บทที่ 10 พ่อพระเอกอย่าเล่นนอกบท

3090 คำ
นางคิดผิดแล้วที่วางใจ .. เพราะร่างกายบัดซบนี่ทำอะไรไม่เป็นเลยต่างหาก!! ไม่เป็นกระทั่งว่ายน้ำ!! อีซินขออนุญาตกรีดร้อง สระบัวค่อนข้างลึก หากเป็นบุรุษตัวสูงระดับน้ำจะเลยหัวขึ้นไปราวๆ ที่หนึ่งวา หากเป็นสตรีร่างเล็กส่วนสูงเพียงระดับอกบุรุษน้ำจะเลยศีรษะขึ้นไปถึงหนึ่งวาครึ่ง สตรีทั้งสองร่วงลงน้ำไปพร้อมกับ ร่างเริ่มจมดิ่งลงก้นสระบัวในเวลาอันรวดเร็ว จ้าวเสวี่ยซินก่นด่าความซวยของตัวเองอีกรอบ นางเป็นคนว่ายน้ำเป็น ทว่าร่างกายนี้อ่อนแอก่อนไป และไม่ชินกับน้ำลึกส่งผลให้ร่างกายเผลออ้าปากรับน้ำเข้ามาเสียเต็มปอด สองแขนที่พยายามว่ายขึ้นด้านบนก็กวัดแกว่งไปมาราวกับคนไร้เรี่ยวแรง พลันสายตาเลื่อนไปเห็นร่างที่กำลังลอยอยู่ข้างๆ เป็นแม่บัวขาวที่หลับตาสนิทหมดสติไปก่อนหน้านี้แล้ว ในเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน นางได้ยินเสียงคนด้านบนโดดตามลงมาแล้ว ทว่าน้ำใต้บ่อโคลนนี้ถูกแรงน้ำดันย้อนดินโคลนขึ้นมาจนขุ่น คงยากต่อการหาคนให้เจอภายในเวลาอันสั้น ‘นางควรได้ทะลุมิติไปเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่นางร้าย ถ้าหากนางจะจิตใจดีปานนางฟ้านางสวรรค์เพียงนี้!’ สิ่งที่นางทำโดยไม่ต้องคิดนั่นคือการขยับกายเข้าไปใกล้ร่างอรชรไร้สติ สองมือพยายามส่งร่างนั้นให้ขึ้นเหนือน้ำ แต่ตัวของนางนี้ดันไม่มีเรี่ยวแรงอย่างใจนึก นางจำต้องยกมือขอโทษในใจหนึ่งที ก่อนจะเลือกใช้แรงเท้าทีบส่งร่างหลานอี้หนานขึ้นไปอย่างแรง นางแอบได้ยินเสียงหลานอี้หนานส่งเสียง ‘อั้ก!’ ในลำคอ เอาเถิด ถือว่านางช่วยแล้วกัน! ทีนี้ก็กลับมาฉิบหายกับตัวเองต่อ กระโปรงยาวอึดอัดทำให้นางเคลื่อนตัวได้ลำบาก อีกทั้งยังหนักจากผ้าที่เปียก ร่างของนางเริ่มจำดิ่งลงเรื่อยๆตากที่กำลังขึ้นสู่ผิวน้ำ จ้าวเสวี่ยซินพยายามใช้แรงทั้งหมดที่มีแหวกว่ายไปด้านหน้า ทว่าแรงดึงใต้น้ำกลับมากกว่า นางเริ่มหืดขึ้นคอ ไม่สามารถกลั้นหายใจได้นานกว่านี้ จมูกและตาก็แสบไปหมด สติเริ่มจะเลือนรางลงทุกที กระทั่งนางรู้สึกถึงแรงฉุดที่ข้อมือ ตัวของนางลอยเข้าไปหาเจ้าของร่างหนา เอวถูกรวบไว้แน่น ขณะที่ตัวเริ่มทะยานขึ้นสู่ผิวน้ำ “เฮือก!! แค่ก..ก” นางถูกดึงขึ้นมาบริเวณริมสระบัว รู้สึกถึงฝ่ามือหนากำลังตบลงที่หลังของนางไปมาเพื่อให้นางสำรอกเอาน้ำออก จ้าวเสวี่ยซินไอจนตัวโยน น้ำหูน้ำตาไหลอย่างไม่น่ามอง จะตาย จะตาย!! “ค่อยๆ หายใจ” เสียงทุ้มข้างตัวกล่าวด้วยความเป็นห่วงอยู่ในที นางพยายามลืมตาเมื่อหายแสบลงบ้างแล้ว ปรับสายตาให้ชินกับภาพตรงหน้า สิ่งแรกที่จ้าวเสวี่ยซินเห็นคือหลานอี้หนานที่กำลังสำลัก มืออีกข้างของนางจับไว้บริเวรกลางหลัง หลานอี้หนานรู้สึกได้ว่ามันปวดจนเหมือนร่างกายนางจะแหลกเสียให้ได้ เกิดสิ่งใดขึ้นในน้ำนั่นกัน.. แม่บัวงามย่นคิ้วสงสัย เพียงทว่ากลับเปลี่ยนสีหน้าเป็นเศร้าหมองในวินาทีถัดไป สวมบทดอกหลี่ต้องฝนร่ำไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร หวังให้ท่านแม่ทัพผู้มาช่วยนางกล่าวปลอบโยน ทว่าเสียงเหนือหัวนางกลับไม่คุ้นหูเอาเสียเลย “คุณหนูสวมเสื้อทับไว้ก่อนขอรับ” ชุดคลุมเก่าถูกใช้งานมาอย่างสมบุกสมบันและเปียกชื้นวางทับลงบนตักของนาง เงยหน้าขึ้นสบเข้ากับดวงตาเฉยชาของชายหนุ่มผู้หนึ่ง หลานอี้หนานสะอึกในลำคอ สายตาเลื่อนหาคนที่นางหวังไว้ให้ช่วยนางดั่งบุรุษช่วยสาวงามในหนังสือที่เคยอ่าน ก่อนจะเห็นว่าเขากำลังขึ้นจากสระบัวโดยมีสตรีที่นางเกลียดที่สุดอยู่ในวงแขน จ้าวเสวี่ยซิน! “นำเสื้อคลุมไว้ด้วยจะดีกว่าขอรับ” คนด้านหลังเอ่ยบอกเสียงคล้ายเหนื่อยหน่าย หลานอี้หนานหน้าขึ้นสี เมื่อเพิ่งสังเกตเห็นว่าชุดที่นางสวมอยู่ชายกระโปรงด้านหลังถูกฉีกขาดจนถึงสะโพก “!!” หลานอี้หนานทรุดตัวลงนั่ง ตื่นตระหนกรีบดึงเสื้อคลุมปิดส่วนที่ผ้าขาด ทางด้านชิงเหยาไม่ใคร่จะมองเขาเพียงยืนนิ่งๆ ทอดสายตาไปยังจ้าวเสวี่ยซินที่กำลังสำลักน้ำอยู่เช่นกัน จ้าวเสวี่ยซินเริ่มกลับมาหายใจได้เป็นปกติ เคลื่อนสายตาผ่านความสลัวไปยังบุรุษข้างกายแม่บัวขาว มั่นใจเสียเต็มอกว่าต้องเป็นพ่อพระเอกที่ได้บทช่วยสาวงาม ทว่า.. “ชิงเหยา..!” หาใช่คนที่นางคิดไม่ เบื้องหน้าปรากฏเป็นชายหนุ่มใบหน้านิ่งขรึม ดวงตายังคงเฉยชาแบบคงเส้นคงวา ไม่ผิดแน่นั่นชิงเหยาหาใช่เฉินเฟยหยางไม่! ทำไมชิงเหยาไปอยู่กับแม่นางเอกล่ะ แล้วคนข้างๆนางตอนนี้ ..หรือว่าจะเป็น “เรียกบุรุษอื่นต่อหน้าข้าทั้งที่ข้าเป็นผู้ช่วยเหลือเจ้าเช่นนี้ คิดดีแล้วหรือ” “ทะ..ท่านแม่ทัพ ว้าย!” สุรเสียงทุ้มนั้นคำรามในลำคอ เฉินเฟยหยางแสยะยิ้ม เปลี่ยนจากตรึงเอวของนางเป็นอุ้มนางไว้ในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว จ้าวเสวี่ยซินตกใจรีบคว้าเอาคอหนอ แขนคล้องเกี่ยวไว้เป็นที่ยึด ดวงตากลมโตทอดมองชายหนุ่มที่กำลังยกยิ้มอยู่ด้วยความสับสน ตอนนี้มันสลับบทกันแล้วรึไม่! ใบหน้าคมคายโน้มเข้ามาหาคนตัวเล็กในอ้อมแขน เขาเพิ่งสังเกตว่าตัวของนางบอบบางมากเพียงใด กระแทกลงผิวน้ำแต่เล็กน้อยกลับทำเนื้อตัวของนางขึ้นสีแดงราวกับถูกฟาด ตัวของเขาเปียกไม่ต่างไปจากนาง ฝ่ามืออุ่นด้านหลังสัมผัสลงแผ่นหลังของนางแผ่วเบา ความอุ่นผ่านผ้าที่แนบเนื้อให้ความรู้สึกวาบหวิว จ้าวเสวี่ยซินตัวแข็งทื่อ ขณะที่แขนแกร่งสอดใต้ร่างนางกระชับแน่นขึ้น “เจ้าเล่นซนเกินไปแล้ว” น้ำเสียงของเขาคล้ายดุคล้ายเป็นห่วงอยู่ในที สร้างความแปลกใจแก่นางเป็นอย่างมาก คนที่เขาควรเข้าไปดูเป็นแม่นางเอกมิใช่นาง “!” “หากจะทำให้แนบเนียน เจ้าต้องไม่ตกลงไปด้วย” “ขะ..ข้าไม่ได้ผลักนางนะเจ้าคะ” นางแย้งขึ้นมาทันควัน ขณะขยับใบหน้าหนีความใกล้ชิดจนใจเต้นรัวตรงหน้า นางแพ้คนหล่อ! เอ้ะ.. แต่ว่านางสะดุดประโยคหลังเสียมากกว่า พ่อพระเอกท่านต้องใจเย็นก่อน ถึงท่านจะกำลังเข้าใจผิดแต่ท่านจะเห็นดีเห็นงามกับนางร้ายไม่ได้! “จริงหรือ” เขาถามไร้ซึ่งสีหน้าสงสัยใดๆ “เฮ้อ! ถึงอย่างไรข้ามันก็ตัวร้าย กลายเป็นคนดีไปแล้วใครจะเชื่อกัน!” แววตาของเฉินเฟยหยางอ่อนหยวบลงหลายส่วน คำพูดของนางดูถากถางและประชดประชันทว่าเขากลับจับความรู้สึกเศร้าแฝงเอาไว้ภายใต้ประโยคเหล่านั้น “..เราทุกคนต่างเคยเป็นตัวร้ายในเรื่องราวของผู้อื่นเสมอ เป็นคนที่แย่ เป็นคนเห็นแก่ตัวในความคิดของผู้อื่นเสมอ เราไม่อาจห้ามพวกเขาได้หรอกเสี่ยวซิน สุดท้ายมีเพียงตัวเจ้าเท่านั้นที่รู้ตัวเองเป็นเช่นไร" "..." "หากเจ้ารู้ตัวว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้า เช่นนั้นแล้วยิ่งไม่มีสิ่งใดให้กังวล พูดออกมาเถิด ใช่ว่าจะไม่มีคนรับฟังเจ้าเลย” ดวงตากลมโตเงยสบเข้ากับดวงตาสีดำสนิทคู่สวย เสียงนั้นช่างเป็นน้ำเสียงที่อ่อนโยนที่สุดเท่าที่นางเคยได้ยินจากคนตรงหน้า การเป็นไปของตัวเอกยามนี้ต่างจากนิยายที่นางรู้จัก พระเอกที่ควรย้ายตัวเองไปอุ้มนางเอกกลับสลับมาอุ้มนางร้ายเช่นนาง หรือเป็นเพราะนางไม่ทำตามเส้นเรื่องมันถึงกำลังเปลี่ยนแปลง “..บอกความจริงแล้วจะเชื่อหรือไม่ก็คงต้องแล้วแต่ท่าน ..เป็นนางที่สะดุดลมเองต่างหากเจ้าค่ะ” “....” คนตัวสูงเงียบไปจนนางแปลกใจ นางจึงค่อยๆ หันกลับไปมอง และพบว่าใบหน้าหล่อเหลายามนี้กำลังกลั้นขำเสียหน้ากระตุก! “มะ..มีสิ่งใดน่าขำหรือเจ้าคะ” “ที่แท้นางสะดุดอากาศหรอกหรือ หึ เจ้าช่างสรรหาคำพูดให้ข้าแปลกใจได้ตลอด ไม่เหมือนสตรีที่ข้าเคยพบเจอมาก่อน” นี่เขาหาว่านางแปลกใช่หรือไม่..?! "ข้าไม่ได้ผลักและนางไม่ได้ชนข้า คงเหลือเพียงอย่างเดียวแล้วนั่นแหละเจ้าคะ!" “คนก็ถูกช่วยขึ้นมาแล้วสาเหตุค่อยไปถามเอาความทีหลัง แต่ว่า ข้ายังไม่ลืมเรื่องคิดบัญชีเจ้า อย่าได้วางใจข้าถึงเพียงนั้นสิเสวี่ยซิน” “!!” เสียงทุ้มนุ่มกล่าวกระซิบแหบพร่า ใจเต้นโครมครามยามเขาเรียกชื่อของนาง ด้วยโทนเสียงทุ้มต่ำน่าหลงใหลราวกับตั้งใจหว่านเสน่ห์ มือเรียวยกขึ้นปิดหูตัวเองราวกับถูกไฟลน ดวงตากลมโตเบิกกว้างจ้องริมฝีปากที่มีรอยแสยะยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลา คราบบุรุษอ่อนโยนที่ปลอบใจนางเมื่อสักครู่กลืนหายกลับเข้าสู่ความมโนของนาง ทิ้งไว้เพียงคนเจ้าเล่ห์ได้อย่างน่าหมั่นไส้เท่านั้น “หนิงผิง” “เจ้าค่ะท่านแม่ทัพ” “จัดที่นอนในเรือน คืนนี้เสวี่ยซินจะพักที่เรือนของข้า” “!!” “!!” “หะ!!” ไม่เอา!! “ท่านแม่ทัพเจ้าคะ!” เสียงแรกหน่ะของนาง แต่เสียงด้านหลังเป็นของแม่นางเอก จ้าวเสวี่ยซินเลี้ยวหน้ากลับไปยังเสียงหวานดังแสบหูด้านหลัง สตรีร่างเล็กเนื้อตัวเปียกโชก บนบ่าเล็กสวมเสื้อคลุมสั่นไหวราวกับลูกนกช่างน่าสงสาร หญิงสาวเม้มริมฝีปากเข้าหากันอย่างตื่นตระหนก เมื่อสักครู่นางเผลอแสดงกิริยาไม่สมควร ปล่อยให้ความรู้สึกน่ารังเกียจเข้าครอบงำ คำแนะนำทว่าตลบหลังด่า กล่าวหาว่านางเป็นสตรีชอบสอด ดั่งกับมีไฟสุมขึ้นกลางอก นางยังแอบตกใจที่ตัวเองคิดแผนร้ายขึ้นมาในหัวและกระทำลงไปอย่างสิ้นคิด อย่างการพาตัวเองตกน้ำ! จะแปลกก็แต่ท่านแม่ทัพไม่คิดจะเรียกความยุติธรรมแก่นาง เลือกอุ้มสตรีร้ายกาจผู้นั้นเข้าเรือน นางใช้มารยาสตรีใดถึงทำเช่นนั้นได้ “ท่านแม่ทัพ หนานเอ๋อร์ไม่ได้มีเจตนาจะกล่าวตำหนิท่านแม่ทัพ เพียงแต่ว่าสตรีที่ยังไม่ออกเรือนอยู่ร่วมชายคาเดียวกับบุรุษเช่นนี้ จะไม่เป็นที่ครหาได้หรือเจ้าคะ” หลานอี้หนานเดินเข้ามาหยุดตรงหน้าพวกเขา ใบหน้ายังคงความงามแม้จะมีน้ำไหลลงจากเส้นผมสีดำเงาละบนใบหน้า “ใช่ๆ ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง ข้าสวยข้าน่ารักข้าน่าทะนุถนอมก็จริงอยู่ แต่ท่านจะชุบมือเปิบพาข้าที่ยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเข้าเรือนบุรุษไม่ได้!” เป็นตัวจ้าวเสวี่ยซินที่ยกมือขึ้นประหนึ่งพวกเดียวกัน ความไม่พอใจฉายชัดบนใบหน้าตุ๊กตากระเบื้องเคลือบ หลานอี้หนานที่คิดว่าจ้าวเสวี่ยซินกำลังใช้มารยาดอกบัวขาวยิ่งไม่พอใจ กลใดที่นางใช้ ท่านแม่ทัพย่อมต้องมองออก ข่าวลือร้ายกาจของนางดังกระฉ่อนทั่วเมือง มีหรือที่เขาจะไม่ทราบ “ปะ..ปล่อยข้าลงสิเจ้าคะ” แล้วกลับไปหาแม่นางเอกของท่านได้แล้ว ไปชิ้วๆ! คนฟังเงียบไปพักใหญ่ ดวงตากลมโตตัวเล็กลีบอยู่บนแขนแกร่งรู้สึกถึงชะตาที่กำลังวุ่นวายข้างหน้า นางหันไปมองยังเฉินเฟยหยาง ยามนี้ใบหน้าหล่อเหลายังคงไม่เผยความรู้สึกใด ทว่าเบื้องหลังใบหน้านิ่งเฉยนั้น จ้าวเสวี่ยซินไม่รู้ตัวเลยว่ายิ่งกล่าวห้ามไปก็เหมือนยิ่งยุ ยิ่งผลักไสก็ยิ่งดึงดูดให้เข้าหา อีกทั้งเขายังไม่ได้คิดบัญชีนางเลย หึ! “คุณหนูหลานอี้หนานพูดมาก็ถูกอยู่หลายส่วน สตรีที่ยังไม่มีเจ้าของย่อมต้องรักษาระยะห่างจากบุรุษที่ยังไม่ออกเรือน” ยามที่คนตัวสูงเว้นประโยคไว้แล้วหันกลับมายิ้มมุมปากให้แก่นางนั้นพาให้นางเกือบอกแตกตาย กำหมัดไว้ที่หน้าอกของตัวเองแน่น เผลอส่ายหน้าไปมาราวกับล่วงรู้ว่าไอพ่อพระเอกเจ้ากรรมนี้ต้องการจะพูดสิ่งใด ไม่นะ!! เฉินเฟยหยางท่านห้ามพูดมันออกมาเด็ดขาดเลยนะเว้ย!!! “ห้ามพูดมันออกมานะเจ้าคะ!!” นางเค้นเสียงกระซิบ ทว่ามันไม่ทันการณ์เสียแล้ว เมื่อคนขี้แกล้งได้พูดขึ้นมาด้วยเสียงที่ดังพอให้คนในบริเวณนี้ได้ยิน “แย่หน่อยที่นางมีเจ้าของแล้ว” “!!” กรีดร้องงงง!! ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบ แม้กระทั่งชิงเหยาและหนิงผิงก็ลืมหายใจ “มะ..หมายความว่าอย่างไรเจ้าคะ!!” เสียงแหลมเล็กทำลายความเงียบลง หลานอี้หนานหลุดคราบดอกบัวบริสุทธิ์เอ่ยกระแทกเสียงอย่างร้อนใจ “เจ้ายังไม่ได้บอกพวกเขาให้รู้เรื่องหรอกรึ ตัวเจ้าก็รอข้ากลับไปตบแต่งอยู่มิใช่หรือ” แล้วต้องบอกให้ใครรู้ละย้ะ อีผีบ้าผีบอ!! ริมฝีปากหยักแสยะยิ้มกว้างยามเห็นใบหน้าซีดเป็นไก่ต้มของนาง นึกเอ็นดูสตรีตัวน้อยหลายส่วน แต่ก่อนอยากเข้าหาเขาแทบตาย แต่ในตอนนี้กลับผลักใสเขาให้หลานอี้หนานงั้นหรือ ..ยิ่งนางอยากหนีเขาก็ยิ่งสนุกที่ได้ตาม เฉินเฟยหยางไม่ได้กล่าวตอบคำถามของหลานอี้หนาน ยิ่งทำให้เจ้าตัวร้อนใจ เผยสายตาแดงก่ำคล้ายร้องไห้ออกมา “ทะ..ท่านแม่ทัพล้อข้าเล่นแรงเกินไปแล้วนะเจ้าคะ หลานอี้หนานเจ้าอย่าไปฟังคำเขามาก” รีบๆมาเอาพ่อพระเอกของเจ้าออกไปสิ!! จ้าวเสวี่ยซินขยับกลอกตาไปมาเป็นสัญญาณให้แม่นางเอกรีบเข้ามา แต่ว่าดูเหมือนนางจะไม่อยู่กับล่องกับลอย หลานอี้หนานยังคงมีแววตาโกรธเคืองเคล้าน้ำตามองมายังนาง จ้าวเสวี่ยซินแทบอยากนำมือก่ายหน้าผาก มาน้ำตาคลอเบ้าเจ้าน้ำตาอะไรตอนนี้! “ข้าเป็นถึงแม่ทัพ ไยจะกล้าล้อเล่น เจ้าเป็นของข้าข้าเป็นของเจ้า รังแกข้าแล้วรับผิดชอบข้าด้วย” เฉินเฟยหยางบรรจงปั้นหน้าเศร้าหมอง เผยรอยยิ้มบางเบาคล้ายอ้อนวอนได้อย่างน่าหมั่นไส้! “!!” จ้าวเสวี่ยซินที่อึ้ง ทึ่ง วิญญาณใกล้หลุดจากร่าง “!!” ตามมาด้วยชิงเหยาที่เกือบจะสำรอกเอาอาหารเย็นออกมา เพราะคำพูดแสลงหูของท่านแม่ทัพ!! “!!” หนิงผิงที่อึ้งพร้อมกับใบหน้าแดงก่ำ มองเห็นเพียงบุรุษผู้อ่อนโยนอ้อนวอนขอความรักจากสตรี! หยุด!!! อี๋!! คนตอแหล!!! ขอด่าได้ไหมเจ้าคะ!! ดูสายตายิ้มเยาะนั่นสิ!! ต้องการทำให้นางดูแย่ในสายตาของหลานอี้หนานต่อไปใช่หรือไม่!! ทว่านางจำต้องเก็บคำด่ากลืนลงคอเมื่อคนตัวสูงไม่ปล่อยให้นางได้กล่าวสิ่งใด ขยับตัวหันหลังเตรียมเดินเข้าเรือนตัวเองไปอย่างหน้าตาย คนตัวเล็กในอ้อมแขนเริ่มดิ้นไปมา “ไม่อาววว!! ปล่อยข้านะไอคนเจ้าเล่ห์ คนตีสองหน้า!” นางคว้าหมับเข้าลำต้นไม้ต้นหนึ่งที่เดินผ่าน ใช้นิ้วจิกมันไว้ไม่ยอมปล่อย อย่าปล่อยเด็ดขาด อย่าปล่อยเด็ดขาดเสวี่ยซิน!! “มาเร็วเถิด ปล่อยไว้นานเจ้าจะป่วยเอานะ ‘ภรรยาข้า’" กรี๊ดดด!! ใครภรรยาแก๊!! “นะ..นะ หนิงผิง!” นางตัวสั่นหงึกๆมองหาตัวช่วยเหลือ สายตาบรรจบเข้ากับหนิงผิง ทว่าดูเหมือนหนิงผิงจะกู่ไม่กลับ ยามนี้หนิงผิงทาบมือไว้บนอก ใบหน้าแดงก่ำราวกับสาวแรกแย้มถูกคนรักขอแต่งงาน นางที่จะคิดร้องให้ช่วยจำต้องหยุดความคิดลง อย่าหลงกลเขาหนิงผิง! “ชะ..ชิงเหยา..” ในเมื่อตัวช่วยแรกต้องตัดผ่าน จึงเคลื่อนสายตาไปยังบุรุษเพียงคนเดียวในที่นี้ ทว่าเขากลับไม่ยอมสบสายตานาง หันข้างมองชมนกชมไม้รอบตัว ใบหน้าคมคายของชายหนุ่มมีเหงื่อผุดและกล่าวขอโทษคุณหนูจ้าวเสวี่ยซินภายในใจ เขาไม่อยากกลับไปยังการฝึกดั่งนรกนั่นอีกรอบ.. “ตัวช่วยเจ้าหมดแล้ว เราไปกันได้หรือยัง” เฉินเฟยหยางเอ่ยขณะก้มมองคนตัวเล็กที่ยังเกาะต้นไม้ไม่ปล่อย เขามองเห็นเป็นภาพลูกแมวตัวเล็กๆ กำลังกางเล็บของมันไว้กับต้นไม้เท่านั้น จ้าวเสวี่ยซินยังไม่ยอมแพ้เหลือบสายตาไปยังสตรีสวมชุดขาวข้างกายชิงเหยา หญิงสาวที่กำลังก้มหน้าอยู่แม่นางเอกของเรื่องนั่นเอง ใช่ นางยังเหลือแม่นางเอกอีกคนนี่! “หลานอี้หนาน!” นางคิดจะร้องเรียกแม่นางเอกอีกรอบ ทว่าเฉินเฟยหยางไม่ปล่อยนางไปง่ายๆ เขาออกแรงเพียงเล็กน้อย ย้ำว่าเล็กน้อยเท่านั้น ก็สามารถดึงนางที่เกาะติดต้นไม้ออกอย่างง่ายดายราวกับเด็ดผลไม้ก็ไม่ปาน “ไม่เอา!! ข้าไม่อยากเข้าเรือนของท่าน ข้าจะกลับเรือนของข้า!” “เจ้าชอบห้องกว้างตกแต่งงดงามไม่ใช่หรือ ห้องของข้าเหมาะสมที่สุด" "เคยบอกเมื่อไหร่กันเจ้าคะ!" "..อีกอย่างเรือนของเจ้านั้นก็ไกล ค่ำมืดมีลมหนาว ประเดี๋ยวจะจับไข้ ข้าหวังดีแท้ๆ หึหึ” หึหึ ทำไมมมม!! เฉินเฟยหยางไม่ฟังความนางทำหูทวนลม ขายาวๆก้าวตรงไปยังเรือนของตัวเอง ปล่อยให้คนตัวเล็กบนบ่าดิ้นไปมาบ่นเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา กระทั่งนางหมดแรงไปเอง มือเล็กกวัดแกว่งไปมาในอากาศเพื่อหาที่ยึดเหนียว ก่อนจะปล่อยตัวเองไปกับแรงโน้มถ่วง เมื่อรู้ชะตาของตัวแล้วว่าอย่างไรก็คงไม่รอด ดวงตากลมโตวาวดุจแก้วใส ปากเล็กย่นลงจนบู้บี้ แก้มขาวๆอมลมจนแก้มป่องราวกับเด็กบนบ่าหนาของบุรุษรูปงาม แงงง ใครก็ได้ช่วยนางด้วย!
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม