ยัยลูกแพรจอมแก่น
ผู้ชายคนหนึ่งอยู่ไกลเกินที่จะเอื้อมมือคว้า แต่ทว่าเวลานี้เขายืนอยู่ที่นี่ตรงหน้าเธอ เจ้าของร่างบางจงใจเดินไปอยู่ข้างหน้าชายหนุ่ม เขาผู้ซึ่งมีรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าคมคายหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในฝัน
หัวใจของเธอกำลังเต้นรัวแรง เมื่อกำลังคิดแผนการแกล้งทำมารยาสักอย่างเพียงเพื่อจะได้ใกล้ชิดเขา ทันใดร่างเพรียวบางในชุดเดรสเกาะอกสีชมพูเลื่อมพรายก็ไหวเอนคล้ายจะหน้ามืดเป็นลมล้มพับลงตรงหน้าบุรุษหนุ่ม แต่ทว่าสองแขนแข็งแรงก็เข้ามาโอบประคองร่างของเธอเอาไว้มั่น
สาวน้อยยังคงตัวอ่อนระทวยทำท่าราวกับจะเซล้มลงไปอีก แต่ร่างสูงใหญ่ภูมิฐานก็ประคองกอดร่างบอบบางให้หยัดยืนขึ้นแนบชิด จนหญิงสาวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นในอ้อมกอดแกร่ง หากเป็นไปได้เธอก็อยากให้โลกหยุดเวลาไว้แค่ตรงนี้
ขณะที่สายตาของโจนาธาน กำลังทอดมองขึ้นไปบนเวทีที่ยิ่งใหญ่ตระการตา ผู้ชมนับร้อยนับพันก็มองขึ้นไปบนนั้นรวมทั้งลูกแพรด้วย ที่กำลังรอคอยการปรากฏตัวของผู้หญิงที่สวยที่สุดในงาน ทันใดนางฟ้าในชุดราตรีสีแดงเพลิงก็ปรากฏโฉมให้ทุกคนได้ยล หล่อนสวยมาก สวยจนลูกแพรก็ยังอดอิจฉาหล่อนไม่ได้ ผู้หญิงคนนี้สินะคือคู่หมั้นของเขา
ลูกแพรรู้ว่าช่วงเวลาแห่งความสุขของเธอคงสิ้นสุดลงเท่านี้ แต่เพราะหัวใจที่ยังดื้อรั้นอยากยืดเวลาแห่งความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดชายหนุ่มออกไปอีกสักนาที สาวน้อยจึงทำเหมือนไม่มีแรงเดิน แต่เธอก็ไม่มีแรงจะขยับไปไหนจริงๆ นั่นแหละ มันอ่อนระทวยไปหมดเมื่อตกอยู่ในวงแขนของเขา
โจนาธานโอบประคองพาร่างเล็กมานั่งที่ท้ายรถคันหนึ่ง ลูกแพรไม่ทันได้หันไปมองว่ามันเป็นรถอะไร แต่ว่ารถคันนั้นกลับเคลื่อนที่พาเธอห่างไกลเขาออกไปทุกทีๆ จนเมื่อภาพของเขาเลือนรางไปหญิงสาวจึงได้รู้ว่ารถที่นั่งมาเป็นเพียงรถจักรยานคันหนึ่งซึ่งต่ำต้อยด้อยค่าเหลือเกิน
แล้วภาพทุกอย่างก็พร่าเลือน ร่างบางลืมตาตื่นขึ้นมาในตอนดึกเกือบเที่ยงคืนด้วยความรู้สึกแสนเสียดาย และยังอยากจะฝันถึงเขาต่อ โจนาธาน...ผู้ชายที่เธอแอบคลั่งไคล้เขามานานถึงสามปี สายตาของเธอมีไว้สำหรับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
“คุณโจ เมื่อไหร่นะลูกแพรถึงจะมีโอกาสได้ใกล้ชิดคุณจริงๆ เหมือนกับในฝัน คุณจะรู้หรือเปล่าว่าลูกแพรแอบรักคุณมานานแล้ว” สาวน้อยช่างฝันพูดกับตนเองคนเดียวในห้องนอนที่เงียบสงัด
ใบหน้าหวานละมุนยิ้มออกมาพร้อมกับดวงตาที่ทอประกายแวววาวท่ามกลางความมืดสลัวที่มีเพียงแสงจันทร์สาดส่องผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง
พรุ่งนี้ก็ปิดเทอมแล้วสินะ ถ้าเป็นไปได้เธอก็อยากจะเห็นหน้าเขาตัวเป็นๆ สักครั้ง โจนาธาน นักร้องซูเปอร์สตาร์ที่ดังที่สุดของเมืองไทยในขณะนี้ จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่เธอจะได้ใกล้ชิดเขาจริงๆ มิใช่แค่เพียงในฝัน มือเล็กสองข้างกุมเข้าหากันแนบอก แล้วภาวนาให้สิ่งที่เธอกำลังคิดฝันให้เป็นจริง
ที่หมู่บ้านจินดานคร
“นีโม่ แกมาทำอะไรอยู่ตรงนี้เนี่ย...ฮะ มาแอบมองสาวบ้านตรงข้ามอยู่ใช่ป๊ะ...ฉันรู้นะว่าแกแอบเล็งสาวน้อยโซฟี่อยู่แน่ๆ เลย”
ลูกแพรเดินเข้ามาหยอกเจ้าหมาน้อยพันธุ์ชิสุห์ตัวผู้อย่างมันเขี้ยว และดึงขนยาวๆ ของมันที่มัดจุกเอาไว้บนหัวไปมาเบาๆ แต่ท่าทางเจ้านีโม่มันจะไม่สนใจสาวน้อยเท่าไรนัก เพราะมันกำลังสนใจเจ้าหมาน้อยน่ารักนามว่าโซฟี่จนแทบไม่ยอมอยู่นิ่ง
เจ้านีโม่เป็นหมาน้อยแสนรักของคุณนายอรวีซึ่งเป็นเจ้านายของป้านิ่ม และป้านิ่มก็เป็นป้าเพียงคนเดียวของลูกแพร เพราะแม่ของสาวน้อยมีพี่สาวเพียงคนเดียว
ช่วงนี้ลูกแพรปิดเทอมเล็ก หญิงสาวจึงคิดถึงป้าที่แสนใจดีของเธอขึ้นมาก็เลยเดินทางมาหาป้านิ่มในกรุงเทพมหานคร จะอยู่เฉยๆ ก็กระไรอยู่ สาวน้อยจึงขออาสาเป็นสาวใช้คอยดูแลเจ้าสุนัขตัวโปรดให้กับคุณนายแกเสียเองเลย เพราะเป็นงานที่เธอถนัดและชอบมากอยู่แล้ว
และงานที่ลูกแพรต้องทำเป็นประจำทุกวันก็คือ เอาอาหารให้มันทุกเช้า พามันไปอึในที่ของมัน พามันอาบน้ำยามแดดอ่อนๆ แล้วก็พามันไปเดินและปวิ่งเล่นรอบตัวบ้าน แต่สิ่งที่ลูกแพรแอบทำประจำก็คือ พาเจ้าสุนัขหนุ่มไปเล่นกับโซฟี่สุนัขสาวน่ารักตัวหนึ่งที่อยู่บ้านหลังตรงข้ามเวลาที่เจ้าของบ้านทั้งสองหลังไม่อยู่บ้าน
“ลูกแพร”
“จ๋าป้า มีอะไรจ๊ะ”
“จะแอบเอาเจ้านีโม่ไปบ้านโน้นอีกใช่มั้ย ป้าบอกแล้วไงว่าเจ้าของบ้านโน้นเขาจะว่าเอาได้ เขาหวงหมาเค้าจะตาย เกิดหมาเราไปกัดหมาเค้ามันจะยุ่งเอานา”
“โธ่ป้า คิดมากไปได้ เจ้านีโม่น่ะ มันไม่กล้ากัดเจ้าโซฟี่หรอกน่า มันรักเจ้าโซฟี่จะตาย” ลูกแพรเถียงอ้อมแอ้มจนป้านิ่มอดที่จะมองหลานสาวจอมซนอย่างหมั่นไส้ไม่ได้ สาวน้อยเดินจูงเจ้านีโม่เข้ามาหาป้านิ่มซึ่งกำลังนั่งปอกเปลือกผลไม้อยู่ที่ม้านั่งหินอ่อนในสวนหน้าบ้าน
“ฮึ เลี้ยงหมาไม่กี่วันก็รู้ใจกันซะแล้ว แล้วนี่ก็กำลังคิดจะเป็นแม่สื่อแม่ชักให้กับเจ้านีโม่มันอยู่ใช่มั้ยเนี่ย”
“แหมป้าก็ แพรสงสารมันนี่จ๊ะป้า เจ้านีโม่มันแอบรักเจ้าโซฟี่มาตั้งหลายวันแล้ว เวลามันได้เจอกันนะป้า โอ้โฮ...มันจูจุ๊บกัน หอมแก้มกันดูมีความสุขจะตาย”
ป้านิ่มมองหน้าหลานสาวจอมทะเล้นผ่านแว่นสายตาด้วยแววตาดุ แต่ก็ดูไม่จริงจังนัก ก่อนที่จะโคลงศีรษะไปมาอย่างระอาในพฤติกรรมแก่แดดแก่ลมของหลานสาว นี่ขนาดสุนัขเจ้าหล่อนยังไม่วายจับคู่ให้มันอีก
นางรู้ว่าที่ลูกแพรพยายามที่จะให้เจ้าสุนัขสองตัวนั้นชอบพอกันก็เพื่อเป็นข้ออ้างในการเข้านอกออกในบ้านหลังนั้นได้อย่างไม่เคอะเขิน เวลาที่มีคนถามว่าเธอเข้าไปทำอะไรที่บ้านหลังนั้น
เพราะป้านิ่มเคยเล่าให้ลูกแพรฟังว่า เจ้าของบ้านหลังนั้นเป็นถึงนักร้องซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทยที่กำลังจะโกอินเตอร์ไปถึงเมืองนอก และฉายาของเขาก็คือ คาสโนวาโนเบลแห่งวงการนักร้องไทยเลยแหละ วารสารเกือบทุกฉบับที่เกี่ยวข้องกับวงการบันเทิง ต่างก็มีแต่ข่าวฉาวโฉ่เรื่องผู้หญิงของเขาไม่เว้นแต่ละวัน
แต่ไม่ว่าข่าวจะเขียนว่านักร้องหนุ่มเสียๆ หายๆ อย่างไร เขาก็ยังคงดังไม่หยุดฉุดไม่อยู่ ซึ่งอาจเป็นเพราะว่าเขาเป็นนักร้องที่รูปหล่อขั้นเทพ มีน้ำเสียงมหาเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ใครๆ ก็เลียนแบบไม่ได้ และสิ่งที่ลูกแพรสืบมาได้ก็คือ นักร้องซูเปอร์สตาร์ในดวงใจของเธอคนนี้คลั่งไคล้วงสกอร์เปี้ยนส์มากที่สุด
“ป้าจ๋า” สาวน้อยทำเสียงประจบป้าสุดที่รักของเธอ
แม่บ้านวัยชราละจากการปอกเปลือกผลไม้ในมือชั่วครู่ เงยหน้าขึ้นมองหลานสาวตัวแสบอย่างรู้ทัน
“ทำเสียงแบบนี้ อยากพาเจ้านีโม่ไปบ้านโน้นอีกล่ะสิท่า”
“แหมป้า รู้ใจแพรอีกแล้วนะ ถ้างั้นแพรไปนะ”
“เดี๋ยว! ลูกแพร!”
ไม่ทันเสียแล้ว เพราะร่างเล็กรีบจูงเจ้าหมาน้อยวิ่งออกนอกประตูรั้วหน้าบ้านไปแล้ว ป้านิ่มต้องนั่งถอนหายใจหนักๆ ออกมาเสียงดังอย่างไม่รู้จะทำยังไงให้ลูกแพรฟังที่นางเตือนบ้าง...