เช้าวันรุ่งขึ้น ไลลาตื่นขึ้นมาตั้งแต่ตีห้าจัดการทำความสะอาดบ้าน และทำอาหารเตรียมไว้ให้เจ้าของบ้าน จนเวลาแปดโมงเช้า หญิงสาวเมียงมองไปยังห้องนอนของราฟาเอลไม่เห็นว่าเขาจะตื่นขึ้นมาสักที ก็ถือโอกาสนั้นเดินสำรวจเกาะ เมื่อวานถูกคนเกเรขัดจังหวะทำให้ไม่ได้เดินไปรอบๆ
เธอเลือกเดินไปทางด้านหลังของบ้านพัก ลัดเลาะไปตามทางเดินพบว่าด้านหลังมีต้นไม้ขึ้นเขียวขจี บ่งบอกความอุดมสมบูรณ์และยังมีถ้ำด้วย เดินไปอีกก็พบว่ามีแนวหินและชายหาด แม้ไม่สวยงามเท่าด้านหน้าบ้านพักแต่ก็เหมาะสำหรับนั่งตกปลาเล่น เดินสำรวจจนพอใจหญิงสาวก็เดินกลับมายังบ้านพัก และเห็นเรือกำลังแล่นออกจากท่าเรือไป จึงรีบวิ่งไปดู แต่พอไปถึงท่าเรือก็เห็นเพียงท้ายเรือแล่นไปไกลลิบตาแล้ว
“บ้าจริง”
ไลลาได้แต่ฮึดฮัดขัดใจตัวเอง หากเธอไม่เดินเล่นคงได้รู้แล้วว่าเรือเป็นของใคร บางทีอาจขอความช่วยเหลือได้
“เรือของลูกน้องฉันเอง เอาของมาส่งน่ะ”
คนตัวโตเดินมายืนข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ พอไลลาหันไปมองก็นิ่วหน้าเมื่อเห็นเขาอุ้มแมวสีขาวลายส้มหรือจะเรียกว่าสีส้มลายขาวก็ไม่รู้ไว้ในอ้อมแขน เจ้าเหมียวมีใบหน้ากลมเหนียงห้อยน่าดึง ใบหน้าของมันดูหยิ่งยโสไม่แพ้คนเป็นเจ้าของ มันสวมปลอกคอสีดำมีกระดิ่งสีเดียวกันห้อยคอ มันแนบหัวกับท่อนแขนเต็มไปด้วยรอยสักของราฟาเอลอย่างออดอ้อน ตัวอ้วนกลมเหมือนลูกขนุนเกาะแน่นกับแขนเจ้าของ
สุดโต่งปรายตามองหญิงสาวแล้วมองเมินเหมือนเหม็นเบื่อ แน่ล่ะมันไม่ค่อยชอบสาวๆ ของเจ้านายของมัน พวกผู้หญิงที่เจ้านายพามาชอบมาอุ้มมันแล้วส่งเสียงวี้ดว้ายน่ารำคาญ บางคนก็ฟัดมันจนขนร่วง มันต้องหลบไปอยู่ไกลๆ และที่สำคัญพวกสาวๆ เหล่านั้นยังทำให้เจ้านายของมันไม่มีเวลามาเล่นกับมัน เพราะมัวแต่เล่นกับเจ้าหล่อนบนเตียง พากันส่งเสียงร้องครางน่ารำคาญกันทั้งคืน เจ้าเหมียวส้มถูกพาตัวนั่งเรือมาหลายชั่วโมง มันแสนจะหงุดหงิดและยังเมาเรือจนอ้วกแตกไปสองรอบ พอได้เจอเจ้านายเจ้าเหมียวเลยเกาะเขาแน่น ซุกซบใบหน้ากับอ้อมแขนของเจ้านายไม่ยอมห่าง มันมองหญิงสาวแล้วเมินหน้าหนี หวังใจว่าเจ้านายคงไม่ทิ้งมันไปเล่นสนุกกับเจ้าหล่อนจนปล่อยให้มันต้องอยู่ตัวเดียวอีก
“แมวของคุณหรือคะ”
ไลลาขยับเข้ามาใกล้ มองเจ้าเหมียวส้มตัวอ้วนอย่างเอ็นดู มันตัวอ้วนกลมเหมือนก้อนขนพองๆ ต่างจากนินิวของเธอ เจ้าเหมียวน้อยของเธอไม่มีวี่แววว่าจะอ้วนได้ รูปร่างเพรียวหาความอ้วนไม่เจอ แม้จะพยายามหาอาหารดีมาบำรุง สุดท้ายก็ไม่เคยได้ผล
“นี่เจ้าสุดโต่ง ลูกชายสุดหล่อของฉันเอง มันหล่อมากเลยใช่ไหม”
ราฟาเอลลูบหัวลูกชายสีส้มของเขาอย่างชื่นชม เจ้าสุดโต่งของเขาช่างหล่อเหลาตามประสาแมวจริงๆ
“อ้วนเป็นหมูเชียว ท่าทางหยิ่งๆ นะคะ”
ไลลายื่นมือจะไปลูบหัวมันบ้าง แต่เจ้าเหมียวครางในคอเหมือนไม่ชอบใจ ราวกับว่ามันไม่ต้องการให้ใครแตะต้องนอกจากนายของมัน หญิงสาวชะงักดึงมือกลับ ไม่กล้าเสี่ยง กลัวจะโดนข่วนแบบที่นินิวข่วนราฟาเอลเมื่อวาน
“มันไม่ค่อยชอบให้ผู้หญิงจับน่ะ ถ้าคุ้นกันสักหน่อยคงให้จับเอง”
เขาจับเจ้าแมวอ้วนพาดบ่า เดินนำกลับมายังบ้านพัก ปล่อยให้ไลลาเดินตามหลัง หญิงสาวพยายามผูกไมตรีกับเจ้าเหมียวส้ม แต่มันเมินหน้าหนี ดูเหมือนทำหน้าเหม็นเบื่อเธอรุนแรง
“นิสัยเหมือนเจ้าของหรือเปล่าเนี่ย หยิ่งชะมัด”
ไลลาพึมพำ ขณะมองราฟาเอลพาเจ้าเหมียวส้มเข้าไปในบ้าน แล้วหยุดนั่งเล่นหน้าระเบียงบ้าน ไม่อยากตามเข้าไป หญิงสาวนั่งอยู่ครู่ใหญ่แล้วนึกขึ้นได้ว่าเธอปล่อยนินิวให้เดินเล่น แมวของเธอไม่เคยคลุกคลีกับแมวตัวอื่นอาจจะตกใจเมื่อเห็นแมวของราฟาเอล จึงรีบวิ่งเข้าไปในบ้านทันที ก่อนจะอ้าปากค้างเมื่อเห็นลูกสาวตัวน้อยของเธอ กำลังถูกแมวอ้วนคุกคามทางเพศอยู่
“กรี๊ดดดด อย่านะ อย่าขืนใจนินิวของฉันนะ!”
ไลลารีบไปจับเจ้าแมวอ้วนที่กำลังคร่อมบนร่างของนินิวออกไป หญิงสาวอุ้มแมวของเธอออกมาแล้วกอดปลอบมัน ถ้าเธอมาช้ากว่านี้นินิวคงโดนเจ้าเหมียวอ้วนข่มเหงไปแล้ว
“คุณให้แมวของคุณ ขืนใจแมวของฉัน!”
หญิงสาวหันไปกล่าวโทษเจ้าของแมวด้วยน้ำเสียงขุ่นจัด อีกฝ่ายหัวเราะขำ อุ้มเจ้าอ้วนของเขามาวางบนตัก ลูบหัวปลอบมันที่กำลังตกใจจนขนพอง
“สุดโต่งของฉัน มันถูกใจแมวของเธอ แล้วแมวของเธอไม่ได้ขัดขืนนะ เธอต่างหากมาขัดจังหวะพวกมัน” เขาแก้ตัวให้แมวตัวเอง
ตอนที่เขาพาเจ้าสุดโต่งเข้ามาในบ้าน พอวางมันลงแมวสามสีของไลลาก็เดินเข้ามาพอดี เจ้าเหมียวสองตัวจ้องหน้ากันครู่หนึ่ง ก่อนที่เจ้าสุดโต่งลูกชายสุดที่รักของเขา จะเดินเข้าไปยื่นจมูกดมกลิ่นแม่สาวหลากสี แล้วดูเหมือนแม่เหมียวน้อยจะชอบลูกชายสุดหล่อของเขา มันเป็นฝ่ายหมอบกับพื้นโก่งก้นให้ลูกชายเขาดม ผู้หญิงให้ท่าขนาดนี้ชายชาตรีที่ไหนจะขัดศรัทธาได้ ก็ต้องจัดสักหน่อยสิครับ เสียดายลูกชายของเขาไม่ทันได้เปิดซิงเหมียวสาวดาวยั่ว เจ้าของก็เข้ามาขัดขวางเสียก่อน
“นินิวของฉันยังซิงนะ ไอ้อ้วนของคุณจะมาพรากพรหมจรรย์แมวของฉันไม่ได้ ฉันไม่มีวันยอม”
ไลลาประกาศกร้าว มองทั้งเจ้าของทั้งแมวด้วยสายตาขุ่นเคือง โมโหเขามากที่ปล่อยให้แมวของเขารังแกแมวของเธอ โดยไม่ขัดขวาง
“แมวเธอสมยอมแมวฉันเองนะ เธอไม่เห็นท่าทางยั่วสวาทของมันเมื่อกี้ ถ้าเห็นจะไม่มีทางพูดแบบนี้เลย”
ราฟาเอลไม่ยอมแพ้ เขาไม่ยอมให้ลูกชายของเขาถูกกล่าวหาเด็ดขาด เสียดายเขาน่าจะถ่ายวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน ว่าแมวของอีกฝ่ายยั่วแมวเขาก่อน
“อย่ามาใส่ร้ายนินิวของฉันนะ แมวของฉันรักนวลสงวนตัว ไม่มีทางทำแบบนั้นหรอก แมวของคุณต่างหากบ้ากามเหมือนเจ้าของ คิดจะขืนใจแมวของฉัน”
ไลลาไม่มีทางเชื่อ เจ้าของนิสัยแบบไหน แมวก็คงนิสัยไม่ต่างกัน ราฟาเอลเคยปล้ำจูบเธอแมวของเขาก็ปล้ำแมวของเธอ มันนิสัยเดียวกันชัดๆ
“ถ้าอย่างนั้นลองปล่อยแมวเธอสิ ดูว่ามันยั่วแมวฉันยังไง ลองดูว่ามันนิสัยเหมือนเธอหรือเปล่า”
ราฟาเอลรู้สึกโมโหขึ้นมา มากล่าวหาว่าแมวของเขาบ้ากามเหมือนเจ้าของ แมวของเธอต่างหากยั่วยวนแมวของเขาชัดๆ อยากให้เจ้าของเห็นตอนอิเหมียวสามสีนี่ส่ายก้นให้ลูกชายเขาเหลือเกิน ดูสิว่าจะเถียงออกไหม
“ฉันไม่มีทางหลงกลคุณหรอก เรื่องอะไรจะปล่อยให้ลูกสาวของฉันเป็นเหยื่อลูกชายคุณ นินิวอย่าไปเข้าใกล้เจ้าบ้ากามสองพ่อลูกนั่นนะ เดี๋ยวจะถูกขืนใจ”
ไลลาไม่ยอมปล่อยแมวของเธอ แล้วยังอุ้มพาหนีขึ้นไปชั้นบน ปล่อยให้สองพ่อลูกต่างสายพันธุ์มองหน้ากัน
“สุดโต่ง พ่อว่าเราตกที่นั่งเดียวกันว่ะ เฮ้อ...”
ราฟาเอลถอนหายใจแรงด้วยความเหนื่อยใจ เขาต้องหาทางทำให้ไลลายอมสยบให้เขาให้ได้ และลูกชายของเขาต้องสมหวังกับแม่เหมียวสาวดาวยั่วนั่นเหมือนกัน
ศึกครั้งนี้เขาและลูกชายจะไม่มีทางยอมพ่ายแพ้เด็ดขาด!
///