หลายวันต่อมา
วันนี้ที่โรงเรียนมีการจัดแข่งบาสระหว่างโรงเรียนฉันกับโรงเรียนอื่นที่เป็นระดับต้นๆของจังหวัดทั้งนั้นและตัวเต็งนักกีฬาของโรงเรียนฉันที่ลงแข่งคราวนี้ก็คือพี่บอลรุ่นพี่ชั้น ม.6ที่ฉันแอบปลื้มอยู่และสองวันก่อนหน้านี้อยู่ๆคนที่ฉันปลื้มก็เดินเข้ามาหาฉันท่ามกลางสายตาของเด็กนักเรียนหลายคนแล้วก็ทำเรื่องที่ฉันไม่เคยคาดคิดมาก่อนนั่นก็คือ พี่บอลขอฉันคบซึ่งฉันก็ตอบตกลงไปทันที แน่ล่ะ ก็ฉันแอบชอบพี่เขามาตั้งแต่ที่อยู่ ม.1แล้ว เรื่องอะไรที่ฉันจะต้องเล่นตัวล่ะ
“ รอนานไหมโทษทีนะพวกเพื่อนๆพี่มันมัวแต่ชวนถ่ายรูป ”
พอฉันเงยหน้าขึ้นจากโต๊ะม้าหินอ่อนใต้ต้นไม้ใหญ่ก็เห็นเป็นพี่บอลที่ยังอยู่ในชุดนักกีฬาได้อย่างเท่ห์บาดใจ เสื้อกล้ามสีดำขลับผิวทำให้มองเห็นไหปลาร้าได้อย่างชัดเจนแล้วก็ยังมีกล้ามแขนที่น่ามองนั้นอีก โอ๊ยยย เลือดกำเดาฉันแทบไหล
“ ไม่เป็นไรค่ะ นิ้งรอได้ ”
ฉันยิ้มตอบให้พี่เขาก่อนจะลุกเข้าไปหานักกีฬาที่ทำคะแนนให้ทีมจนสามารถคว้าชัยชนะมาให้โรงเรียนได้อย่างขาดลอย
“ พี่ขอขึ้นไปเอาของบนห้องก่อนได้ไหมพอดีมีสมุดการบ้านอยู่ในนั้น ”
พี่บอลก็ส่งยิ้มให้ฉัน ทุกครั้งที่ฉันเห็นรอยยิ้มนี้มันทำให้หัวใจแทบละลาย พี่เขาเป็นคนหน้าตาดี สูงสักร้อยเจ็ดสิบน่าจะได้ ผิวขาวรูปร่างสมส่วนตรงสเป๊กฉันทุกอย่าง
“ ได้สิคะนิ้งไม่ได้รีบสักหน่อย ”
ฉันพยายามเก็บอาการตื่นเต้นเอาไว้ไม่ให้ออกหน้าออกตาจนเกินไป วันนี้พี่บอลชวนฉันไปกินไอศกรีมที่พึ่งมาเปิดใหม่อยู่หน้าโรงเรียนได้ไม่แค่กี่เดือนแต่ได้รับการตอบรับค้อนข้างดีได้ยินมาว่าร้านมีการตกแต่งที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างพวกเด็กวัยรุ่นเด็กนักเรียนที่หาที่นั่งจู่จี๋กันพอรู้ว่าพี่เขาชวนฉันไปร้านนั้นมันเลยอดตื่นเต้นไม่ได้
“ ไปด้วยกันไหมล่ะคะนิ้งจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวไง ”
“ ไปก็ได้ค่ะ ”
ฉันพยักหน้าก่อนจะเดินตามพี่บอลไปที่ห้องเรียนของพี่เขาที่อยู่ตึกใกล้ๆนี้เองแค่ไปเอาของแปปเดียวฉันเลยคิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรแต่แล้วฉันก็รู้ว่าตัวเองคิดผิด
“ พี่บอลจะทำอะไรคะ ”
อยู่ๆพี่บอลก็ดึงแขนฉันเข้าไปในห้องแล้วดันหลังฉันไปชนเข้ากับขอบโต๊ะตัวหนึ่งฉันตกใจมากแต่ก็ไม่ได้คิดจะหนี
“ พี่ชอบคะนิ้งมากนะแล้วพี่ก็แอบมองคะนิ้งมานานแล้ว ”
เสียงทุ้มเอ่ยไม่ได้ดังมากฉันถูกพี่บอลจ้องหน้าด้วยสายตาที่เกินจะต้านทาน ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติทำให้ฉันไม่กล้าขยับตัวเลย
“ คือ….. ”
ฉันก้มหน้าอ้ำอึ้งเพราะรู้สึกประหม่านิดหน่อยขณะที่พี่บอลขยับเข้ามาจนชิด ร่างหนาของพี่เขาทำให้ฉันหวั่นไหวมาก
“ คะนิ้งก็ชอบพี่มานานแล้วไม่ใช่หรอ ”
พี่เขาเชยคางฉันขึ้นลมหายใจร้อนผ่าวที่รดลงมาต้นคอทำให้ฉันยิ่งประหม่ามากกว่าเดิม พี่บอลลากสายตาไปตามใบหน้าของฉันลงมาเรื่อยๆก่อนจะกลับมาหยุดที่ริมฝีปากของฉันอีกครั้ง พี่บอลใช้นิ้วเกลี่ยไปมาเบาๆจนฉันรู้สึกสยิวไปหมดร่างหนาพยายามแทรกเข้ามาจนร่างกายของเราเบียดเสียดกันอยู่ พี่บอลมองฉันด้วยสายตาที่เริ่มจะหื่นขึ้นและในตอนนั้นก็สอดลิ้นเข้ามาในโพรงปากทันที
“ อื้อออ ”
พี่บอลจูบฉันด้วยความเร่าร้อนและดูเหมือนจะเก่งทีเดียวขณะที่มือก็เริ่มแกะดุมเสื้อนักเรียนของฉันแล้วล้วงเข้ามาข้างในทันทีที่หน้าอกถูกสัมผัสฉันก็เกิดอารมณ์ ฉันเริ่มจูบตอบพี่เขาเราสองคนจูบแลกน้ำลายกันอยู่พักหนึ่งพี่บอลก็อุ้มฉันขึ้นมานั่งบนโต๊ะ ลิ้นร้อนเกี่ยวพันลิ้นของฉันอย่างดูดดื่มแล้วมือข้างที่ว่างอยู่ก็ถกกระโปรงนักเรียนฉันขึ้นจนมองเห็นกางเกงชั้นใน พี่บอลถอนริมฝีปากออกไปสายตาที่มองฉันตอนนี้มันทำให้ร่างกายร้อนรุ่มอยู่ข้างใน พี่บอลถอดเสื้อตัวเองออกอวดแผงอกแน่นๆและกล้ามหน้าท้องจนฉันอดไม่ได้เลยเผลอจ้องแต่ก็มองได้แค่แปปเดียวพี่บอลก็ควักของตัวเองออกมาโชว์
พี่บอลสอดลิ้นเข้ามาจูบฉันอีกครั้งแต่คราวนี้มันเป็นจูบที่อ่อนโยนกว่าเมื่อครู่มากฉันก็เคลิ้มสติเตลิดไปไกลรู้ตัวอีกทีพี่บอลก็สอดมือเข้ามาใต้กระโปรงแล้วลูบๆคลำๆน้องสาวของฉันและดูเหมือนว่าตรงนั้นมันเริ่มจะแฉะเต็มทีแล้ว พี่บอลยกขาฉันขึ้นวางบนโต๊ะแล้วแยกออกจากกันจนเห็นโหนกนูนของฉันลางๆ
“ พี่ขอนะพี่ไม่ไหวแล้ว ”
น้ำเสียงแหบพร่าเอ่ยขึ้นในขณะที่ส่วนหัวสีคล้ำถูไปมาที่ร่องคับของฉันผ่านกางเกงชั้นใน ฉันกำมือไว้แน่นแหงนหน้าขึ้นเพราะเป็นการเล้าโลมที่ทำให้ฉันมีความต้องการอีกฝ่ายมาก ฉันหายใจเร็วและถี่ขึ้นเรื่อยๆเมื่อรับรู้ว่าท่อนเอ็นที่ทั้งใหญ่และแข็งของพี่บอลกำลังจะเข้ามาในตัวฉันแล้ว
“ ขอโทษนะคะนิ้ง….นิ้งทำไม่ได้ ”
อยู่ๆร่างกายมันก็สั่งให้ปฏิเสธพี่เขา ฉันวิ่งออกมาจากห้องด้วยความรู้สึกสับสนไปหมด ทั้งที่พี่บอลเป็นผู้ชายที่ฉันแอบชอบมานานและเป็นผู้ชายในอุดมคติของฉันแต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉันถึงให้สิ่งที่พี่เขาต้องการไม่ได้และยิ่งไปกว่านั้นในเวลาแบบนั้นฉันกลับเห็นหน้านายทึ่มลอยเข้ามา
ทิมส์
ผมหันกลับไปมองบ้านที่ตัวเองอาศัยอยู่มาหลายปีกับป้าแท้ๆที่คอยดูแลผมมาตลอด
“ โทรกลับมาหาป้าบ้างนะ ”
ป้าเข้ามากอดผม ผมรู้ว่าท่านรักและเอ็นดูผมมากเพราะตั้งแต่ที่พ่อกับแม่ตัดสินใจแยกทางกันผมก็มีป้าที่แหละที่อาสารับเลี้ยงในขณะที่คนเป็นพ่อกับแม่ไม่ต้องการลูกอย่างผม
“ ผมฝากอันนี้ให้คะนิ้งด้วยนะครับ ”
ผมส่งของชิ้นหนึ่งฝากไปให้เธอคนนั้น คนที่ผมมอบทุกอย่างให้ไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นร่างกายแล้วก็หัวใจโง่ๆของผม
“ รีบไปเถอะครับเดี๋ยวขึ้นเครื่องไม่ทัน ”
คุณลุงคนหนึ่งหันมาพูดกับผมเมื่อเห็นผมทำหน้าอาลัยอาวร แกเป็นคนที่พ่อผมส่งมารับไปอยู่ด้วยหลังจากที่รู้ว่าตัวเองกำลังจะจากโลกนี้ไป ผมที่เป็นลูกชายแท้ๆและลูกชายเพียงคนเดียวเลยต้องไปรับมรดกและรับช่วงธุรกิจต่อซึ่งผมก็ยังไม่รู้รายละเอียดอะไรมากแต่ที่ผมตัดสินใจกลับไปกับคนพวกนี้เพราะว่าผมไม่ต้องการให้ทรัพย์สมบัติตกอยู่ในมือของผู้หญิงที่ทำให้ครอบครัวผมแตกแยก ก่อนขึ้นรถผมหันกลับไปมองป้าอรกับบ้านหลังข้างๆอีกครั้ง ต่อจากนี้ไปผมคงจะไม่ได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกแล้ว
เพราะผมคงจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก