รถคันหนึ่งแล่นมาจอดใต้ อพาร์ทเม้นท์ย่านใจกลางเมือง ประตูเปิดออกพร้อมกับร่างของไลลาก้าวลงมา หญิงสาวโบกมือและกล่าวขอบคุณสารถี ก่อนจะพาตัวเองเดินเข้าไปในอาคารขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นสิบของตึก ลิฟต์เปิดออกหน้าประตูห้องพักของนางแบบสาว เธอพาตัวเองเดินเข้าไปในห้องอย่างเหนื่อยล้า กระเป๋าใบเล็กถูกโยนบนโซฟา ขณะที่เจ้าตัวทิ้งกายลงพร้อมกับถอนหายใจแรงๆ ใบหน้ายังคงแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางแบบหนาหนัก ผมยังอยู่ในทรงเดิมเต็มไปด้วยสเปรย์หลากสี ที่ถูกช่างทำผมพ่นใส่ให้เข้ากับคอนเซปของเสื้อผ้า
อาชีพนางแบบใครว่าสบาย และไม่ได้เป็นอาชีพสวยหรู เพียงแค่สวมใส่เสื้อผ้าสวยงาม แต่ต้องมีวินัยในตัวเอง อาหารการกินถูกนักโภชนาการคัดเลือกมาให้อย่างเหมาะสม รวมถึงการออกกำลังกายสม่ำเสมอ รักษารูปร่างให้ตัวเองเป็นไม้แขวนเสื้อเดินได้ เพื่อให้ดีไซน์เนอร์เลือกมาสวมชุดของพวกเขา ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก มีบุคลิกภาพที่ดี และยังต้องพาตัวเองไปแคสติ้งเพื่อหางานใหม่ๆ แข่งขันกับนางแบบคนอื่น มันไม่ง่ายเลยว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้
ไลลาหลับตาลง ตั้งใจจะเอนหลังสักครู่ หลังจากงานนี้เธอได้พักเจ็ดวัน หญิงสาวตั้งใจจะกลับไปเยี่ยมบิดาและพี่ชาย เธอวุ่นอยู่กับการฝึกซ้อมเดินแบบร่วมเดือน ไม่ได้ติดต่อทางบ้านเลย พ่อกับพี่ชายมักจะทิ้งข้อความไว้ในเครื่องให้เธอแทนการโทรมารบกวน หญิงสาวจะเปิดอ่านในช่วงก่อนนอน
ครืด ครืด ครืด ...
เสียงครางในคอดังขึ้นข้างหู พร้อมกับมีอะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่ข้างๆ ซอกคอของไลลา หญิงสาวหรี่ตาขึ้นมอง ริมฝีปากแย้มออก เมื่อเห็นหัวเล็กๆ มีหูแหลมๆ ของลูกสาวสุดที่รัก กำลังเอาหน้าผากของมันเคล้าคลอแก้มของเธอไปมา จมูกเล็กเย็นชื้นถูไถ ลิ้นสีชมพูน่ารักแลบออกมาเลียใบหูของเธอ ความสากคายของปลายลิ้น ทำให้รู้สึกจั๊กจี้
“อื้อ... นินิว อย่าเลียสิลูก แม่ยังไม่ได้ล้างหน้า” ไลลาเอ่ยขึ้นไม่ดังนัก
ขณะจับเจ้านินิวแมวสามสีมานอนหงายบนตัก เจ้าเหมียวตัวนี้ขี้อ้อนมาก มันคงคิดถึงเธอหลังจากถูกทิ้งไว้ที่ห้องทั้งวัน ไลลางอนิ้วเกาคางเล็กๆ ของมันไปมา เจ้าเหมียวหลับตาพริ้มครางในคออย่างพอใจ นอนหงายพุงกลมให้เจ้าของจกเล่นแบบสบายใจ ความเหนื่อยล้าจากการทำงาน พลันมลายหายไปเกือบหมด
“นินิว... คิดถึงแม่เหรอลูก แม่ไปทำงานหาเงินซื้อขนมให้ลูกยังไงล่ะคะ”
ไลลาเรียกเจ้าเหมียวของเธอว่าลูกทุกคำ เธอได้นินิวมาจากข้างถนน ลูกแมวอายุราวสองเดือนตัวผอมเกร็ง ขนสกปรก นอนตัวสั่นอยู่ใต้บันไดด้านหลังอพาร์ทเม้น หากเธอไม่บังเอิญเดินผ่านไป มันคงหมดลมหายใจไปแล้ว ด้วยความสงสารไลลาจึงพามันไปหาหมอ เมื่ออาการดีขึ้นก็รับเป็นเจ้าของ พาชีวิตน้อยๆ มาอยู่ร่วมกัน แล้วตั้งชื่อให้มันว่า นินิว
“นิ ในภาษาคารัสซีเลีย แปลว่าชีวิต นิวคือใหม่ ชื่อนินิวจึงแปลว่ามีชีวิตใหม่”
หญิงสาวบอกความหมายชื่อของสัตว์เลี้ยงให้เพื่อนฟัง เจ้านินิวเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงสมบูรณ์ จากแมวน้อยตอนนี้มันมีอายุได้สองปีแล้ว อาศัยอยู่ในอพาร์ทเม้นท์ร่วมกับไลลาอย่างมีความสุข วันหยุดยาวนี้ไลลาตั้งใจจะกลับคารัสซีเลีย ปกติเธอมักฝากมันไว้กับร้านรับเลี้ยง แต่ครั้งนี้เธออยากพามันไปให้พ่อกับพี่ชายรู้จัก ไลลาเตรียมการตรวจสุขภาพของเจ้าเหมียว ขอใบรับรองจากสัตวแพทย์มาเรียบร้อย และยังจองตั๋วเครื่องบินไว้ให้มันกับเธอเดินทางไปพร้อมกันในวันพรุ่งนี้ กระเป๋าเดินทางมีเสื้อผ้าและข้าวของส่วนตัวของเธอกับเจ้านินิว ที่ลืมไม่ได้คือตุ๊กตากระต่าย ของสำคัญของเจ้าเหมียวน้อย มันติดตุ๊กตาตัวนี้มากเพราะเธอใช้ตุ๊กตาให้มันนอนกอดแทนแม่ของมันในตอนเล็กๆ โตมาเจ้าเหมียวก็ยังนอนกอดตุ๊กตาตัวนี้ทุกคืน ไม่ต่างจากเด็กติดตุ๊กตาเน่า
“นินิว พรุ่งนี้แม่จะพานินิวไปหาคุณตาอังตวน กับคุณลุงอังเดรนะคะ เราจะไปคารัสซีเลียด้วยกัน”
หญิงสาวบอกแมวน้อยของเธอด้วยน้ำเสียงสดใส คิดภาพตอนพี่ชายกับพ่อพบเจ้าเหมียวน้อย ท่านต้องชอบมันแน่นอน ยามเธอส่งภาพเจ้าเหมียวน้อยไปให้ ท่านก็บอกว่ามันน่ารักดี เจอตัวจริงท่านอาจจะกลายเป็นทาสของมันไปเลย
ครืด ครืด ครืด...
เจ้านินิวครางในคอคล้ายตอบรับ มันแหงนหน้าให้เธอเกาคางมันให้ทั่วๆ เมื่อเกาจนพอใจถึงจะขยับตัวมานอนคว่ำ เอามือเกาะแขนเธอไว้ กอดแขนของเธอจนนอนหลับไปอีกหน นิสัยแบบนี้ทำให้ไลลารักเจ้าเหมียวตัวนี้มาก มันขี้อ้อน แสนรู้ และน่ารักในสายตาของเธอ เพื่อนนางแบบต่างเลี้ยงแมวพันธุ์ดี หน้าตาน่ารัก ขนพองฟู อย่างพันธุ์เปอร์เซีย แต่เธอกลับเลือกเลี้ยงแมวข้างถนนขนสามสี หน้าตาธรรมดาตัวนี้
“นอนรอแม่ก่อนนะ เดี๋ยวแม่ไปอาบน้ำแล้วจะรีบมานอนด้วย”
ไลลาอุ้มเจ้าเหมียวไปวางบนเตียง เธอปูผ้าขนหนูลายการ์ตูนและวางตุ๊กตากระต่ายเน่าไว้ให้มันกอด เจ้านินิวปรือตาขึ้นมองนิดหนึ่ง ตอนเธอวางมันลง ก่อนจะซุกตัวเอาปากคาบหูตุ๊กตากระต่าย แล้วนอนหลับไป
“ใครจะน่ารักเท่านินิวของแม่ ถึงไม่มีขนฟูยาวเหมือนแมวคนอื่น แต่แม่ก็รักของแม่เนอะ”
ไลลาลูบศีรษะสัตว์เลี้ยงแสนรัก ก่อนจะตัดใจเดินเข้าไปในห้องน้ำจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า มานอนกอดเจ้าเหมียว แล้วหลับไปพร้อมกับรอยยิ้มมีความสุข โดยไม่รู้ว่ามีอะไรบางสิ่ง รอเธออยู่ที่คารัสซีเลีย ...
///
ณ สนามบินคาซาญ่า
ไลลาลงจากเครื่องมารอรับกระเป๋าเดินทาง ก่อนจะทำเรื่องขอรับเจ้าเหมียวนินิวของเธอ เมื่อได้ตัวสัตว์เลี้ยงแสนรักแล้ว หญิงสาวก็เรียกแท็กซี่เดินทางไปยังท่าเรือ เพื่อเดินทางต่อไปยังเมืองปาปารันแคว้นปาสคาล ไลลาเลือกเดินทางโดยเรือเพื่อจะได้นำนินิวไปด้วย เธอไม่อยากให้เจ้าเหมียวต้องถูกซุกตัวไว้ใต้เครื่องบิน แค่เดินทางจากมิลานมายังคารัสซีเลียก็หนักหนาพอแล้ว
เมื่อขึ้นเรือมาได้ ก็เข้าไปยังห้องพักของเรือ ซึ่งสะดวกสบายมีพื้นที่ส่วนตัวให้สามารถปล่อยเจ้าเหมียวออกจากรงแคบๆ ได้
“พรุ่งนี้เราก็จะไปถึงบ้านของแม่แล้วนะคะ”
ไลลาบอกลูกรักสี่ขาของเธอ ลูบหัวมันเบาๆ
“เมี้ยว เมี้ยว...”
เจ้านินิวร้องตอบในคอ มันดูสดชื่นขึ้นเมื่อได้ออกจากกรง ระยะเวลาหลายชั่วโมง ที่ต้องทนอุดอู้ในกรง ทำให้เจ้าเหมียวดูอ่อนเพลีย มันขยับเหยียดขายืดตัวให้หายขี้เกียจ ก่อนจะเอาหัวมาถูกแขนเจ้าของไปมา อ้อนแรงๆ แบบนี้บ่งบอกว่ามันรู้สึกหิวขึ้นมาแล้ว