วันเวลาผ่านมากระทั่งฉันเรียนอยู่ปี3 แล้ว เรื่องของฉันและไนท์ยังคงเป็นความลับมาตลอด และเขายังมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงไปทั่วเช่นเดิม เรานอนแยกห้องกันตั้งแต่วันนั้นที่เขาทะเลาะกับฉัน เขาพาผู้หญิงมานอนด้วยแทบทุกวัน
ที่สำคัญคือเพื่อนที่ชื่อแอมกำลังคุยและดูใจกับไนท์
ตอนนี้ฉันเจ็บมากนะ ทั้งเจ็บทั้งสมเพชตัวเองเลย ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าปล่อยให้ตัวเองเดินมาจนถึงจุดนี้ได้ยังไง จุดที่เขาจะเข้ามานอนกอดฉันทุกคืนในยามดึกดื่นหลังจากที่เขาเอากับผู้หญิงพวกนั้นแล้ว และตอนเช้าเขาจะมีเซ็กซ์กับฉันก่อนไปเรียนทุกวัน
เมื่อเขาทำแบบนี้ทำให้ความรู้สึกของฉันเริ่มถดถอยขึ้นทุกวัน และอีกนิดความอดทนคงหมดลง ถึงตอนนั้นฉันก็จะไม่เสียดายหรือเสียใจเพราะผู้ชายคนนี้อีกแล้ว
"ไนท์” ฉันเรียกขณะที่เรากำลังนั่งทานข้าวก่อนที่จะไปเรียน
“ว่า”
“ตอนนี้ไนท์มีความสุขไหม"
"มีสิทำไมอะ" เขาเงยหน้ามอง นัยน์ตาของเขาคล้ายจะบอกว่า มึงอย่างี่เง่านะไม่งั้นมึงโดนสวนกลับหนักแน่
“ก็ถ้าสิ่งที่ไนท์ทำอยู่มันคือความสุขเดย์ก็ดีใจด้วย ของขวัญวันเกิดอยู่ในตู้นะ เดย์ไม่รู้ว่าไนท์จะชอบหรือเปล่า” ฉันยังคงยิ้มให้เขาทั้งที่น้ำตาเอ่อคลอเต็มสองเบ้า
“อืม คืนนี้ไม่กลับนะ”
“อื้ม”
“งานเลี้ยงวันเกิดไนท์ ไนท์คิดว่าเดย์คงจะไม่ไปใช่ไหม” เขากำลังบอกว่าห้ามฉันไป ซึ่งเขาบอกฉันแบบนี้ทุกปีนับตั้งแต่เราแต่งงานกัน
ชินไหม ไม่ชินหรอก ไม่เคยชิน
"อืม เดย์รู้ว่าเดย์ไม่มีสิทธิ์ เดย์ไปเรียนก่อนนะ" ฉันลุกจากเก้าอี้และหยิบกระเป๋าผ้าแบบสะพายขึ้นบ่าทันที ฉันไม่มีหรอกกระเป๋าแบรนด์ราคาแพงแบบคนอื่นเขา ฉันไม่ชอบ เพราะคิดว่ามันไม่คู่ควรกับฉัน
ไนท์เป็นผู้ชายสะอาดสะอ้าน แต่เขาจะมีมาดที่ดูเซอร์ ๆ หน่อย ใบหน้าหล่อเหลา คิ้วเข้ม ปากสวยได้รูป เวลายิ้มดวงตาของเขาหวานจนสะกดใครต่อใครให้หลงใหลได้เชียวล่ะ ไนท์เป็นผู้ชายผมยาว เขารักผมของเขามาก เหมือนฉันที่รักผมของฉันเช่นกัน
เวลาต่อมา
นี่ก็ดึกมากแล้ว แต่ว่าฉันนอนไม่หลับ คืนนี้มันเป็นวันเกิดของสามี แต่ฉันไม่มีสิทธิ์แสดงตัว ไม่มีสิทธิ์ร่วมงานวันเกิดของเขา สมเพชตัวเองจริง ๆ
ตริ๊ง!
มิ้มเพื่อนในกลุ่มส่งวีดีโอมาในกรุ๊ปไลน์ของกลุ่มเพื่อน ฉันจึงกดเข้าไปดู ภาพวีดีโอฉายบรรยากาศในงาน มาจนถึงขั้นตอนการเป่าเค้กโดยมีแอมเป็นคนถือเค้ก ไนท์เป่าเค้กเสร็จ เขาดึงแอมเข้ามาจูบปาก และประโยคที่ฉันได้ยินคือ
‘เป็นแฟนกันนะ ไนท์มั่นใจแล้วว่าไนท์รักแอม ไนท์สัญญาไนท์จะหยุดที่แอม’
เจ็บดี แต่ฉันก็โรคจิตไง ชอบตอกย้ำความเจ็บปวดของตัวเอง ฉันจึงนั่งดูจนจบ และทั้งสองตกลงคบกัน....
"ไงมึงมาถึงนี่ได้ แล้วดูหน้าตาโทรมซะนึกว่าผี ตานี่บวมปูด สาเหตุมาจากวีดีโอผัวตัวดีของมึงใช่ไหม" เสียงเพื่อนสนิทเอ่ยทักหลังจากที่เปิดประตูห้องแล้วเห็นสารรูปฉัน ฉันโผลเข้ากอดซันทันทีที่โดนทัก ซันคือคนที่ฉันอยู่ด้วยแล้วสบายใจ
หลังจากที่ดูวีดีโอนั้นจบฉันกดโทรหาซันและบอกเขาว่าจะไปค้างด้วย ซันคือหนึ่งคนที่รู้เรื่องของฉันและไนท์ เราสามคนเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อแม่ซันก็เป็นเพื่อนสนิทกับพ่อแม่ของฉันและไนท์เช่นกัน
"เดย์ไม่ไหวแล้วซัน เดย์เจ็บ เดย์เจ็บตรงนี้" ฉันชี้ลงที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเอง ฉันควรจะทำยังไงต่อไปดี หรือว่าฉันควรพอ
"เจ็บพอรึยังเดย์ ถ้าเจ็บพอแล้วก็เลิกทำร้ายตัวเองได้แล้ว กลางวันกับกลางคืนมันไม่มีทางอยู่ด้วยกันได้หรอก" ซันกอดฉันในขณะที่ฉันร้องไห้สะอื้นแทบขาดใจ
"แต่เดย์รัก ซันได้ยินไหมเดย์รักไนท์"
"แต่มันไม่รักมึงไงเดย์ ไอ้ไนท์มันก็บอกอยู่ว่ามันรักแอม มึงจะฝืนให้ตัวเองเจ็บไปกว่านี้ทำไม กลับไปอยู่ในที่ของตัวเองเถอะเดย์ มึงยังมีกู กูจะอยู่ข้างมึงเอง กูจะไม่ทิ้งมึง มึงพอได้แล้ว เลิกลดค่าตัวเองเพื่อมันสักที"
“…” ฉันได้แต่ร้องไห้ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก ทุกอย่างที่ซันพูดมันคือเรื่องจริง คงจะถึงเวลาที่ฉันต้องยอมรับความจริงแล้วสินะ
"ไปนอนปะ ร้องมาก ๆ เดี๋ยวมึงก็ปวดหัวอีก"
"ไม่ทันแล้วซัน ตอนนี้ปวดหัวมากเลย ขอยาด้วยนะ ขอผ้าเย็นโปะหน้าผากด้วย" ฉันส่งสายตาน่าสงสารให้ซันเห็นใจ ใช่ค่ะ เวลาร้องไห้หนัก ๆ ฉันจะเป็นแบบนี้ตลอดและคนที่คอยดูแลก็มีแต่ซันเสมอเพราะไนท์ไม่เคยสนใจว่าฉันจะเป็นหรือจะตาย
"กูไม่อยากเห็นมึงเสียใจอีกแล้วนะเดย์ เดินออกมาจากตรงนั้นเถอะ" ซันบอกขณะที่กำลังเช็ดตัวให้ฉัน ฉันรู้ว่าซันเป็นห่วงแต่ขออีกนิดเถอะ ให้ฉันได้อยู่ใกล้ ๆ ไนท์อีกสักนิดเถอะ
"รู้แล้ว ขออีกนิดนะแล้วเดย์จะเดินออกมาเอง แต่ตอนนี้ขอกอดแขนหน่อยคิดถึงไม่ได้กอดนานแล้ว" ฉันยิ้มหวานอ้อนคนตรงหน้าที่เวลามาค้างทีไรจะขอนอนกอดแขนเขาตลอด
"ทำใจไว้หรือยัง" ซันเอ่ยถามระหว่างที่นั่งอยู่ในรถ เรากำลังเดินทางไปมหา’ลัยพร้อมกัน
"ทำใจอะไรอะ" ฉันเงยหน้าจากกล่องข้าวในร้านสะดวกซื้อที่ซันซื้อมาเผื่อ
"เขาเป็นแฟนกันแล้ว ภรรยาอย่างมึงทำใจทนเห็นภาพบาดตาไว้รึยัง" คำตอบของซันเล่นซะฉันสะอึกข้าวเลยทีเดียว
"เดี๋ยวก็ปิดเรียนแล้วอีกไม่กี่วันเอง คงจะทนได้แหละ" ฉันฝืนยิ้มให้ซัน ไม่มีใครทนได้เมื่อเห็นคนที่เรารักไปรักคนอื่น
"หิวว่ะ ป้อนมั่งดิ"
"อะไรไหนบอกว่ากินแล้ว"
"ก็มันเหลือกล่องเดียวเลยเสียสละให้มึง"
"ประจำ อะ อ้าปาก" ฉันจ่อช้อนเข้าปากซัน ป้อนเขาด้วย ตัวเองก็กินไปด้วย
จริง ๆ อยู่กับซันก็ดีนะ เขาทำให้ฉันลืมความเศร้าทุกครั้ง
"เดย์ ขอจับมือหน่อยดิ" ซันยื่นมือมาขณะที่เราทั้งคู่กำลังจะเดินเข้าใต้ตึกเพื่อรอลิฟต์
"ทำไมอะ ไม่เอาหรอกเดี๋ยวมึงอายคนอื่นที่ต้องมาอยู่ใกล้กู"
"กูไม่เคยอายใคร ยื่นมือมาเร็วๆ เดี๋ยวก็วูบหรอกตอนลิฟต์เคลื่อนอะ"
"น่ารักจังเลย จำได้ตลอดเลยอะ ขอบคุณนะ" ฉันฉีกยิ้มสดใสให้เพื่อนสนิท เขาชอบจำเรื่องราวของฉันได้เสมอผิดกับอีกคนที่ไม่เคยสนใจอะไรฉันเลย
แต่ก็แปลกดีที่ใจยังรักคนแบบนั้น คนที่เมินฉันตลอด
"หึ บื้อเอ๊ย" ซันยื่นมือมาจับมือฉัน
ฉันจะเป็นโรคขี้ตกใจเวลาลิฟต์เคลื่อนตัว มันรู้สึกใจหวิว ๆ เริ่มกลัวคงจะคล้ายคนกลัวที่แคบละมั้ง ทำให้ไม่กล้าที่จะอยู่ในลิฟต์โดยไม่มีคนรู้จักหรือคนสนิท และถ้ามามหา’ลัยแล้วเจอซันฉันจะขึ้นลิฟต์ แต่หากไม่เจอฉันเลือกที่จะเดินขึ้นบันไดแทน เวลาอยู่ที่คอนโดก็เหมือนกัน ฉันชอบใช้บันไดเป็นประจำ
"รอด้วย" เสียงหนึ่งเอ่ยขึ้น ขณะที่ลิฟต์กำลังจะปิด ซันจึงกดรอ