บทที่3
1935 คำ
หลังเลิกเรียน
พอกลับมาถึงบ้านฉันก็เห็นประตูเปิดแง้มเอาไว้ด้วยความดีใจฉันเลยรีบวิ่งเข้าไปในบ้านเพราะปกติกว่าที่แม่จะกลับมาก็ไม่ต่ำกว่าหนึ่งทุ่มแต่วันนี้กลับไวจัง
“ แม่จ๋าคะนิ้งกลับมาแล้ว ”
ฉันส่งเสียงใสๆเข้าไปก่อนแต่พอเดินใกล้จะถึงห้องของแม่ฉันก็ได้ยินเสียงคนคุยกันเล็ดลอดออกมา
“ พี่นวลหอยพี่สวยจังผมขอชิมได้ไหมครับ ”
“ อ๊าส์!! เสียวจังแทนเอานิ้วเข้าไปได้ไหมพี่อยากสวยกว่านี้ ”
“ อ๊ะๆๆแบบนั้นจ่ะเสียวหอยมากเลย อู้ยยย ”
ตอนนี้ฉันเห็นแม่นั่งถ่างขาศีรษะชนหัวเตียงโดยที่ผู้ชายคนนั้นนั่งอยู่หว่างขาทั้งสองของแม่แล้วก้มลงดื่มด่ำของสงวนของแม่อย่างตะกละตะกลาม
“ ผมจะเอามันเข้าไปแล้วนะพี่ ”
“ อร้ายย!!แทนแรงๆเลยพี่เสียว อั๊นอ๋อยย ”
แม่ส่งเสียงรัญจวนออกมาพลางบีบนมตัวเอง นมของแม่มีขนาดที่ใหญ่มากพอบีบมากๆเข้าผู้ชายคนนั้นก็ก้มลงดูดในขณะที่ยังกระแทกเอวหนาใส่แม่ไม่หยุด
ตลั๊บๆๆๆ
“ โอ่ววว พี่นวลผมจะเสร็จแล้ว/พี่เหมือนกันขอแรงอีกหน่อยนะแทน อร้ายย!!! ”
เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้องแต่ก็ไม่อาจกลบเสียงทรมานของทั้งคู่ พอเสร็จไปแล้วน้ำหนึ่งแม่ก็ให้ผู้ชายคนนั้นนอนลงแล้วตัวเองขึ้นไปอยู่ข้างบนแทน แม่เอื้อมมือไปคว้าของลับของผู้ชายคนนั้นก่อนจะกดสะโพกลงไปทันที ฉันถึงกับยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองเพราะของที่แม่จับอยู่มันมีขนาดใหญ่จนฉันคิดเผื่อว่าถ้าแม่เอาเข้าไปในนั้นแล้วมันจะเจ็บมากแค่ไหน
พอแม่เริ่มขยับสะโพกฉันก็นั่งลงบ้าง สายตาคอยจ้องเวลาที่แม่ยกมือขึ้นขยำนมสองเต้าด้วยสีหน้าที่ยั่วยวนอีกฝ่าย ฉันค่อยๆสอดมือเข้าไปในเสื้อชั้นในตัวเองบ้างแล้วลองบีบนมดูเบาๆ มันให้ความรู้สึกแปลกๆจนฉันเริ่มอยากรู้มากขึ้นว่าถ้าคราวนี้ฉันเอานิ้วเข้าไปในน้องสาวตัวเองมันจะรู้สึกยังไง ฉันนั่งชันเข่าแล้วลองเอานิ้วลองแหย่เข้าไป เพียงแค่ครั้งแรกฉันก็รีบปิดปากตัวเอง
“ อืมมมพี่นวล ผมจะเสร็จอีกแล้ว ”
“ พี่ก็จะเสร็จเหมือนกันจ่ะแทน อื้อออ ”
เสียงของแม่กับผู้ชายคนนั้นดังสนั่นห้องในตอนที่ฉันเร่งความเร็วของนิ้วจนตอนนี้น้องสาวของฉันมีน้ำไหลออกมา
“ อร้ายยย!!แทนจ๋า ”
ตลั๊บๆๆๆ
ในขณะที่ฉันกำลังถึงจุดๆหนึ่งผู้ชายคนนั้นก็กระแทกเอวใส่แม่อย่างบ้าคลั่งจนในที่สุดฉันก็มองเห็นน้ำขุ่นขาวที่ผู้ชายคนนั้นปล่อยใส่เต็มหน้าท้องของแม่เต็มไปหมดซึ่งตอนนี้นิ้วของฉันก็เต็มไปด้วยน้ำใสๆเช่นกันแต่คววามรู้สึกมันเหมือนยังไม่ค่อยสุด คือมันไม่รู้สึกถึงความโล่งเหมือนที่เคยได้ยินมา
ฉันยังไม่เสร็จหรอทำยังไงดีนะ
หลังจากนั้นฉันก็เดินออกมาจากห้องโดยที่แม่กับผู้ชายคนนั้นยังทำกิจกามกันต่อ หลังบ้านของฉันสามารถทะลุออกไปถึงสวนผลไม้ที่เป็นของป้าอรซึ่งก็คือป้าของนายทึ่มนั่นเอง พอเดินมาถึงกระต๊อบหลังเล็กๆที่ป้าอรปลูกเอาไว้นั่งพักเวลาที่มาเก็บผลไม้ไปขายฉันก็เห็นนายทึ่มกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ฉันเลยเดินเข้าไปหา
“ ทำอะไรอยู่หรอนายทึ่ม ”
ฉันยื่นหน้าเข้าไปถามด้วยรอยยิ้มถึงหมอนี่จะดูซื่อๆบื้อๆแต่ก็ถือว่าเป็นเพื่อนผู้ชายที่ไว้ใจได้เพราะทั้งห้องคงจะมีแค่หมอนี่ล่ะมั้งที่ไม่เคยพูดจาลามกกับเพื่อนผู้หญิงเลย
“ เราอ่านหนังสือสอบน่ะ ”
นายทึ่มขยับฐานแว่นตาหลังจากที่เงยหน้าขึ้นมามองฉันแล้วก้มหน้าลงไปอ่านหนังสือหนาๆนั้นต่อ
“ รีบอ่านทำไมยังไม่ใกล้สอบสักหน่อย ”
ฉันหย่อนก้นลงนั่งข้างๆนายทึ่มแต่พอแขนของฉันโดนตัวแค่นิดเดียวหมอนั่นก็ขยับหนีฉันทันทีแถมยังทำหน้าตลกอีก
“ เป็นอะไรทำยังกับไม่เคยนั่งใกล้ผู้หญิงไปได้ ”
พอถามแล้วฉันก็คิดตาม จริงๆจะว่าเราสองคนโตมาด้วยกันก็ได้นะเพราะนอกจะเรียนอยู่ห้องเดียวกันตลอดบ้านก็ยังอยู่ติดกันอีกแต่ฉันก็ไม่เคยเห็นหมอนี่นั่งคุยกับเพื่อนผู้หญิงเลยเพราะความเป็นเด็กเนิร์ดและชอบเก็บตัวเลยไม่ค่อยมีเพื่อนเท่าไหร่
“ ก็เราไม่เคยนั่งใกล้ผู้หญิงจริงๆนิ ”
เสียงทุ้มของนายทึ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับหน้าแดงๆที่บ่งบอกถึงความไร้เดียงสาสวนทางกับรูปร่างที่เริ่มจะโตเป็นหนุ่มน้อย
“ งั้นก็เคยซะสิ ”
ไม่พูดเปล่าคราวนี้เราขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิม ใกล้จนตัวของเราติดกัน
“ ทำไมเขินหรอ ไม่ต้องเขินหรอกน่าแค่นั่งใกล้กันนิดๆหน่อยๆเราไม่ท้องหรอก ”
ฉันเอ่ยอย่างติดตลกพลางขยับใบหน้าเข้าไปมองหมอนั่นใกล้ๆ จะว่าไปพอมองใกล้ๆชัดๆแบบนี้นายทึ่มก็น่ารักดีแฮะ คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนาๆนี่ก็น่า….. ฉันสลัดความคิดลามกออกไปจากหัวก่อนจะรีบลุกขึ้น
ไม่ได้ แล้วฉันจะมาอยากจูบหมอนี่ทำไม
“ เรากลับบ้านก่อนนะ ”
พูดแล้วฉันก็เดินออกมาทิ้งให้นายทึ่มนั่งอ่านหนังสือคนเดียว
วันต่อมา
วันนี้เป็นวันอาทิตย์หลังจากที่พึ่งตากผ้าเสร็จหมาดๆฝนห่าใหญ่ก็ดันเทลงมาซะได้ฉันรีบวิ่งไปเก็บผ้าเข้าบ้านก่อนจะเดินไปปลุกให้แม่ลุกมากินข้าวเช้าด้วยกันแต่ทว่า….
ฉันกลับเห็นแม่นอนอยู่กับผู้ชายคนหนึ่งในห้อง แม่พาผู้ชายมานอนที่บ้านตั้งแต่เมื่อไหร่กันทำไมฉันไม่เห็นรู้เรื่อง
ในตอนที่ฉันกำลังจะปิดประตูห้องอยู่ๆผู้ชายคนนั้นก็ตื่นขึ้นมาแล้วดึงผ้าห่มออก แม่ฉันนอนเปลือยเปล่าไม่ใส่เสื้อผ้าซักชิ้น ผู้ชายคนนั้นก็เหมือนกันแต่น่าจะเด็กกว่าแม่ฉันหลายปีและถ้าจำไม่ผิดเขาพึ่งจะมีอะไรกับแม่ไปเมื่อวานนี้เอง พอลุกขึ้นได้ผู้ชายคนนั้นก็จับขาแม่ฉันถ่างออกจากกันแล้วแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลางก่อนจะใช้ลิ้นดูดนมแม่ฉันจนแม่ตื่นขึ้นมาในที่สุด ปกติถ้าฉันไปปลุกแม่จะด่าแล้วนอนต่อแต่กับผู้ชายนอกจากจะไม่ว่าอะไรแล้วแม่ยังดึงเข้าไปจูบอย่างดูดดื่ม ฝ่ามือหนาบีบขยำนมใหญ่ๆของแม่ไม่หยุดก่อนจะเลื่อนมืออีกข้างไปที่ของสงวนของแม่จนแม่ครางออกมาเสียงดัง
ในขณะที่แม่กับผู้ชายคนนั้นผลัดกันลูบๆคลำๆฉันก็เกิดอารมณ์บางอย่าง ฉันนั่งลงตรงประตูห้องของแม่แล้วเอานิ้วแหย่เข้าไปในของสงวนตัวเองช้าๆ
“ เจ็บจัง ”
ฉันเอ่ยออกมาเบาๆและพยายามเก็บเสียงตัวเองไม่ให้ดังไปกว่านี้แต่ว่านิ้วของฉันมันก็ทำให้ฉันรู้สึกดีจนคราวนี้ฉันเริ่มดึงกางเกงลง ดีที่เสียงแม่ฉันที่ดังอยู่ในห้องช่วยกลบเสียงของฉัน
ไม่งั้นมีหวังแม่ได้ตีฉันตายแน่ถ้ารู้ว่าฉันช่วยตัวเองแบบนี้
ฉันเริ่มมีอาการแปลกๆกับตัวเองตั้งแต่ช่วงที่ขึ้นชั้น ม.1 อาจจะเป็นเพราะฉันเห็นแม่มีอะไรกับผู้ชายมาตั้งแต่อายุได้เจ็ดขวบเห็นจนชินชาจนกลายเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว ภาพเหล่านั้นมันฝังอยู่ในความทรงจำของฉันและเหมือนว่ามันจะค่อยๆซึมซับจนวันนี้ฉันเริ่มอยากลองอยากรู้
แต่ก่อนที่ฉันจะทำอะไรไปมากกว่านี้ฉันก็ตัดสินใจลุกขึ้นใส่กางเกงแล้วรีบออกมาจากบ้าน ฉันเดินไปเรื่อยๆเพราะไม่รู้จะไปที่ไหนจนรู้ตัวอีกทีฉันก็เดินมาหยุดอยู่ที่กระต๊อบปลายสวนของป้าอรแล้ว ทันทีที่มองลอดเข้าไปฉันก็เห็นนายทึ่มกำลังนั่งทำอะไรสักอย่าง ฉันเลยเดินเข้าไป
“ มาตั้งแต่ตอนไหนเราตกใจหมดเลย ”
หมอนั่นเงยหน้าขั้นมาถามฉันด้วยใบหน้าใสซื่อเหมือนเช่นทุกครั้งแต่วันนี้ฉันรู้สึกว่านายทึ่มนี่น่ามองหน้าสุดๆ
“ พึ่งมานี่แหละว่าแต่นายทำอะไรอยู่หรอ ”
“ ทำโครงงานวิทยาศาสตร์อยู่น่ะ ”
พูดแล้วหมอนั่นก็เทไข่ลงไปในขวดแก้วแล้วเขย่าๆแต่จังหวะนั้นลมดันพัดมาแรงหลังคาที่มุงด้วยหญ้าแฝกของป้าอรเลยล่วงลงมาแผ่นหนึ่ง ฉันกับนายทึ่มหลบเกือบจะไม่ทัน
“ เป็นอะไรหรือเปล่า ”
ฉันถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง อยู่ๆนายทึ่มก็หน้าแดงขึ้นมา
“ เราไม่เป็นไรแต่คะนิ้งทับตัวเราอยู่ ”
หมอนั่นเอ่ยด้วยสีหน้าลำบากใจเพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ฉันเลยนอนคร่อมตัวนายทึ่มอย่างไม่ได้ตั้งใจแถมหน้าอกของฉันยังเบียดกับหน้าอกของหมอนั่นด้วย
“ แล้วไง ”
ฉันทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้เพราะนึกอยากแกล้งนายทึ่มนี่ดูสักครั้งเห็นปกติชอบเดินหนีเพื่อนผู้หญิงไม่รู้ว่านอกจากจะเป็นเด็กเนิร์ดแล้วยังเป็นพวกใจปลาซิวด้วยหรือเปล่า
“ คะนิ้งก็ลุกออกก่อนสิไม่งั้นเราจะลุกยังไง ”
หมอนั่นเอ่ยด้วยสีหน้าที่แดงจัดเห็นแล้วฉันก็อดขำไม่ได้ ขนาดฉันเป็นสาวเป็นแส้แท้ๆยังไม่เห็นจะรู้สึกอะไรเลย
“ แล้วถ้าเราไม่ลุกล่ะ ”
ฉันแกล้งถามต่อซึ่งมันทำให้หมอนั่นถึงกับเงียบไปเลย ตอนนี้ฟ้าข้างนอกเริ่มเปลี่ยนสี เมฆฝนหลายกลุ่มก้อนกำลังรวมตัวกัน ขณะที่ต้นไม้น้อยใหญ่ก็พัดเอาลมแรงๆเข้ามาภายในกระต๊อบน้อยๆแห่งนี้ไม่หยุด ฉันลุกขึ้นจากตัวของหมอนั่นเราสองคนขยับเข้าไปนั่งข้างในอีก ในความเงียบจึงมีเพียงสายฝนที่โปรยปรายลงมา
“ นี่นายทึ่มนายเคยจับนมผู้หญิงหรือเปล่า ”
ฉันก้มหน้าถามออกไปไม่รู้ว่าทำไมฉันถึงกล้าถามเรื่องแบบนี้กับผู้ชายแต่ฉันก็ถามออกไปแล้ว
“ ทำไมคะนิ้งถามเราแบบนี้ล่ะ ”
พอเจอฉันถามแบบนี้หมอนั่นก็เริ่มจะทำหน้าไม่ถูก
“ ก็ตอบมาก่อนสิ ”
ฉันแอบเห็นว่าหมอนั่นก็กำลังก้มหน้าอยู่เหมือนกัน
“ ไม่เคยหรอกเราจะเคยได้ไง ”
แม้เสียงทุ้มของหมอนั่นจะถูกเสียงฝนกลบแต่ฉันก็พอฟังรู้เรื่องที่สำคัญไปกว่านั้นตอนที่พูดนายทึ่มนี่หน้าแดงอย่างกับลูกตำลึงแน่ะ
“ แล้ว….นายอยากลองจับดูไหม ”
- ผู้เขียน
