บทที่ 2

1513 คำ
“เฮลโล” ศรัญย์ชยาเอ่ยทักเขาเมื่อเขายื่นแก้วไวน์ให้ เดรโกยิ้ม ไม่ทันได้ฟังว่าหญิงสาวพูดอะไร เพราะเขาเอาแต่จ้องมองหญิงสาวอย่างถูกตาต้องใจในใบหน้าสวยหวานที่ดูมีชีวิตชีวาจนมองเพลินๆ ไป “หรือว่าไม่ใช้ภาษาอังกฤษ เอ่อ บงชูร์” เธอบอกสวัสดีเป็นภาษาฝรั่งเศส เดรโกก็ไม่ตอบอีก เขากลับยิ้มกริ่ม ลองไม่ตอบดูอยากรู้ว่าสาวสวยคนนี้จะทำยังไงถ้าพูดกับเขาไม่รู้เรื่อง “นายเป็นคนชาติไหนเนี่ย หนี่ซื่อไท่ กว๋อเหยิน (คุณเป็นคนไทยรึเปล่า) ยิ้มอีกตอบอะไรสักอย่างสิ อโลฮา (สวัสดี) อันนิยองฮาเซโย โคมบังวะ โอ๊ยฉันพูดทุกภาษาที่รู้จักแล้วนะ นายมาจาก ต่างดาวเหรอ อ้อฉันนึกออกแล้ว” “บะดึม กึ๊กกึ๋ย บุ๋ยโบ๋เบ๋ ตาเหล่ เจี๊ยก บู๋ๆ” ศรัญย์ชยาทำเสียงและท่าทางต่างดาวประชดเขาตามประสาคนขี้เล่น เพราะ ไม่รู้ว่าจะทักทายด้วยภาษาอะไรแล้ว ก็เล่นไม่ตอบสนองเธอ ซักภาษานี่นาเอาแต่ยิ้มอยู่ได้ แต่ก็ได้ผลแฮะนายนี่ขำใหญ่เลย ดันมารู้เรื่องภาษาต่างดาวเหรอเนี่ย ฮ่าๆ “นายนี่ตลกแฮะ นายพูดภาษาอะไรก็ช่างเถอะ ทำไมนายหล่อจัง ดูสิ หน้าก็ใสรอยยิ้มนี่กินใจฉันเลยนะ ฉันขอนายแต่งงานได้มั้ย ถึงแม้ว่าเราจะคุยกันไม่รู้เรื่องก็ไม่เป็นไรหรอก แม่นายหวงนายมั้ยเนี่ย ถ้าเป็นฉันนะไม่ให้ใครจับหรอกหล่อขนาดนี้ ฟังไม่ออกล่ะซิ ทำหน้างงไปได้นายหล่อจัง ถ้าเราพูดกันรู้เรื่องนะ ฉันจะหอมแก้มแถมจูบนายหนึ่งทีเลย” หญิงสาวพูดเล่นไปเรื่อยตามใจปาก คิดว่าเขาคงไม่รู้เรื่องอะไร “ผมพูดไทยได้ครับ” เสียงตอบมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ทำเอาศรัญย์ชยาแทบหงายหลังตึง ก็เธอหลุดพูดอะไรมากมาย โอย ภาพพจน์กุลสตรีไทยเสียหายหมด “ที่ว่าขอแต่งงานขอผมคิดก่อนนะ ถึงคุณจะสวยมาก แต่ผมก็ชอบความโสด แต่เรื่องหอมแก้มกับจูบนี่ผมให้ได้นะ” เดรโกบอกยิ้มๆ เห็นหน้าเหวอๆ ของหญิงสาวแล้วนึกขำ ผู้หญิงไทยน่ารักเหมือนแม่เขาไปเสียหมดเลย “นายจะบ้าเหรอ ฉันพูดเล่น ก็นายมัวแต่ใบ้กิน ใครจะรู้ล่ะว่าพูดภาษาอะไร” เธอตอบอย่างงอนๆ “เอ้า แล้วคุณมาบอกว่าถ้าคุยกันรู้เรื่องจะหอมแก้มแถมจูบทำไมล่ะ พูดแล้วไม่ทำ เชื่อถือไม่ได้เลยจริงๆ” เขาต่อปากต่อคำอย่างนึกสนุก เธอเป็นลูกเต้าเหล่าใครกันนะ ทำไมถึงน่ารักขนาดนี้ แล้วทำไมเขาถึงไม่เคยเห็นเธอมาก่อนเลย “ก็ฉันพูดไปเรื่อยเปื่อยนี่นา แต่ฉันไม่ใช่คนที่เชื่อถือไม่ได้นะ” “ก็คุณทำอยู่นี่ไง เชื่อได้เหรอ พูดแล้วกลับคำ มีคนอย่างคุณนี่ถ่วงความเจริญของประเทศไว้เยอะนะ ไว้ใจไม่ได้นะเนี่ย” เขาเย้าเล่นๆ แต่หญิงสาวกลับจริงจัง เพราะเธอเป็นคนที่ยอมให้ใครมาว่าเรื่องการไม่รักษาคำพูดไม่ได้ “หันแก้มมา ฉันหอมเป็นอย่างเดียวนะ ไม่เคยจูบ” “หันแก้มมา ฉันหอมเป็นอย่างเดียวนะ ไม่เคยจูบ” เดรโก ทวนคำพูดตามที่ได้ยินเพราะไม่เก็ต ทำหน้างงๆ ไม่คิดว่าสาวสวยจะทำจริงๆ ท้าขึ้นแฮะ เขาเอียงแก้มให้แต่โดยดี หญิงสาวค่อยๆ ยื่นหน้ามาใกล้และหอมเขา แล้วถอยออกมายิ้มเขินๆ ช่างน่ารัก ไร้เดียงสาจริงเชียว เขาคิด “เหลือจูบ” เขาบอก เมื่อเธอทำท่าจะเดินหนี “ล้มเลิก เพราะฉันทำไม่เป็น” “คุณต้องรับผิดชอบนะ” “ก็ฉันทำไม่เป็น” “มา ผมสอนให้” เดรโกเดินเข้าไปหาแล้วก้มหน้าลงจูบ ริมฝีปากหอมหวานของหญิงสาว จนเธอเองก็ทำอะไรไม่ถูกกับการ จู่โจมแบบนี้ รู้สึกเหมือนจะล้มและหายใจไม่ออก จนต้องกอดคอเขาไว้แน่น เป็นนาทีเดรโกจึงถอนริมฝีปากออกอย่างเสียดาย หอมหวานกว่าหญิงใดที่เคยจูบมา เขาตัดสินใจฉกริมฝีปากลงไปจูบใหม่อีกครั้ง แต่ครั้งนี้เกิดการดิ้นรน และเสียงอึกอักในลำคอของ หญิงสาว แต่เขาสามารถทำให้มันหายไปได้ด้วยรสชาติจูบอันร้อนแรงและหอมหวานที่มากด้วยประสบการณ์ของเขา “นายขี้โกง” ศรัญย์ชยาเอ่ยเสียงดุทันทีที่เขาถอนริมฝีปากออก “อะไร” เขาถามและพยายามกอดร่างที่ดิ้นขลุกขลักไว้แน่นๆ “ปล่อยก่อนสิ นายมากอดทำไม มันร้อนนะ” “ไม่ปล่อย คุณบอกมาก่อนว่าผมขี้โกงอะไร” เขาพยายามเปลี่ยนเรื่องไป พยายามถ่วงเวลาให้ร่างบางอยู่ในอ้อมกอดนานๆ ท่าทางสาวน้อยคนนี้ไม่ค่อยประสา ดูไม่ค่อยจะทันเล่ห์เหลี่ยมเขาเท่าไหร่ “นายมาจูบฉันทำไมเล่า เอาเปรียบผู้หญิง” “เอ๊า ก็คุณพูดเองนะ ว่าถ้าคุยกันรู้เรื่องจะให้หอมแก้ม แถมจูบ ผมก็ทำตาม” “ถ้างั้น ฉันทำตามคำพูดแล้วนะ แล้วก็ปล่อยได้แล้ววว” เธอลากเสียงยานเมื่ออีกคนไม่ยอมปล่อย แปลกใจเหมือนกันว่าทำไมเธอถึงได้ยอมให้เขามากอดมาจูบได้ขนาดนี้ ถ้าเกิดเป็นผู้ชายคนอื่นมีหวังโดนแม่ไม้มวยไทยไปสลบสามตลบแล้วแน่ๆ “งั้น ผมพูดว่าจะจับคุณขึ้นเตียงในคืนนี้ละกัน ไม่ต้องห่วงนะผมไม่เคยผิดคำพูด” “อ้าย บ้าๆ ปล่อยเลยนะ” เธออาศัยจังหวะที่เขาเผลอ ผลักเขาออกแล้ววิ่งหนีทันที ขึ้นเตียงเหรอไอ้ฝรั่งขี้นกโรคจิต ฝันไปเถอะ! “เฮ้ย เดี๋ยวคุณ อย่าเพิ่งไป” เดรโกคว้าร่างบางไม่ทัน “เฮ้อ ยังไม่รู้จักกันเลย มายเลิฟลี่เกิร์ล” เขาได้แต่เสียดายและเดินเข้าไปในงานอีกครั้ง คราวนี้ไม่มองหาริตาอีกแล้ว มองหาสาวชุดขาวที่มาคิสกับเขาเมื่อครู่นี้ดีกว่า แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอเพราะงานนี้ มีคนมากมาย เมื่องานเลี้ยงเสร็จสิ้น ริตาก็กำกับดูแลความเรียบร้อยและสั่งงานให้คนเก็บของต่างๆ เข้าที่ ก่อนจะขึ้นมาพักผ่อนที่ห้อง หลังจากอาบน้ำสดชื่นแล้วก็นึกอยากทานน้ำชาอุ่นๆ เพื่อที่จะผ่อนคลายสักหน่อย ริตาติดทานชาเขียวมาก แทบจะชงจิบได้แทบตลอดเวลา เพราะวันนี้มัวแต่ยุ่งๆ เลยไม่ได้ทานจึงเดินลงมาชั้นล่างโดยไม่สวมเสื้อคลุมทับชุดนอน เพราะคิดว่าคงไม่มีใครแล้ว ชุดนอนก็ไม่ได้บางจนน่าเกลียดอะไร แต่ริตาเดินยังไม่ถึงครัวก็เห็นคนร่างสูงนั่งกอดอกอย่างสบายอยู่บนเก้าอี้รับแขก หล่อนมองหน้าเขานิดหนึ่ง ก่อนจะเดินตัวลีบไปที่ครัว “เดี๋ยวก่อน” เขาเรียก ริตาชะงักทันที “มีอะไรหรือคะ” “ฉันมีเรื่องจะคุย” เขาลุกขึ้นยืน แล้วเดินมาใกล้ๆ ริตาสังเกตว่าเขาอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วเช่นกัน แต่ทำไมน้ำเสียงท่าทางเขาดูจะดุๆ ชอบกล ไม่เหมือนเมื่อตอนเย็นที่ยังคุยดีๆ อยู่เลย ไม่รู้ว่าเธอ ไปทำอะไรไม่ถูกใจเขารึเปล่านะ “มีอะไรหรือคะ” “เธอคิดว่ามาอยู่บ้านหลังนี้แล้วเธอจะสมหวังในสิ่งที่อยากได้มั้ย” “สมหวังในสิ่งที่อยากได้ คืออะไรล่ะคะ” ริตาทวนคำของเขา อย่างไม่เข้าใจ “ก็สมมติว่าเป็นทรัพย์สมบัติของแม่ฉันอะไรอย่างนี้” “คุณวัตคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะค่ะ ริตามาอยู่ที่นี่ไม่ได้หวังอะไรเลย ยังไงสมบัติต่างๆ ของคุณหญิงก็เป็นของคุณอยู่แล้ว อย่าห่วงว่าริตาจะแย่งชิงมันไปเลย ริตาอยู่บ้านนี้ในฐานะผู้อาศัยเท่านั้นจริงๆ ค่ะ” “ไม่ได้หวังอะไรเลย อย่างนั้นเหรอ” “จริงค่ะ” ริตาตอบอย่างหนักแน่น พอจะเข้าใจแล้วว่าที่เขาทำท่าไม่ญาติดีกับหล่อนตั้งแต่เห็นหน้านี่ เพราะว่าเขาคิดว่า หล่อนจะมาแย่งสมบัติเขาไปนี่เอง ผู้ชายอะไรใจแคบที่สุด “ก็ดี” เขาว่า “ไปได้แล้ว อ้อ...” เขาปรายสายตามองชุดนอนของหล่อน “อย่าแต่งตัวลงมายั่วใครกลางดึกอย่างนี้อีกล่ะ มันไม่ดี” แล้วเขาก็เดินจากไป ริตามองตามไปอย่างสับสน เขาด่าเล่นหรือด่าจริงนะ ท่าทางเขาแปลกๆ นึกอยากจะว่าก็ว่าชุดนี้มันน่าใส่ยั่วคนที่ไหนกัน ร่างบางถอนหายใจ เดินเข้าห้องครัวไป หาชาอุ่นๆ ทาน แก้เครียดที่อยู่ดีๆ ก็โดนตำหนิ ทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำอะไรผิดเลย
อ่านฟรีสำหรับผู้ใช้งานใหม่
สแกนเพื่อดาวน์โหลดแอป
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    ผู้เขียน
  • chap_listสารบัญ
  • likeเพิ่ม