ช่วงเวลาปลอบโยนผ่านไปเช่นนี้ กระทั่งร่างกายของเจียงซูเหยาดีขึ้นท่านโหวน้อยจึงวางใจสามารถละสายตาไปได้บ้าง ยามนี้จึงปล่อยให้เสี่ยวหรงคอยดูแลภรรยาเอก ส่วนตนนั้นกำลังนั่งคุกเข่าอยู่เบื้องหน้าของผู้เป็นบิดามารดา แน่นอนว่าจิ้งฮูหยินไม่มีวันปล่อยเรื่องที่เกิดกับลูกสะใภ้คนโปรดอย่างง่ายดาย บัดนี้ผู้คนภายในเรือนซิ่นเจี้ยนจึงดูอึดอัดกันไม่น้อย บ่าวรับใช้ที่อยู่โดยรอบต่างก็รีบขยับฝีเท้าห่างจากห้องโถงใหญ่ไปหลายก้าว เสียงวางถ้วยน้ำชาของจิ้งฮูหยินทำเอาท่านโหวจิ้งห้าวถึงกับลอบสูดหายใจ เรื่องนี้เขาซึ่งเป็นถึงท่านโหวไม่กล้าออกหน้าแทนบุตรชายเลยจริงๆ “เจ้าจะเอายังไง จะปล่อยให้เซิ่งเมิ่งซิวอยู่ในจวนแห่งนี้ต่อไปใช่หรือไม่” “มารดา ซิวเอ๋อนางไม่ได้ตั้งใจทำร้ายซูเหยาจริงๆ นางเพียงแค่...” “บุตรชายของข้าช่างคิดน้อยยิ่งนัก วันข้างหน้าถ้าเกิดเรื่องใหญ่กว่านี้แล้วเจ้าจะทำยังไง” กัดฟันถามออกมาแล้ว จิ้งฮูหยิน