บทที่ 5 ล่องแก่ง
“ผิวแกดี๊ดีอ่ะ เนียน นุ่ม ลูบเพลินเลย” มินตราชม แถมลูบหนักเข้าไปอีก
“โอ๊ยยย แก พอๆๆๆๆ เลิกลูบ ยังกับว่าชีวิตนี้แกเพิ่งเห็นฉันแก้ผ้าต่อหน้างั้นแหละ แกเองผิวก็นุ่มจะตาย ถึงไม่ขาวจั๊ว แต่ผิวดี มีออร่า ใครๆ ก็ชอบ” รัตนาไม่ได้พูดเล่น
ผิวอย่างมินตราไม่ใช่คนขาวจัด แต่ออกสีนวลๆ ดูมีน้ำมีนวล ดูมีออร่าที่เปล่งปล่ง ใครๆ ก็ชอบผิวแบบนี้ โดยเฉพาะเธอ เธอทั้งคู่ ต่างก็แก้ผ้าต่อหน้ากันมาตั้งหลายปี จนไม่มีแม้จะอายกันแล้ว
“ว้าว ไม่ได้เห็นหลายอาทิตย์ แกโหนกขึ้นเยอะอ่ะ ดูดิ” ยัยเพื่อนตัวแสบชี้ไปที่ความอวบนูนกลางร่างกาย ที่ตอนนี้อวบอิ่มและปริ่มไปด้วยน้ำ จากเมื่อช่วงค่ำๆ ที่เธอถูกพ่อเพื่อนจูบ ทำให้เธอกระสันขึ้นมา
“ยัยบ้า มันก็เท่าเดิมแหละ” รัตนาก้มมองของตน แต่มินตราส่ายหัวหวืด
“ไม่อ่ะ มันอวบขึ้น นี่นะ ถ้าถูกลิ้นของพ่อฉันนะ รับรอง มันจะอวบกว่านี้อีกแน่” นั่นเอาเข้าไป แก้มของรัตนาแดงก่ำขึ้นมา
“ ไอ้มิ้นนนน ไอ้เพื่อนบ้า” ว่าแล้วก็เดินตัวแดงเข้าห้องน้ำอย่างว่องไว มินตรายิ้มกริ่ม พลางคิดถึงคำที่เธอพูดกับเพื่อน จริงสิ ถ้าถูกลิ้นของผู้ชาย มันอาจอวบขึ้น แต่ที่แน่ๆ เธอคงฟิน เพียงแค่คิด ตัวของหญิงสาวก็ขนลุกชัน ในอกของเธอ มันหวามไหวแปลกๆ
“อ่าส์ มิ้นอยากถูกลิ้นคุณกฤษณ์จังค่ะ” หญิงสาวคิดไปถึงเพื่อนพ่อ ที่รอยแยกของความอวบอูมนั้นก็พลันมีน้ำใสๆ เอ่อขังขึ้นมาทันที
06.45 น.
ทุกๆ คนเตรียมขนของขึ้นรถ เพื่อที่จะไป จ.นครนายก ที่ๆ พวกเขาจะไปที่นั่นคือ แม่น้ำนครนายก ที่บริเวณสะพานท่าด่าน เมื่อทั้งหมดพร้อมแล้วก็ขึ้นรถ คันที่ 1 เป็นของบอดี้การ์ด 3 คน รวมทั้งกระเป๋าเสื้อผ้า คันที่ 2 ก็เป็นของ นายใหญ่ มีบอดี้การ์ด 3 คนเช่นเดิม แต่เพิ่มเติมนั่นคือ มินตรานั่งในรถคันนี้ด้วย รวมทั้งธนา และ รัตนา แต่ทำไม ตอนขึ้นรถ เพื่อนของพ่อถึงได้ขึ้นรถตามก้นเธอมาด้วยหล่ะ
มินตราใจสั่นรัวๆ นี่ถ้าเธอไม่แอบรักเขา เธอเองก็คงจะเป็นปกติ แต่นี่ จะให้เธอทำเป็นเฉยๆ ได้ไง ในเมื่อหัวใจของเธอมันหวั่นไหวทุกครั้งที่เห็นเขา มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เธออายุ 15แล้ว ธนานั่งกับรัตนา แม้คนสวยจะขยับหนี แต่พ่อเพื่อนก็ขยับตาม จนตอนนี้แนบชิดกับขาของเธอแล้ว ทำไมต้องหื่นต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ด้วยยยย
“คุณธนา ขยับออกไปนะคะ จะขยับมาใกล้แก้วทำไม” รัตนาพูดเบาๆ เธอกลัวเพื่อนรักได้ยิน
“ทำไมพ่อต้องขยับด้วยครับ เราต้องคุยปรับความเข้าใจกันสิ ก็ลูกแก้วไม่เข้าใจพ่อนี่ครับ” ธนาพูด เขาจับจ้องที่ดวงหน้าสวยของเพื่อนลูกสาว เขาก็ยิ่งยอมรับในใจเข้าไปอีก ว่าเธอนั้นช่างถูกใจ จูบเมื่อคืน มันเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีเลย เพราะเขากล้าที่จะรุกคืบเธอมากยิ่งขึ้น
“เดี๋ยวยัยมิ้นเห็น ขยับไปนะคะ” รัตนาเข่นเขี้ยว คนบ้านี่ ได้คืบจะเอาศอก อึ๋ยยย เธออยากจะเตะก้านคอจริงๆ เลย แต่ติดที่ว่า อีกคนเป็นพ่อของเพื่อนรัก
“ลูกมิ้นไม่ว่าหรอก และที่สำคัญ ถ้าไม่อยากให้คนอื่นๆ รู้ ลูกแก้วก็เงียบๆ สิครับ” หนุ่มใหญ่ว่า หญิงสาวหน้าดำหน้าแดง อย่างทำอะไรไม่ถูก สถานณการณ์ของเธอกับเพื่อนรัก มันไม่แตกต่างกันสักนิด หากเธอหันมาเจอ
ที่เบาะหลังถัดจากธนาและรัตนา กฤษณ์เองก็ขยับมาใกล้ๆ มินตราเช่นกัน เพียงแต่ไม่ได้มาก่ายเกยแนบชิดเหมือนเบาะหน้า แต่แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว ที่มินตราจะวูบไหว และใบหน้าแดงก่ำ
“หนูมิ้น เป็นไรครับ” เจ้านายถาม หญิงสาวถึงกับสะดุ้ง
“เปล่าค่ะ” คำตอบยอดฮิต แต่ผู้เป็นเจ้านายหาได้เชื่อตามที่เธอบอกไม่
“หนูมิ้นจ้องหน้าฉัน แล้วหน้าแดง เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ” กฤษณ์ถาม เขาเองก็รู้ดีในสิ่งที่เธอเป็น เพราะแววตาของหญิงสาวนั้นปิดไม่มิด แม้หัวใจของเขาจะพองโต แต่ต้องยั้งเอาไว้ เพราะเธอเป็นลูกของเพื่อน
“มิ้นร้อนค่ะ เอ่อ มิ้นขอไปนั่งกับแก้วได้ไหมคะ เธออยากตั้งสติของตัวเธอเอง แต่กลับไม่ได้รับอนุญาต
“พ่อหนูมิ้นจีบเพื่อนเรา แล้วเราจะเข้าไปขัดทำไม” มันก็ใช่ แต่แบบนี้มันแย่ต่อหัวใจของเธอนี่นา มินตราคิดพลางหันหน้าหนีจากคนข้างๆ คนที่ทำให้เธอหัวใจเต้นแรง จนแทบจะหลุด เธอกลัวว่า หากเธอไม่หันหน้าหนี เธออาจจะถลากอดเขาแน่ๆ
หนุ่มใหญ่รู้สึกแปลกๆ ที่ลูกของเพื่อนหันหน้าหนีเขา หนุ่มใหญ่ไม่ชอบคนที่คุยไม่จบแล้วหันหนี ดังนั้น มือของเขา มันจึงไวพอๆ กับความคิด นั่นคือ เอื้อมมือใหญ่ไปจับคางของสาวสวยให้หันกลับมาหาตน อย่างลืมตัว
“อ๊ะ!” มินตราอึ้งและตกใจ ที่จู่ๆ มือของเพื่อนพ่อก็จับเข้าคางของเธอ หัวใจที่กำลังควบคุม ตอนนี้กลับทำไม่ได้แล้ว มันเต้นรัวๆ จนเธอกลัวว่ามันจะหลุดออกจากขั้วในไม่ช้านี้แน่
ดวงตาทั้งคู่สบกัน ใบหน้าของมินตราแดงก่ำ ส่วนกฤษณ์นั้นเรียบนิ่ง แต่แววตานั้นไม่ได้นิ่งไปกับหน้าตา ยิ่งมองยิ่งสัมผัส หนุ่มใหญ่ยิ่งเห็นความมีเสน่ห์ของลูกสาวเพื่อน เธอน่ารักน่าใคร่ขนาดนี้ ต้องมีผู้ชายมาจีบเยอะแน่ ใบหน้ามืดขึ้นอย่างไม่ทันรู้ตัว
“คุณกฤษณ์ทำอะไร ปล่อยมิ้นนะคะ” มินตราพูดเบาๆ เธอกลัวว่าพ่อของเธอจะได้ยิน
“ฉันยังพูดไม่ทันจบ หนูมิ้นหันหน้าหนีฉันทำไม” กฤษณ์ถาม มือยังไม่ยอมปล่อยจากคางของสาวสวย
“มิ้นเปล่า แค่อยากหันไปดูอย่างอื่นมั่ง ก็แค่นั้นเอง” มินตราว่า พลางเอามือเรียวมาแกะมือใหญ่ออกจากคาง แต่กลับดึงไม่ออก ทำไมต้องจับเธอแน่นแบบนี้ด้วย เธอห้ามใจจะไม่อยู่แล้วนะ
“จะแกะมือฉันออกทำไม” หนุ่มใหญ่ถามเสียงเข้มๆ ถามได้ว่าแกะทำไม ขืนไม่แกะ เธอต้องกระโจนใส่เขาแน่ นี่เธอแทบจะห้ามใจไม่อยู่แล้วนะ
“อื้อ คุณ จะมาจับคางมิ้นทำไมคะ ปล่อยนะคะ เดี๋ยวพ่อเห็น” หญิงสาวพูดเบาๆ แต่คนตัวโตกลับไม่ฟัง
“ไม่เห็นหรอก จีบสาวอยู่นั่น” หนุ่มใหญ่พูด สายตาจับจ้องที่ใบหน้าสวยซึ้งของมินตรา หญิงสาวหวั่นใจเหลือเกิน เธอไม่กลัวหรอกถ้าพ่อจะหันมาเห็น แต่ที่เธอกลัว ก็คือหัวใจของตนนั่นแหละ มันจะกระโจนงาบเพื่อนของพ่ออยู่แล้ว
“คุณกฤษณ์คะ ปล่อยมิ้นนะคะ เดี๋ยวมิ้นอดใจไม่อยู่” มินตราห้ามเสียงแผ่ว หนุ่มใหญ่เลิกคิ้วขึ้น อดใจไม่อยู่ คือยังไง
“ทำไมจะต้องอดใจไม่อยู่” เพื่อนของธนา เคลื่อนใบหน้าหล่อคมเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวใจสั่นรัวๆ เธอหลับตาปี๋ อ่าส์ เธอจะไม่ไหวแล้วนะ ทำไมต้องทำกับเธอแบบนี้ด้วย
มินตราลืมตาขึ้นมา ก็ต้องผงะ เมื่อใบหน้าคมเข้มหยุดห่างจากใบหน้าสวยของเธอแค่ศอกเดียว
หญิงสาวถึงกับสะท้านขึ้นมา อาส์ แย่แล้ว มินตรห้ามใจไม่ได้อีกต่อไป ใบหน้าสวยหวานนั้นเลื่อนเข้าไปใกล้ แล้วริมฝีปากอวบอิ่มของเธอก็ประกบลง กฤษณ์ชะงัก ชาวูบไปทั่วร่าง นี่เขาถูกสาวอายุคราวลูกจูบ แถมเป็นลูกของเพื่อนอีก แต่ทำไมเขาต้องรู้สึกดีแบบนี้ด้วย!
หนุ่มใหญ่เจอมินตราจูบ หัวใจก็สั่นไหว เขาหลับตาลง ซึมซับรสจูบของเธอ อ่าส์ นุ่มและหวานมาก ชายหนุ่มคิดอย่างชอบใจ ก่อนที่เขาจะจูบเธอกลับ ลิ้นสากๆ ของกฤษณ์ดูดดึงเรียวลิ้นเล็กๆ ของมินตรา ปากของเขาเคล้าคลึงเบาๆ ให้พอกระสัน แล้วจับคางของเธอให้เชิดขึ้น เพื่อรับการจูบของเขาอย่างบ้าคลั่ง
จูบกระชากวิญญาณของหนุ่มใหญ่ทำให้มินตราถึงกับอ่อนระทวย นี่ขนาดเธอป็นคนจูบเขาก่อนแท้ๆ หญิงสาวยังไปไม่เป็นเลยคนมีประสบการณ์ก็เป็นแบบนี้แหละ มือบางๆ ยกขึ้นมาขยำเสื้อของกฤษณ์ตั้งแต่ตอนไหน เธอเองก็ไม่รู้ตัว รู้แค่ว่าตอนนี้เธอเสียวสะท้านวูบวาบที่กลางกายสาวเข้าแล้ว
“อ่าส์” มินตราครางในลำคอเบาๆ เมื่อกฤษณ์จูบจนพอใจ เขาก็ถอนปากออก แต่ยังคลอเคลียที่ริมฝีปากนุ่มๆ ความคิดของเขาวาบขึ้นมา ปากนี้หอมมาก ทั้งนุ่มสุดๆ เขาชักจะติดใจปากอิ่มนี้สิ ตาคมๆ จับจ้องที่ใบหน้าและริมฝีปากบวมเจ่อ เพราะถูกเขาจูบอย่างหนัก
“เธอกล้าจูบฉันนะมินตรา เธอคิดเหรอว่าการที่ฉันเป็นเพื่อนกับพ่อของเธอฉันจะไม่กล้าจูบตอบ เธอคิดผิดแล้ว” หนุ่มใหญ่พูดชิดริมฝีปากอิ่มสวย พลางเลียที่กลีบปากเบาๆ ก่อนจะจูบอีกรอบ
คราวนี้หนุ่มใหญ่ทั้งดูดทั้งดึง พร้อมทั้งตวัดเอวบางเข้ามาแนบชิดกายของเขาที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม จนอกอวบๆ ของเธอบดเบียดที่อกแกร่งดเขาอย่างแนบชิด
“อ่าส์ หวาน หวานมาก” กฤษณ์ครางอย่างถูกใจ ก่อนจะถอนจูบออกมา สายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าสวยหวาน ที่ตอนนี้แดงก่ำไปหมดแล้ว
“อยากจูบกับฉันอีกไหม ฉันพร้อมนะ” พูดชิดใบหูของเธอ พลางเม้มเบาๆ มินตราสะดุ้งวาบ ขยับกายถอยห่างทันที แต่ติดที่อ้อมแขนแกร่งนั่น ที่ไม่ยอมปล่อย
“ปละ ปล่อยมิ้นนะคะ” เธอพูดเสียงสั่นๆ
“ฉันจะปล่อย ถ้าต่อไป เวลาฉันคุยด้วย เธออย่าหันหน้าหนีไปจากฉัน เคไหม” เอาเรื่องแค่นี้แหละ นอกนั้นยังคิดไม่ออก แต่แค่นี้ มันก็ดีต่อใจเขาที่สุดแล้ว
“อื้ออ เคค่ะ ตกลง” เธอรีบพูด เขาปล่อยเอวบางของเธอ หญิงสาวก็รีบขยับหนีอย่างรวดเร็ว เธอต้องนั่งรถไปอย่างใจที่สั่นรัวๆ ไปตลอดทาง