บทที่ 10 เรื่องน่าอาย

2315 คำ
ปัจจุบัน... แพตตี้อาบน้ำเข้านอน มีเรื่องในหัวหลายเรื่องที่อยากจะพูด เพียงแค่รอคนตัวโตใส่เสื้อผ้าเสร็จ ซึ่งการจ้องมองของเธอนั้นทำให้ชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่น “เหมือนมีเรื่องให้คิด” เขาขึ้นเตียงนอนมาหาเธอ พายุอยู่ในชุดนอนลายทาง เขาง่วงเต็มที วันนี้ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้พักเลยสักนิด “ไม่มีอะไรค่ะ ฉันแค่สงสัยว่า...” “ว่า?” อยู่ ๆ แพตตี้ก็ชะงักคำพูดไว้ ทำให้ชายหนุ่มเอ่ยถามอีกครั้ง ทว่า “...ไม่มีอะไรแล้ว” แพตตี้ฉีกยิ้มแทน เธอยังไม่อยากคิดมาก หรือหาเรื่องมาพูดให้เขาปวดหัว วันนี้ควรเป็นวันดี ๆ “หึ แต่พี่มีเรื่องจะพูด” ชายหนุ่มเอนตัวลงนอน เขายกแขนขึ้นค้ำข้อศอกพร้อมกับนอนตะแคงข้างเพื่อพูดคุยกับเธอ “คะ?” “เราพร้อมมีลูกจริงหรือเปล่า พอพี่ได้ยินขวัญพูด พี่ก็...อยากให้เราพร้อมจริง ๆ” หญิงสาวสบตากับเขา เธอกระตุกยิ้มออกมาบาง ๆ ไม่แปลกเลยที่จะมีคนหลายคนตกหลุมรักเขา ก็พราะว่าเขาจิตใจดีอย่างนี้ “พร้อมนะคะ ฉันชอบเด็กด้วย” “จริงเหรอ เราไม่ได้อยากเที่ยวหรือใช้ชีวิตเหมือนวัยรุ่นเหรอ แพตเพิ่งยี่สิบต้น ๆ เองนะ” “เอาเป็นว่าธรรมชาติดีกว่าค่ะ” ทว่าพอตอบเขาแบบนี้คนตัวโตกลับขยับตัวเข้ามาหาเธอเพิ่มมากขึ้น ราวกับจะทำอะไรบางอย่าง “จะทำอะไรคะ” “ธรรมชาติไง” “ไม่เอา วันนี้ไม่เหนื่อยเหรอ” “ไม่ ไม่เหนื่อย” “พี่พายุ” แพตตี้ดิ้นขลุกขลัก แอบคิดในใจว่าเขากำลังหลงเธอ ชายหนุ่มฟัดแก้มนุ่ม ๆ หนึ่งทีก่อนจะทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ พร้อมกับรั้งร่างบางเข้ามากอดแน่น “นอนก็ได้” “โกรธหรือเปล่าคะ” เขาส่ายหน้าเบา ๆ พายุเข้าใจว่าเธอเหนื่อย เขาไม่อยากบังคับเจ้าของร่างบางให้สนองตัณหาของเขา “พี่ไม่เหมือนคนไม่เคยมีแฟนเลย พี่แบบ...หื่นจริง ๆ” แพตตี้เงยหน้าขึ้นมองสันกรามคมสันของเขา “พี่...ซื้อเอาน่ะ” “จริงเหรอ...ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ” “หึ แต่พี่ไม่เจ้าชู้นะ พี่ไม่เคยหลอกใคร จ่ายเงินแล้วจบแค่ตรงนั้น” เขาว่าหน้าตาย แววตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความจริงใจ “จริง ๆ นะ ไม่เชื่อเหรอ” “ฉันว่า...ไว้พิสูจน์ดีกว่าค่ะ เราเพิ่งได้ชีวิตด้วยกัน” หญิงสาวก้มหน้าลง เธอเกรงว่าจะเป็นเธอเองที่รู้สึกอยู่ฝ่ายเดียว ส่วนเขานั้นแค่หลงร่างกายเธอ คำว่ารักจากเขายังสัมผัสไม่ได้เสียด้วยซ้ำ “โอเค ฝันดีครับ” “ฝันดีนะคะ...” เปลือกตาหนาข่มปิดลง เขาอ่อนเพลียเช่นกันวันนี้ เวลาได้ผ่านไปเรื่อย ๆ พร้อมกับลมหายใจสม่ำเสมอของคนตัวโต กลิ่นกายของเขานั้นหอมกรุ่น บรรยากาศเย็น ๆ ในเวลากลางคืนนี้ ไม่รู้ว่าคิดอะไรในหัว เธอนอนไม่หลับ เรียวแขนเล็กกระชับกอดร่างหนา เธอกลัวว่าวิวาห์ที่ถูกจัดขึ้นนี้จะจบลงไม่สวย แต่คิดไปคิดมา...ตอนนี้เขาก็อยู่กับเธอแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวล คิดได้อย่างนั้นเธอก็ค่อย ๆ ผล็อยหลับตามคนตัวโตไปในที่สุด... เช้าวันต่อมา... เสียงนาฬิกาปลุกอย่างเช่นทุกวันจากโทรศัพท์มือถือทำให้เปลือกตาของพายุค่อย ๆ ลืมขึ้น เขาคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา แม้นจะงัวเงียแต่ความรับผิดชอบก็ทำให้เขายืดเส้นยืดสายก่อนจะลุกขึ้นนั่ง “จริงสิ” เขาหันไปมองข้างกาย ความแปลกใหม่หลังจากแต่งงานทำให้เขาหันไปมองหาเจ้าของร่างบางที่คิดว่าเธอคงนอนอยู่ข้าง ๆเขา ทว่ากลับไม่เห็น “แพต...” แต่แล้ว แกร็ก~ มีเสียงจากในห้องน้ำ พายุขมวดคิ้วเล็กน้อย แพตตี้ตื่นแต่เช้าอย่างนั้นหรือ… “ใช้ห้องน้ำเหรอแพต” “ค่ะ...อึก พี่พายุลงไปใช้ข้างล่างก่อนนะคะ” เสียงของแพตตี้แปลก ๆ ทำให้ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินเข้าไปใกล้ประตูห้องน้ำด้วยความเป็นห่วง “เป็นอะไรหรือเปล่า” “เปล่าค่ะ” “โอเค พี่รอนะ พี่จะอาบน้ำไปทำงานน่ะ” ชายหนุ่มเดินไปหยิบผ้าขนหนูผืนใหม่ออกมาจากตู้ เขาถอดชุดนอนออกเปลี่ยนเป็นพันผ้าขนหนูรอบเอวสอบ พายุยืนบิดตัวไปมาออกกำลังกายเล็กน้อยในตอนเช้ารอคนตัวเล็กทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ แสงอาทิตย์ที่ทอเข้ามาภายในบ้านทำให้เขานึกถึงวัยเด็ก เขาเคยอาศัยอยู่กับพ่อแม่ภายในคอนโดมิเนียมก่อนจะย้ายมาอยู่บ้านเดี่ยวหลังนี้ในเวลาต่อมา ข้าวของเครื่องใช้ครบครัน พายุคิดว่าตนเกิดมาโชคดี มีครบทุกอย่าง ครอบครัวโอบกอดเขาด้วยความรัก เพราะอย่างนั้นเขาถึงชอบหยิบยื่นความเมตตาให้กับคนอื่นมาเสมอ ความอัธยาศัยดีของเขาถูกปลูกฝังจากครอบครัวแสนอบอุ่น “นานจัง...” ชายหนุ่มเดินกลับมาที่หน้าประตูห้องน้ำอีกครั้ง ทว่ารอบนี้ไม่ทันได้เอ่ยเรียก บานประตูห้องน้ำก็ถูกเปิดพรวดออกมาพร้อมกับเจ้าของร่างบางที่เหงื่อเปียกโชกทั้งตัว “เกิดอะไรขึ้น” “เอ่อ...พี่คะ...” “หืม...” พายุมึนงง เขายกมือขึ้นลูบหน้าผากเล็กที่ผมของเธอเปียกจากเหงื่อที่ชื้นออกมา “อย่าเปิดฝาชักโครกนะคะ” แพตตี้กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เธอไม่อยากบอกเรื่องน่าอายนี้ให้เขาได้รับรู้ กว่าจะทำใจออกมาได้นั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะตอนนี้เธอกับเขาไม่ต่างจากคนแปลกหน้าที่ถูกจับให้มาอยู่ด้วยกัน “ทำไม ส้วมตัน?” “อึก...ไม่ใช่” “จริงเหรอ ทำไมเราทำหน้าแบบนั้น” แพตตี้อยากร้องไห้ เขาเดาถูก แต่เธออายเกินไปที่จะบอกอย่างนั้น “คือ เอ่อ...พี่ อึก...” “หึ ไม่ต้องอายหรอกนะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติ” “ไม่จริง มันน่าอายมากเลยค่ะ งื้ออ~ ฉันไม่อยากให้พี่ใช้ห้องน้ำ พี่ไปอาบน้ำห้องข้างล่างได้ไหม” “หึ...” “อย่าขำสิ” “ฮ่า ๆ” พายุอดกลั้นไว้ไม่ได้จริง ๆ ฝ่ามือหนากุมหน้าท้องที่เต็มไปด้วยซิกแพคพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง “พี่พายุ! ฉันอายจริง ๆ นะ เราโทรเรียกให้คนมาจัดการได้ไหม” “แล้วตอนนี้มัน อึก มันเป็นยังไง กดไม่ลงงั้นเหรอ” “พี่พายุ!” แพตตี้หน้าดำหน้าแดง เธออายเขา ไม่คิดว่าวันนี้จะท้องผูก แต่ท้องผูกไม่เท่าไร ชักโครกกลับกลั่นแกล้งเธอ โชคชะตาไม่เข้าข้างเธอเลยวันนี้ “หึ เดี๋ยวพี่จัดการให้” “พี่จะทำอะไรคะ ไม่เอาค่ะ อย่าเข้ามานะคะ” ฝ่ามือเล็กดันแผ่นอกแกร่งไว้ จนใช้หนุ่มยกมือว่าวางทาบฝ่ามือของเธอ “เราแต่งงานกันแล้วนะ ถ้าไม่ให้ผัวทำให้ จะให้ใครทำให้” พายุเข้าใจว่าเธออาย แต่สำหรับเขาที่เห็นมาทุกรูปแบบของมนุษย์นั้นเข้าใจเป็นอย่างดี “แต่ แต่มันน่าเกลียด” “ไม่หรอก พี่น่ะ...ตรวจอึคนไข้ด้วยนะ” เขาว่าพร้อมกับอมยิ้มมองคนตัวเล็กที่เม้มริมฝีปากอยู่ “ไม่เอา ฉันอาย แล้วอย่างนี้...อึก ฉันจะมองหน้าพี่ยังไง” พายุส่ายหน้าเบา ๆ เธอเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยจริง ๆ เขายกฝ่ามือหนาทั้งสองข้างจับไหล่บางไว้ “เราแต่งงานกันแล้ว ไม่มีอะไรต้องอาย อีกหน่อยก็ต้องตดให้กันดมได้” “พะ พูดอะไรน่ะ” “หึ...” พายุเดินเลี่ยงเธอเข้าไปในห้องน้ำ เขาอาศัยจังหวะทีเผลอของเธอ ทำเอาแพตตี้ตกใจ “ไม่นะ ไม่เอา...” หญิงสาวหลับตาปี๋เมื่อเขาหยิบที่ปั๊มโถส้วมขึ้นมา ร่างบางรับหมุนตัวหนีไม่อยากเห็น แต่ก็อดไม่ได้...อยากรู้ว่าเขาจะทำหน้ายังไง “อึก พี่พายุ” แพตตี้มองเขาที่จัดการทุกอย่างด้วยความรวดเร็ว ใบหน้าหล่อเหลาบู้บี้มองสิ่งปฏิกูลที่คนเป็นเมียทิ้งไว้ ก่อนจะใช้ที่ปั๊มอัดลมลงไป กึก ๆ “เรียบร้อย” พายุหันหน้าไปหาคนเป็นเมียที่ยืนอ้าปากเหวอ เธอห่อไหล่ขึ้นทั้งสองข้างด้วยความอับอาย อับอายเกินกว่าจะยืนอยู่ตรงนี้ ทว่า “กินผักผลไม้ด้วยนะ...” “พี่พายุ!!” แพตตี้เอ่ยเรียกชื่อคนขี้แกล้งเสียงดังเมื่อเห็นว่าเขากำลังล้อเลียนเธอ ซึ่งพายุต้องการบอกเธอจริง ๆ “พี่พูดจริง ๆ แพตท้องผูกมันไม่ดีต่อระบบลำไส้นะ” หญิงสาวอยากจะเป็นลม “น่าจะหลายวันด้วย...” “หยุดพูดเลยนะ ฉันไม่อยู่แล้ว...” ร่างบางว่าเสร็จก็วิ่งหางจุกตูดออกจากห้องน้ำไป เธออับอายเกินกว่าจะอยู่ตรงนี้ แถมกลิ่นของมัน...ก็ทำให้เธออยากแทรกแผ่นดินหนีอีกด้วย เวลาต่อมา... ใบหน้าเล็กที่ลอยเข้ามาในหัวพลอยทำให้วันนี้คุณหมอพายุมีสีหน้ายิ้มแย้มมากกว่าทุกวัน “ยิ้มมาแต่ไกลเลยนะครับคุณหมอ” “หวัดดีครับลุง เมื่อคืนสนุกไหมครับ” เขาจับสายกระเป๋าสะพายข้างไว้ พายุเอ่ยถามคุณลุงรปภ. ที่โรงจอดรถของโรงพยาบาล “ครับ ผมไม่ได้กินอาหารอร่อย ๆ แบบนี้มานานแล้ว ขอบคุณคุณหมอด้วย แล้วก็...ภรรยาคุณหมอด้วยนะครับ” “ผมจะบอกเธอให้ครับ แต่เดี๋ยวผมไปทำงานก่อนนะครับ รถเยอะใส่หน้ากากกรองฝุ่นด้วยนะครับ” พายุว่าพร้อมรอยยิ้ม เขารีบเดินไปสแกนนิ้วเข้างาน แม้นตนจะเป็นถึงลูกชายคนโตของเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้ แต่คุณหมอหนุ่มก็ไม่เคยใช้ข้ออ้างในการมาสาย ทว่าวันนี้เกิดเหตุเล็กน้อยทำให้เขามาสายจนได้ โชคไม่เข้าข้างอีกเมื่อมองเห็นคนเป็นพ่อกำลังอยู่บนลิฟต์ที่กำลังปิดประตูลง ท่านยกแขนขึ้นมองดูนาฬิกาบนข้อมือ ใบหน้านิ่งเรียบนั้นเป็นสิ่งสุดท้ายที่พายุเห็นก่อนที่ประตูลิฟต์จะปิดไป “เฮ้อ...” เขาพ่นลมหายใจออกมา บิดาของเขาเวลาอยู่ที่โรงพยาบาลกับอยู่ที่บ้านนั้นต่างกันราวกับคนละคน ด้วยความที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของผู้บริหาร ทว่าวันนี้ต่างออกไป …พายุไม่เคยสัมผัสความรู้สึกเช่นนี้มาก่อน แม้นจะเจอเรื่องน่ากังวล แต่เขากลับยิ้มออกมาเป็นระยะ ๆ เมื่อนึกถึงต้นเหตุในการมาสายของเขาในวันนี้ พายุเดินเข้าลิฟต์ไป เขากำลังคิดว่าเธอเป็นนักโภชนาการแต่กลับท้องผูก แต่ก็อย่างว่าขนาดว่าเขาเป็นหมอยังไม่สบายได้เลย “หึ...” เขาหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงใบหน้าเล็กตอนส่งเขาขึ้นรถ เธอบอกว่าจะให้ช่างมาดูชักโครกที่บ้าน แม้นว่าบ้านจะไม่ได้เก่าแต่ก็อายุเยอะมากแล้ว ชายหนุ่มไม่อยากขัดใจ เขาให้เธอทำตามที่เธอสบายใจ ติ๊ง! เสียงแจ้งเตือนลิฟต์ดังขึ้นเมื่อเคลื่อนมาถึงที่หมาย พายุก้าวขาออกจากลิฟต์ด้วยความรีบร้อน โชคดีที่ยังไม่ถึงเวลาผ่าตัดที่เขานัดคนไข้ไว้ แต่การมาช้าก็ทำให้การเตรียมตัวนั้นช้าไปด้วย ความรีบร้อนอาจจะทำให้เขาทำงานผิดพลาดได้ “มาช้านะ...” ขวัญตาเอ่ยพูดขึ้นเมื่อเห็นร่างหนาของคนเป็นเพื่อนเดินเข้ามาในห้องเปลี่ยนชุดสำหรับผ่าตัดคนไข้ แต่พอหันไปมองอุปกรณ์ที่เขาต้องเตรียมนั้น... “มึงเตรียมให้กูเหรอวะ” “ช้านัก มาช้าแล้วจะโดนด่าก็รู้” เขายิ้มให้กับคนเป็นเพื่อน ขวัญตาพ่นลมหายใจออกมา เธอยินดีที่จะทำนั่นนี่ให้เขา แต่ให้เดาต้นเหตุของการมาสายของคนเป็นเพื่อนคงไม่พ้นผู้หญิงคนนั้น “เคสนี้ไม่ยาก เป็นผู้ช่วยก็ให้มีสติ” “อืม พี่สตาฟมาแล้วเหรอวะ” เขาโน้มหน้าลงมากระซิบเบา ๆ ที่ข้างหูของเธอ “อืม น่าจะคุยกับคนไข้อยู่” พายุพยักหน้ารับ อีกไม่นานเขาก็จบแพทย์เฉพาะทางต่อยอดแล้ว แต่ถึงกระนั้นด้วยอายุที่ยังน้อยและขาดประสบการณ์ เคสยาก ๆ มักจะให้สตาฟหรือแพทย์ที่จบเฉพาะทางต่อยอดนั้นเป็นคนผ่าตัดส่วนเขาจะได้เป็นผู้ช่วย แต่สำหรับเคสที่ไม่ยากชายหนุ่มมักได้ผ่าตัดเองตลอด “แต่กูเคยเข้าช่วยพี่เขาแล้วนะเว้ย รอบหน้ากูผ่าเองได้แล้ว” “หึ...” ขวัญตาหัวเราะออกมาเบา ๆ พายุเรียนเก่งก็จริง แต่ก็อดห่วงไม่ได้อยู่ดี “อย่าประมาทจะดีกว่า” “แต่มึงได้ผ่าแล้วนิ” เขากำลังพูดถึงคนไข้ที่ต้องทำการหยุดหัวใจให้หยุดเต้นก่อนถึงจะผ่าตัดได้ ซึ่งต้องอาศัยความเชี่ยวชาญ แต่ด้วยความเก่งและมีสติของขวัญตาทำให้เธอได้รับความไว้วางใจจากอาจารย์แพทย์ อีกทั้งพ่อของเขาไม่อยากให้พายุทำ ซึ่งความผิดพลาดเพียงนิดอาจจะทำให้เขามีปัญหาระหว่างขึ้นรับตำแหน่งจากผู้เป็นพ่อ “อืม ไม่ยากหรอก แต่ก็ต้องมีสติ” “กูมีแน่วันนี้ อารมณ์ดีว่ะ...” พายุเปลี่ยนชุดด้วยรอยยิ้ม ทว่าการถอดเสื้อของเขาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยนั้นทำให้ขวัญตารีบหมุนตัวหนี “ทำอะไรของแก ไม่เห็นว่าฉันเป็นผู้หญิงหรือไง” “หึ...อะไรวะ มึงก็ออกไปสิ” เขาไม่สนใจเธอเลยสักนิด ขวัญตาพ่นลมหายใจออกมา ความเป็นห่วงของเธอ ไม่รู้ว่าเขาสัมผัสได้บ้างหรือเปล่า...
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม