"ไนท์หยิบยางมารัดผมให้เดย์หน่อย" ฉันตะโกนบอกคนที่นั่งอยู่หน้าทีวี
"ครับคุณเดย์" เขาขานรับและรีบลุกมา ผู้ชายที่มีใบหน้าคมเข้มใช้ที่คาดผมของฉันคาดผมตัวเองไว้ ในมือเขาชูยางรัดผมเส้นโปรดของฉัน "เส้นนี้ใช่ไหมครับ"
"ใช่ เส้นนี้แหละ รู้แล้วยังจะอยากถามอีก" ฉันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเขินเล็กน้อย
"เอาไว้จะซื้อให้อีกนะ" เขาพูดพลางรวบผมฉัน
"เอาไว้ซื้อให้แฟนไนท์เถอะ" เมื่อนึกถึงความจริงฉันก็นึกน้อยใจขึ้นมาทุกที เมื่อน้อยใจก็ชอบตัดพ้อเป็นประจำ
"ไม่น้อยใจสิครับที่รัก" เขาจูบลงที่ต้นคอของฉันอย่างแผ่วเบา
ไม่ให้น้อยใจเหรอ เหอะ ใครจะทำได้
"แค่น้อยใจเดย์ก็ไม่มีสิทธิ์เหรอ" ฉันตัดพ้อด้วยความน้อยใจอีกรอบและอีกเดี๋ยวเราก็จะทะเลาะกัน
"เดย์... ไหนเราคุยกันรู้เรื่องแล้วไงวะ มึงก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร ถ้ามึงไม่งี่เง่า ยังไงกูก็ไม่มีทางทิ้งมึง" เห็นไหมล่ะ เราทะเลาะกันแล้ว เขาพูดออกมาอย่างกับคนไม่มีความรู้สึก
ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่าเขาไม่รู้สึกกับฉันมากกว่า
เป็นฉันที่รู้สึกกับเขา รู้สึกมากเกินไป ความสัมพันธ์ของเราถึงเดินมาจุดนี้
"เดย์รักไนท์นะ รักมาก เดย์ยอมไนท์ได้ทุกอย่าง แต่เมื่อไหร่เราจะชัดเจนสักทีล่ะ จะให้เดย์อยู่ในฐานะเพื่อนอีกนานแค่ไหน เดย์เจ็บทุกครั้งที่ไนท์มีข่าวกับผู้หญิงคนนั้นทีคนนี้ที เมื่อไหร่ไนท์จะหยุดสักที เมื่อไหร่จะเห็นค่าความรักของเดย์บ้าง" ฉันระบายอารมณ์น้อยใจ เดี๋ยวนี้ฉันมีอาการแบบนี้บ่อยมาก ทั้งที่มันก็จริงอย่างที่เขาพูดว่าเราตกลงกันรู้เรื่องแล้ว ผิดที่ฉันหึงหวงร่างกายของเขามากเกินไป
แต่ฉันมีสิทธิ์ที่จะหึงหวงไม่ใช่เหรอ ฉันคิดว่าฉันมีสิทธิ์นั้นนะ
ประโยคที่ฉันพูดออกไปทำให้ไนท์ผลักไหล่ฉันจนเซ นี่ไง พอโมโหก็ทำเป็นใช้ความรุนแรง เขาเอาความรุนแรงมาข่มเพราะเขารู้ว่าฉันมันอ่อนแอ ไนท์เอ่ยเสียงเข้มพร้อมใบหน้าดุดัน "มึงจะอะไรนักวะเดย์ ทะเบียนสมรสก็จดแล้ว พ่อแม่กูก็รักมึง กูก็แค่หาความสุขใส่ตัวบ้าง มึงให้กูไม่ได้เลยใช่ปะ"
"ไนท์จะบอกว่าเดย์ให้ความสุขไนท์ไม่พอใช่ปะ เดย์หวงไนท์ เดย์หึงไนท์ เดย์ผิดใช่ปะ"
"ก็เออไง มึงให้ความสุขกูไม่ได้ มึงหัดส่องกระจกชะโงกดูหน้าตัวเองด้วยนะ ไม่มีอะไรดีเลย มึงไม่มีอะไรดี กูจะบอกให้นะ ถ้าวันนั้นกูไม่เมาจนหลงเอามึง แล้วพ่อแม่กูมาเห็น กู ไม่ มี ทาง จะ หมั้น จะ แต่ง กับ มึง เด็ด ขาด จำ เอา ไว้!"
ในทุกคำที่เขาพูดย้ำ นิ้วชี้ของเขาจิ้มลงที่หน้าผากของฉัน
ฉันได้แต่ยืนร้องไห้ มันเจ็บมันจุกไปหมด ทำไมเขาใจร้ายกับฉันแบบนี้ ทั้งที่เขาใจร้ายมาตลอดเมื่อไหร่หัวใจฉันจะเลิกรักเขาสักที
"ไนท์ใจร้ายกับเดย์มากนะ ใจร้ายจริงๆ" ตัดพ้อเสียงสั่น ฉันเอ่ยพร้อมใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาเพราะอยากให้เขาสงสาร อยากให้เขาเห็นใจ
"มึงว่าแค่นี้ร้ายเหรอเดย์ หึ กูจะบอกให้นะแค่นี้ยังน้อยเกินไป ต่อจากนี้กูจะร้ายของจริง ต่อไปมึงย้ายไปอยู่อีกห้องเลยนะ อ้อ ถ้ามึงไม่ย้ายก็ไม่เป็นไร มึงทนฟังทนเห็นกูเอากับผู้หญิงคนอื่นได้ก็ตามสบาย แล้วก็เลิกบีบน้ำตาได้แล้วกูรำคาญโว้ย กูไม่สงสารมึง ไม่ต้องมาสำออย"
ปัง! เสียงปิดประตูดัง
เขาออกไปแล้ว ทิ้งฉันไว้ให้อยู่ในห้องคนเดียวอีกตามเคย เขาจะเป็นแบบนี้เสมอเวลาที่ฉันงี่เง่า เขาจะทำตัวงี่เง่ายิ่งกว่าฉันเพื่อให้ฉันดูเป็นผิด
เรื่องของเขากับฉันมันคือความผิดพลาด หรือความจริงแล้วอาจจะเกิดขึ้นเพราะผู้ใหญ่รวมหัวกันจัดฉากกัน ทุกวันนี้ฉันก็ยังไม่แน่ใจ
ฉันชื่อเดย์เรียนมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ตอนนี้อยู่ปี2 เรียนบริหารธุรกิจ ทั้งที่ฉันไม่ได้อยากเรียนบริหาร แต่ต้องทำตามที่ครอบครัวขอ ฉันมีเพื่อนมากมายทั้งหญิงชาย เพื่อนผู้หญิงของฉันสวยกันทุกคน มีเพียงแค่ฉันเท่านั้นที่ไม่มีความสวยให้ใครได้เชยชม ฉันเป็นผู้หญิงที่ไม่ชอบการแต่งตัว ถักผมเปียไปเรียนใส่แว่นหนาเตอะทำตัวเป็นเด็กเนิร์ด กระโปรงนี่ยาวแทบจะลากพื้นได้ เสื้อนักศึกษายิ่งแล้วใหญ่ฉันไม่มีหรอกแบบรัดทรวดทรงองเอว ส้นสูงยิ่งไม่ต้องพูดถึง ฉันไม่คิดจะใส่
โดยรวมแล้วคือฉันเฉิ่มใช่ไหม ฉันไม่น่ามอง ไม่มีเสน่ห์ดึงดูดผู้ชาย
ใช่ฉันก็คิดว่าแบบนั้น
ที่เดินออกจากห้องไปเมื่อกี้คือสามีของฉัน สามีที่ถูกต้องตามกฎหมาย เราทั้งคู่แต่งงานตอนเปิดเทอมปี1 เป็นการแต่งงานที่อายุยังน้อยมาก ๆ
ฉันรักเขาแต่เขาไม่ได้รักฉัน เราพลาดมีอะไรที่มันลึกซึ้งจนกระทั่งผู้ใหญ่มาเจอ พวกท่านจับเราหมั้นและแต่งงานกันในเวลาต่อมา คือต้องอธิบายก่อนว่าครอบครัวเราทั้งสองเป็นเพื่อนกันและลึก ๆ แล้วทั้งสองครอบครัวอยากให้ฉันกับไนท์รักกัน
ทว่ามันติดตรงที่ ‘ไนท์ไม่รักฉัน’ เขามันเสือผู้หญิงคบใครต่อใครไปเรื่อย
แต่ฉันก็ยังรักเขา ฉันโง่ใช่ไหม
ใช่ฉันก็คิดว่าแบบนั้น
ครืด~ครืด ~ ~
"ว่าไงมึง" ฉันยกมือขึ้นปาดเช็ดน้ำตาและพยายามทำเสียงให้เป็นปกติ
(อีเดย์กูมีเรื่องจะเม้าเว้ย) เพื่อนที่โทรเข้ามาชื่อว่าน้ำ เสียงปลายสายระรี้ระริกบ่งบอกได้ว่าคนในสายตื่นเต้นมากกับเรื่องที่กำลังจะเล่า
"ว่าไง" แต่ฉันไม่มีอารมณ์จะตื่นเต้นด้วยน่ะสิ
(อีเดย์มึงฟังเว้ย เมื่อกี้ไอ้ไนท์มันมาผับแล้วมันไปต่อกับอีแอมอะมึง มึงว่ามันจะเเดกกันเองปะ)
"แอมกับไนท์อะหรอ" ฉันถามน้ำย้ำอีกรอบเผื่อว่าหูฉันจะฟังผิด
(เออดิ แม่งเมาแล้วชวนกันไปต่อ กูว่าไม่รอด อีดอกเพื่อนกับเพื่อนเอากันแล้วมึง)
"เหรอ… เออ น้ำแค่นี้ก่อนนะ พอดีเดย์มีเรื่องต้องทำอะ" ฉันรีบกดวางสาย
บ้าน่า ไนท์จะใจร้ายกับฉันมากกว่าเดิมงั้นเหรอ แบบนี้มันเกินไปนะ ฉันควรจะทำยังไงดี ตอนนี้ฉันยังรักเขา รู้ตัวดีเลยว่าขาดเขาไม่ได้
ฉันเคยได้ยินคำว่า เราต้องเจ็บให้สุดแล้วทุกอย่างจะหยุดไปเอง
ฉันคงเป็นหนึ่งในคำนิยามนี้มั้ง ไม่สุดไม่หยุด
(ค่ะลูกสาว) ต่อสายโทรหาเเม่เพื่อขอกำลังใจและขอความเห็นในการตัดสินใจ เรื่องแบบนี้ปรึกษาใครไม่ได้นอกจากคนในครอบครัว
"แม่คะ เดย์มีเรื่องคุยด้วยค่ะ"
(ว่าไงคะคนสวยของแม่) เเม่กับพ่อจะเรียกฉันแบบนี้เสมอทั้งที่ฉันไม่สวยเลย
"เดย์อยากกลับไปอยู่บ้านค่ะเเม่ เดย์คิดว่าเดย์ไม่ไหวแล้ว ยังไงไนท์ก็ไม่มีทางรักเดย์ค่ะ เดย์ไม่อยากฝืนใจไนท์"
ฉันย้ายมาอยู่คอนโดกับไนท์ตั้งแต่เราแต่งงานกัน ต้องเท้าความก่อนนะว่างานแต่งที่จัดขึ้น เชิญเฉพาะญาติผู้ใหญ่ที่สำคัญ ไนท์บอกว่าไม่อยากให้เพื่อนรู้ว่าแต่งงานกับฉัน เขาอายน่ะ เราจึงไม่ได้เชิญเพื่อนมาร่วมงาน
เราทั้งคู่ปิดเรื่องแต่งงานไว้ เวลาไปเรียนฉันก็ต้องนั่งรถไปเอง ฉันไม่มีสิทธิ์ไปกับเขา แล้วเวลาอยู่ที่มหา’ลัยถึงจะอยู่กลุ่มเดียวกันก็จริง แต่เขาจะไม่คุยกับฉัน คือฉันก็เข้าใจอะนะ ฉันมันคนไม่น่าคุยด้วยไง ทว่าฉันไม่เคยบกพร่องเรื่องบนเตียงและงานบ้าน เรามีอะไรกันบ่อย แต่เขาก็ไม่เคยบอกรักฉัน ฉันเองก็สัมผัสได้ว่าเขาไม่ได้รักและไม่เคยรักฉัน
(ทนอีกหน่อยนะลูก น้ำเซาะหินทุกวันมันยังกร่อนแล้วใจเจ้าไนท์จะไม่มีหนูบ้างเลยเหรอ ยังไงก็แต่งกันแล้ว อดทนสู้ ๆ นะลูก แม่รู้ว่าหนูรักเจ้าไนท์ แม่ว่าไนท์ต้องรู้สึกกับหนูอยู่แล้ว ลูกสาวแม่ดีขนาดนี้จะไม่รู้สึกได้ยังไง)
“...” ฉันอยากบอกแม่ว่าความดีไม่ได้ช่วยให้ถูกรัก
(แต่ถ้ามันเจ็บแบบสุด ๆ แล้วจริง ๆ หนูคิดว่าหนูพอกับคนคนนี้แล้วจริง ๆ หนูกลับหาแม่เลย แม่จะดูแลหนูเอง)
“...” ฉันรู้ว่าฉันก็ยังไม่สุด ถ้าหยุดตอนนี้ฉันก็คิดเสียดายเหมือนกัน เพราะฉันแอบหวังว่าถ้าพยายามอีกหน่อยอาจจะเจอกับความสำเร็จก็ได้ ทุกวันนี้ถึงได้อดทน
(ลองอีกสักครั้งเนอะ) แม่พยายามหว่านล้อมเพราะท่านไม่อยากมีปัญหากับครอบครัวไนท์ แม่ฉันเป็นเพื่อนสนิทกับป้าตองแม่ของไนท์ ซึ่งพ่อไนท์และพ่อฉันก็เป็นเพื่อนกันและลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน พวกท่านอยากจะเป็นทองแผ่นเดียวกัน
"เดย์ลองอีกสักหน่อยก็ได้ค่ะ แต่ถ้าไม่ไหวจริง ๆ แม่จะขอไม่ได้แล้วนะคะ เดย์ไม่อยากเสียใจกับเรื่องซ้ำซาก"
(จ้ะ แม่เข้าใจ แม่รู้ว่าหนูมีความอดทนสูงแล้วถ้าเมื่อไหร่ที่หนูบอกว่าไม่ไหวแสดงว่ามันคงหนักจริง ๆ เมื่อถึงตอนนั้นแม่จะยอมรับการตัดสินใจของหนู)
"เดย์รักพ่อกับแม่นะคะ ฝากบอกพ่อด้วยว่าเดย์คิดถึง"
จะทำยังไงได้ ก็ต้องทนต่อไปจนกว่าจะหมดความอดทน จนกว่าจะมั่นใจว่าไม่เสียดายอีกแล้วผู้ชายคนนี้ หมดรักเมื่อไหร่ก็เลิกทน
หวังว่าถึงเวลานั้นครอบครัวทั้งสองฝั่งจะเข้าใจฉัน