กริ๊งงงงงงงงงงง
เสียงโทรศัพท์ภายในของห้องพักริตาและศรัญย์ชยาดังขึ้นหญิงสาวเดินมารับด้วยความตกใจ ใครโทรมากลางค่ำกลางคืนขนาดนี้ เธอเองก็เพิ่งอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ แขกมีปัญหาหรือเปล่านะถึงโทรมาหาเราตอนนี้
“สวัสดีค่ะ ริตาพูดค่ะ”
“ห้องน้ำที่ห้องฉันมีปัญหา เธอมาดูหน่อยซิ” เสียงทุ้มของภัควัตเอ่ยมาตามสายโทรศัพท์ ห้องน้ำมีปัญหาก็ตามแม่บ้านสิ มาบอกเธอทำไม
“เดี๋ยวริตา ไปตามช่างมานะคะ”
“ไม่ต้อง เธอรีบมาเดี๋ยวนี้”
“แล้วตาจะซ่อมได้เหรอคะ ต้องตามช่างสิคะ”
“ไม่ เธอนั่นแหละต้องมาเดี๋ยวนี้ อยากให้ผู้จัดการโดนไล่ออกรึไง ห๊า อีกนาทีเดียวถ้าเธอไม่มา ฉันไล่ออกยกสำนักงานแน่” แล้วเขาก็วางสายลงโครมใหญ่ อะไรของเขานะ เอาแต่ใจตัวเองจริง ถ้าเธอทำยึกยักกับเขา เขาคงไล่พนักงานออกจริงแน่ๆ เฮ้อ ถ้าเกิดทำงานด้วยกัน ใครจะไปทนอารมณ์ของเขาไหวเนี่ย ร้ายตลอดเวลาเลย
ริตาเห็นว่าตัวเองแต่งตัวเรียบร้อยแล้วจึงเดินออกนอกห้องไปหาเขาตามคำสั่ง ไปครู่เดียวคงไม่ต้องล็อกห้องหรอก เธอคิดในใจ เมื่อเดินออกมาอย่างรีบๆ เพราะห่วงสวัสดิภาพของเจ้าหน้าที่ ในรีสอร์ต ประเดี๋ยวจะโดนเด้งทั้งสำนักงานเพราะตัวเองเป็นเหตุ พอเดินจะถึงห้องเขาเธอเห็นเดรโกใส่ชุดนอนเดินออกมายิ้มๆ เมื่อเห็นเธอเขาก็ชูสองนิ้วให้ เดรโกยังอาบน้ำได้ แล้วเขามีปัญหาอะไรของเขานะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ริตาเคาะห้องเบาๆ ทั้งที่อยากเคาะแรงๆ ให้หายขุ่นเคือง
“เชิญ”เสียงทุ้มตอบกลับมา เธอเปิดประตูเข้าไปเห็นเขาใส่ชุดนอนยืนอยู่กลางห้อง น่าจะอาบน้ำเสร็จแล้วนี่ แล้วเรียกเรามาทำไม
“มีอะไรเสียเหรอคะ” เธอถามกล้าๆ กลัวๆ ยอมรับว่าเห็นสายตาเขาทีไรก็รู้สึกหนาวอย่างไม่ทราบสาเหตุ
“เดินมาดูเองสิ” เขาบอก ริตาจึงเดินเลยเข้าไปในห้องน้ำไม่ทันได้ยินเสียงล็อกประตูห้องดังกริ๊ก ตรวจสอบดูห้องน้ำไม่มีอะไรผิดปกตินี่นา เธอจึงเดินออกจากห้องน้ำ พอก้าวพ้นห้องน้ำเท่านั้น ภัควัตที่ยืนกอดอกรอที่หน้าประตูห้องน้ำก็คว้าร่างบางให้เซมาปะทะที่อกกว้างทันที
“อุ๊ย คุณวัต อย่าค่ะ” เธอร้องห้ามอย่างตกใจเมื่อเขาก้มลงจูบที่ซอกคอ
“ปล่อยค่ะ” ร่างบางดิ้นรน ผลักไสเขาออกแต่ไม่เป็นผลเลยแม้แต่น้อยเขากลับยิ่งจู่โจมหล่อนอย่างไม่สนใจฟังเสียงห้าม มือไม้เขาเปะปะไปทั่ว ริตาเองก็แทบหมดแรงจะดิ้นรนขัดขืน หล่อนตั้งตัวไม่ทันจริงๆ ที่จู่ๆ เขาก็มาล่วงเกินแบบนี้
“จะให้ปล่อยทำไมล่ะ ชอบไม่ใช่เหรอแบบนี้” เขาเงยหน้าพูด แล้วก้มลงจูบที่ริมฝีปากของริตาอย่างเร่าร้อน ริตารู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย มือบางเกาะเขาไว้แน่นเพราะกลัวว่าจะล้มลงไป เขาอุ้มหล่อนเดินตรงมาที่เตียง พอแผ่นหลังบางแตะที่ฟูกเย็นเฉียบเท่านั้นริตาก็ลุกขึ้นมาขัดขืนเขาอีกอย่างบ้าคลั่ง หล่อนจะยอมให้เขามาทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะหล่อนไม่ใช่ใครก็ได้ที่เขาจะมาลากขึ้นเตียงอย่างนี้ ไม่ว่าริตายิ่งดิ้นรนขัดขืนเขาไปเท่าไหร่ ยิ่งเหมือนไปปลุกไฟอารมณ์ของเขาให้เพิ่มขึ้นเท่านั้น ริตาเองก็เหนื่อยเกินกว่า จะทัดทานแรงของเขาได้ กระดุมเสื้อถูกปลดออกไปหมดแล้ว เขาแหวกสาบเสื้อหล่อนออกและกำลังก้มหน้าลงมา ก่อนที่ทุกอย่างจะดำเนินต่อไป เสียงระฆังช่วยชีวิตของหล่อนก็ดังขึ้น ภัควัตสบถอย่างหัวเสียก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบมือถือมา ริตาได้โอกาส จะลุกหนี แต่เขากลับกอดหล่อนไว้แน่นกว่าเดิม
“คุณแม่โทรมา ดิ้นมากๆ สิ ถ้าอยากให้ท่านรู้ว่าเธอทำอะไรอยู่กับฉันในห้องนี้” เมื่อเจอคำขู่นี้เธอถึงกับดิ้นไม่ออก ยอมอยู่นิ่งๆ ภายในอ้อมอกเขานั่นเอง
“ฮัลโหล คุณแม่เหรอรับ” เขาคุยกับมารดา ทั้งๆ ที่ยังแนบใบหน้าซุกอยู่ที่ซอกคอของริตา
“อ๋อ ครับๆ เรียบร้อยครับ”
“ริตาเหรอครับ” เขาเงยหน้าขึ้นมามองหน้าหล่อน
“แม่ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมจะดูแลเป็นอย่างดีเลย ไม่ต้องห่วงครับ สวัสดีครับ” เขาวางมือถือลงก่อนที่จะหันมามองเธอ
“ไม่ต้องทำหน้าหวาดกลัวขนาดนั้น แค่เรียกมานวดหลังเฉยๆ ไม่มีอารมณ์ทำอะไรหรอก แต่ถ้าลุกจากเตียงนี้ไปล่ะก็... ฉันไม่รับรองนะ” พอพูดจบเขาก็ปล่อยเธอออกจากอ้อมแขน ปล่อยให้เธอติดกระดุมมือไม้สั่นเลยทีเดียว นี่ขนาดเขาเรียกมานวดหลังเฉยๆ นะเนี่ย ภัควัตล้มตัวนอนลงและตบที่หมอนข้างๆ ให้หล่อนลงไปนอนด้วย แต่ริตาส่ายหน้า
“ลงมานอน” เขาพูดเสียงเข้มขึ้น ริตาจึงล้มลงไปนอนอย่างว่าง่ายและเขาก็กลับมาคว้าตัวไปกอดไว้ทันที ริตาพยายามดิ้นหนี ให้เขาเริ่มทำอย่างเมื่อครู่อีก เธอคงขาดใจตายแน่ๆ เลย
“นอนซะ ไม่ต้องดิ้นน่า ไม่ทำอะไรหรอก” เขากอดเธอไว้เหมือนเดิมเมือเธอเริ่มดิ้น และก้มหน้าลงมาสูดกลิ่นหอมอ่อนๆ ที่ซอกคอริตาอย่างแผ่วเบา ริตาเองก็อยากถามเขาเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงทำอย่างนี้ แต่ก็ไม่กล้าจึงได้แต่ก้มหน้าลงไปกับอกเขาแล้วหลับตาลงอย่างว่าง่าย ขืนดิ้นไปอาจจะไม่จบแค่นี้เป็นแน่
“นอนหลับไปซะเถอะ วันนี้ไม่มีแรงทำอะไรหรอก ว่ายน้ำแข่งกับเดรโกเหนื่อยจะตายอยู่แล้วเนี่ย” เขาพูดอู้อี้อยู่ที่ซอกคอเธอ