู่ชมเสียหน่อยก็แล้วกัน "คนเราอยู่ใต้ชายคาบ้าน ไม่ก้มหัวไม่ได้ มามาเลี่ยงจีวางอำนาจบาตรใหญ่ ลับหลังท่านแม่ทัพเฉินไม่ใส่ใจดูแลเรือนปล่อยภาระหน้าที่ให้บ่าวใช้ดูแลกันเอง ข้าพูดได้เพราะข้าคลุกคลีอยู่ในครัว สนิทกับบ่าวใช้ที่นี่ไม่น้อย แม้จะอยู่ได้เพียงหกเจ็ดวันแต่เล็งเห็นความเป็นอยู่ในจวนที่ดูอดอยากยากแค้น บ่าวในเรือนทำงานหนักตรากตรำคล้ำแดด ภายในครัวเหลือเพียงข้าวสารหนึ่งถุง ผักสดเพียงหนึ่งลัง เนื้อเพียงหนึ่งขีด" จ้าวเสวี่ยซินเว้นช่วงคำพูดไว้ครุ่หนึ่งระหว่างนั้นนึกถึงคำพูดถัดไปของแม่นางเอก เมื่อนึกออกจึงใช้จริตยกปลายผ้าตนขึ้นซับน้ำตา และกล่าวพูดต่อ "ท่านแม่ทัพอาจไม่มีเวลา ไปนอกด่านเช้ามืดกลับ